พฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ติดเชื้อเอดส์ที่เข้าร่วมโครงการรับยาต้านไวรัสเอดส์ในโรงพยาบาลชุมชน จังหวัดอุบลราชธานี

Self-Care Behavior of AIDS Patients in Participating on Antiretroviral Drug in Community Hospital of UbonRatchathani

Name: ธนภร สนิทอินทร์

keyword: เอดส์

ThaSH: การติดเชื้อเอชไอวี - ผู้ป่วย

Classification :.DDC: 616.9792

ThaSH: โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง

ThaSH: โรคเอดส์

Abstract: การวิจัยครั้งมีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ติดเชื้อเอดส์ที่เข้าร่วมโครงการรับยาต้านไวรัสเอดส์ในโรงพยาบาลชุมชน จังหวัดอุบลราชธานี 2) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยด้านชีวสังคม ปัจจัยร่วม ปัจจัยหลักกับพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ติดเชื้อเอดส์ที่เข้าร่วมโครงการรับยาต้านไวรัสเอดส์ในโรงพยาบาลชุมชน จังหวัดอุบลราชธานี 3) เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ติดเชื้อเอดส์ที่เข้าร่วมโครงการรับยาต้านไวรัสเอดส์ในโรงพยาบาลชุมชน จังหวัดอุบลราชธานีและ 4) เพื่อศึกษาตัวแปรที่มีอิทธิพลต่อการทำนายพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ติดเชื้อเอดส์ที่เข้าร่วมโครงการรับยาต้านไวรัสเอดส์ในโรงพยาบาลชุมชน จังหวัดอุบลราชธานี ประชากรที่ใช้ในการวิจัยเป็นผู้ติดเชื้อเอดส์ที่เข้าร่วมโครงการรับยาต้านไวรัสเอดส์ที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไปในโรงพยาบาลชุมชน จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 1,486 คน ได้มาโดยการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอนจำนวน 320 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นแบบสอบถามประกอบด้วย 4 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 แบบสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลด้านชีวสังคม ส่วนที่ 2 แบบสอบถามเกี่ยวกับปัจจัยเกี่ยวกับปัจจัยร่วมที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ติดเชื้อเอดส์ มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .80 ส่วนที่ 3 แบบสอบถามเกี่ยวกับปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ติดเชื้อเอดส์ มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .80 และส่วนที่ 4 แบบสอบถามเกี่ยวกับพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ติดเชื้อเอดส์ มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .85 และค่าความเชื่อมั่นโดยภาพรวมเท่ากับ .80 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สันและการวิเคราะห์ถดถอยพหุคุณ ผลการวิจัยพบว่า 1. พฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ติดเชื้อเอดส์ที่เข้าร่วมโครงการรับยาต้านไวรัสเอดส์ในโรงพยาบาลชุมชน จังหวัดอุบลราชธานี ด้านการปฏิบัติตามแผนการรักษาอยู่ในระดับที่ดีมากและด้านการส่งเสริมสุขภาพอยู่ในระดับดี 2. ปัจจัยด้านชีวสังคมได้แก่ เพศ มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ติดเชื้อเอดส์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ระดับการศึกษามีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ติดเชื้อเอดส์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 อายุ สถานภาพการสมรส อาชีพ รายได้ ระยะเวลาที่ติดเชื้อ ระยะเวลาที่เข้าร่วมโครงการ ไม่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ติดเชื้อเอดส์ 3. ปัจจัยร่วมแรงสนับสนุนทางสังคม ได้แก่ การได้รับการยอมรับจากบุคคลในครอบครัวการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่มผู้ติดเชื้อเอดส์ การได้รับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ติดเชื้อเอดส์ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 4. ปัจจัยหลักความเชื่อด้านสุขภาพมีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ติดเชื้อเอดส์ที่เข้าร่วมโครงการรับยาต้านไวรัสเอดส์ในโรงพยาบาลชุมชน จังหวัดอุบลราชธานี ด้านการรับรู้ถึงประโยชน์ของการรักษาโรคเอดส์ มีความสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และด้านการรับรู้โอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคแทรกซ้อนหรือโรคฉวยโอกาสจากโรคเอดส์ มีความสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วน การรับรู้ ถึงความรุนแรงของโรคเอดส์ การรับรู้ถึงปัญหาอุปสรรคของกระบวนการรักษาโรคเอดส์ ไม่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ติดเชื้อเอดส์ 5. ตัวแปรทำนางที่ดีของพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ติดเชื้อเอดส์ที่เข้าร่วมโครงการรับยาต้านไวรัสเอดส์ในโรงพยาบาลชุมชน จังหวัดอุบลราชธานี มี 5 ตัว เรียงลำดับความสำคัญ ได้แก่ แรงสนับสนุนทางด้านครอบครัว เพศ แรงสนับสนุนด้านเจ้าหน้าที่ การรับรู้ถึงประโยชน์ของการรักษา ระดับการศึกษา โดยตัวแปรทำนายทั้ง 5 ตัว ร่วมกันสามารถอธิบายความแปรปรวนได้ร้อยละ 25.3 เขียนสมการทำนายเชิงเส้นได้ดังนี้ สมการทำนายเชิงเส้นในรูปคะแนนดิบ = 1.807 + .168X1 +.05 X3 + 1.31 X8 + 186 X9 + .065 X13 สมการทำนายเชิงเส้นในรูปคะแนนมาตรฐาน = .273Z1 + .110Z.3 + .174Z8 + .262Z9 + .143Z13 The objectives of this study were 1) investigate self – care behaviors of AIDS patients, 2X to examine the relationship among certain influential variables namely bio – social factors, contributing factors, major factors and self – care behaviors of the patients, 3) to identify the factors influencing self – care behaviors of the patients, and 4) to study the variables affecting the prediction of self – care behaviors of the patients who had participated in the Anti – retroviral Drug Project in Community Hospital of Ubon Ratchathani province. A total of 320 out of 1,486 patients with AIDS, aged 15 years and older, who had participated in the Anti – retroviral Drug Project in the Community Hospital of Ubon Ratchathani province, were employed as the sample group of the study. They were selected by using a multi staged sampling technique. A five – scale rating survey questionnaire was utilized as the research instrument. It included four parts as follows: Part 1 consisting of the questions about bio – social factors of the respondents; Part 2 covering the questions about contributing factors to self – care behaviors yielding an overall coefficient reliability of .80; Part 3 including questions about the major factors affecting self – care behaviors giving an overall coefficient reliability of .80; Part 4 comprising the questions about the patients’ self – care behaviors providing an overall coefficient reliability of .85. The overall coefficient reliability of the whole questionnaire was found to be at .80. The statistics used in data analysis included frequency, percentage, mean, standard deviation, Pearson’s product moment correlation coefficient, and multiple regression analysis. The research findings were as follows: 1. Self – care behaviors of patients with AIDS who had participated in the Anti – retroviral Drug Project in Community Hospital of Ubon Ratchathani province in terms of the practice that complied with the medication plan were found to be at a very good level and the health promotion aspect at a good level. 2. For the relationship between bio – social factors and self – care behaviors of patients with AIDS, the results showed that gender was relevant to the self – care behaviors of patients at a statistical different at level .01 of significance; educational level was found related at a statistical different at level .05 significance. Marital status, occupation, income, duration of disease infection, and duration, of participation in the Anti – retroviral Drug – Project in Community Hospital of Ubon Ratchathani province were not found to be relevant to self – care behaviors of patients with AIDS at a significant difference. 3. For the contributing factors, that is, social support which included the acceptance from family, participation in patients with AIDS group activities, and obtaining of advice from hospital staff, all these factors were found to be positively related to self – care behaviors of the patients with AIDS at a statistical different at level .01 significance. 4. Major Factors namely beliefs in health affecting self – care behaviors of the patients with AIDS who had participated in the Anti – retroviral Drug Project in Community Hospital of Ubon Ratchathani province were found as follows: the awareness of the benefits in AIDS curing had a positive relationship with self – care behaviors of the patients at a statistical different at level .01 of significance and the perception of the risk in getting the intervening diseases at level .05 of significance. The awareness of the severity of the severity of AIDS, perception of difficulties and obstacles in AIDS medication were not found to be relevant to self – care of the patients at a significant difference. 5. Five factors found to be best predictors of self – care of the patients with AIDS who had participated in the Anti – retroviral Drug Project in Community Hospital of Ubon Ratchathani province included family support, gender, support from hospital staff, the patients awareness of benefits in medication, and educational level. These factors were able to predict the self – care behaviors with 25.3 percent of accuracy. They were exhibited in the regression equations as follows: Raw score equation: = 1.807 + .168X1 +.051 X3 + 1.31 X8 + 186 X9 + .065 X13 Standard score equation: = .273Z1 + .110Z.3 + .174Z8 + .262Z9 + .143Z13

มหาวิทยาลัยราชภัฎอุบลราชธานี. สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ

Address: อุบลราชธานี

Email: info.lib@ubru.ac.th

Name: รองศาสตราจารย์พจนีย์ เสงี่ยมจิตต์

Role: ประธานกรรมการที่ปรึกษา

Modified: 2553-08-24

Created: 2552

Issued: 2553-06-30

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

DegreeName: สาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: การสร้างเสริมสุขภาพ

Grantor: มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี

©copyrights มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	titlepage.pdf	190.27 KB	329	2025-03-21 09:31:33
2	abstract.pdf	388.25 KB	341	2025-03-21 09:32:23
3	content.pdf	333.18 KB	192	2023-12-11 15:02:49
4	chapter1.pdf	458.65 KB	355	2025-03-12 15:28:54
5	chapter2.pdf	3.27 MB	552	2024-12-14 10:05:43
6	chapter3.pdf	574.9 KB	295	2024-09-20 17:37:38
7	chapter4.pdf	1.21 MB	275	2024-09-20 17:37:48
8	chapter5.pdf	1.1 MB	300	2024-09-20 17:37:58
9	bibliography.pdf	425.42 KB	259	2023-12-11 15:04:56
10	appendix.pdf	1.43 MB	343	2024-09-20 17:38:22
11	biodata.pdf	148.05 KB	178	2025-03-21 09:32:13

ใช้เวลา

0.027609 วินาที