Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์สามประการคือ 1. เพื่อสร้างชุดนิเทศเรื่องการวิจัยในชั้นเรียน สำหรับผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน 2. เพื่อหาประสิทธิของชุดนิเทศ เรื่องการวิจัยในชั้นเรียน สำหรับผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐานที่สร้างขึ้น และ 3. เพื่อเปรียบเทียบความรู้เกี่ยวกับการนิเทศและการวิจัยในชั้นเรียน ของผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐานก่อนและหลังการศึกษาชุดนิเทศที่สร้างขึ้น
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาศรีสะเกษ เขต 1 ปีการศึกษา 2546 จำนวน 30 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มตัวอย่างอย่างง่าย (Simple random sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบทดสอบความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ การนิเทศและการวิจัยในชั้นเรียน ซึ่งมีลักษณะเป็นแบบทดสอบแบบปรนัยชนิดเลือกตอบแบบ 4 ตัวเลือก มีข้อสอบทั้งสิ้น 50 ข้อ และชุดนิเทศ เรื่องการวิจัยในชั้นเรียน สำหรับผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่งมีลักษณะเป็นเอกสารประกอบการนิเทศในรูปของชุดนิเทศที่ให้ผู้รับการนิเทศศึกษาด้วยตนเอง ภายใต้การให้คำปรึกษาแนะนำของผู้นิเทศ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คำนวณหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าที (t-test)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการสร้างชุดนิเทศ เรื่องการวิจัยในชั้นเรียน สำหรับผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้ชุดนิเทศ จำนวน 1 ชุด ซึ่งมีลักษณะเป็นเอกสารประกอบการนิเทศในรูปของชุดนิเทศที่ให้ผู้รับการนิเทศศึกษาด้วยตนเอง ภายใต้การให้คำปรึกษาแนะนำของผู้นิเทศ และประกอบไปด้วยคู่มือการใช้ชุดนิเทศเรื่องการวิจัยในชั้นเรียน สำหรับผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน 1 เล่ม และชุดนิเทศ จำนวน 8 เล่ม คือ เล่มที่ 1 แนวคิดเบื้องต้นเกี่ยวกับการนิเทศภายในสถานศึกษา เล่มที่ 2 แนวคิดเบื้องต้นเกี่ยวกับการวิจัยในชั้นเรียน เล่มที่ 3 การกำหนดปัญหาและการตั้งชื่อเรื่อง เล่มที่ 4 การกำหนดวัตถุประสงค์และการตั้งสมมติฐาน เล่มที่ 5 การออกแบบการวิจัย เล่มที่ 6 การสร้างเครื่องมือเก็บรวบรวมข้อมูล เล่มที่ 7 การวิเคราะห์ข้อมูล และเล่มที่ 8 การเขียนรายงานการวิจัย
ในชุดนิเทศแต่ละเล่ม ประกอบด้วย แผนการนิเทศ ซึ่งประกอบไปด้วย วัตถุประสงค์ แนวคิด กิจกรรมการนิเทศ สื่อการนิเทศ และการประเมินผล และกิจกรรมการนิเทศ
การนำเสนอเนื้อหาในชุดนิเทศ ใช้วิธีฝึกปฏิบัติโดยใช้กระบวนการ 5 ขั้นตอน เป็นแนวทางในการจัดกิจกรรมการนิเทศ ได้แก่
ขั้นที่ 1 ผู้รับการนิเทศศึกษาและสังเกตข้อมูล หรือกรณีตัวอย่าง
ขั้นที่ 2 ผู้รับการนิเทศ จำแนกแยกแยะ วิเคราะห์ข้อมูล หรือกรณีตัวอย่าง
ขั้นที่ 3 ผู้รับการนิเทศ หาลักษณะร่วม จัดหมวดหมู่ จัดกลุ่มหรือจัดลำดับข้อมูล หรือกรณีตัวอย่าง
ขั้นที่ 4 ผู้รับการนิเทศ สรุปความคิดรวบยอด
ขั้นที่ 5 ผู้รับการนิเทศ นำไปใช้ หรือปฏิบัติ โดยการทำแบบฝึกปฏิบัติแล้วตรวจคำตอบให้คะแนนด้วยตนเอง
2. ชุดนิเทศ เรื่องการวิจัยในชั้นเรียน สำหรับผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ E1/E2 = 80/80 ที่ตั้งไว้คือ E1 = 90.75 และ E2 = 80.26
3. ความรู้เกี่ยวกับการนิเทศและการวิจัยในชั้นเรียน ของผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐานก่อนและหลังการทดลองใช้ชุดนิเทศเรื่องการวิจัยในชั้นเรียน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยความรู้เกี่ยวกับการนิเทศและการวิจัยในชั้นเรียน ของผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐานหลังการทดลองใช้ชุดนิเทศเรื่องการวิจัยในชั้นเรียน สูงกว่าก่อนการทดลองใช้
The purposes of the study were 1. to construct a supervisory package of supervision on classroom research for basic school administrators; 2. to study the efficiency of the package; and 3. to compare basic school administrators knowledge of supervision and classroom research before and after studying then package.
A pretest-posttest experimental research design was used in the study. The sample consisted of basic school administrators in Si Sa Ket Educational Service Region Area 1 in the academic year 2003. A simple random sampling technique was used to select the sample that was composed of 30 administrators. The instrument used for data collecting was a multiple-choice test about supervision and classroom research. The data were analyzed by using percentage, mean, and standard deviation
The research findings were as follows:
1. The supervisory package of supervision on classroom research consisted of 8 sub-packages. Each package consisted of supervision plan, activities, materials and evaluation. A 5-step process was used to present experiences in the packages.
2. The supervisory package of supervision on classroom research was satisfactory, passing E1/E2 = 80/80 criterion and E1 was 90.75 and E2 was 80.26
3. The administrators the knowledge of supervision and classroom research after studying the package was statistically different at the .05 level of significance with the score after studying higher than before studying.