การพัฒนาแบบรายงานตนเองสำหรับงานประเมินคุณภาพภายในกลุ่มสถาบันราชภัฏอีสานตอนล่าง

The development of a self-study report for internal quality assurance in Rajabhat Institutes in the Lower Northeastern part of Thailand

Name: สมหวัง ชาญศิริวัฒน์

keyword: การศึกษา

LCSH: การศึกษา -- การประกันคุณภาพ

Classification :.DDC: 378.1 ส289ก

; การประเมินคุณภาพภายใน

Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาตัวชี้วัดที่เหมาะสมในการบ่งชี้คุณภาพการจัดการศึกษาของสถาบันราชภัฏ (2) พัฒนาเครื่องมือเก็บรวบรวมข้อมูลสำหรับบ่งชี้คุณภาพแต่ละองค์ประกอบ (3)พัฒนาแบบรายงานประเมินตนเองสำหรับคณะ และภาพรวมของสถาบันราชภัฏ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการพัฒนาตัวชี้วัด เป็นผู้เชี่ยวชาญ 9 คน ซึ่งเลือกแบบเจาะจง ส่วนกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการพัฒนาเครื่องมือและแบบรายงานการศึกษาตนเอง เป็นผู้บริหารงานประกันคุณภาพการศึกษาในแต่ละสถาบัน ประกอบด้วย รองอธิกาบดี คณบดี ประธานโปรแกรมวิชา ผู้อำนวยการศูนย์ /สำนักและคณะกรรมการประกันคุณภาพของแต่ละสถาบันในกลุ่มสถาบันราชภัฏอีสานตอนล่างได้แก่ สถาบันราชภัฏนครราชสีมา สถาบันราชภัฏบุรีรัมย์ สถาบันราชภัฏสุรินทร์ และสถาบันราชภัฏอุบลราชธานี จำนวน 138 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบชั้นภูมิ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย แบ่งเป็น 3 ชุด ชุดที่ 1 เป็นแบบสอบถามความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิเกี่ยวกับความเหมาะสมขององค์ประกอบที่จะใช้ป็นมาตรฐานการจัดการศึกษาและความสอดคล้องของตัวชี้วัดคุณภาพ ชุดที่ 2 เป็นแบบสอบถามความคิดเห็นของผู้บริหารงานประกันคุณภาพในสถาบันที่เกี่ยวกับตัวชี้วัดในองค์ประกอบต่าง ๆ ที่จะใช้เป็นกรอบในการประเมินงานหน่วยงานต่าง ๆ ในสถาบันราชภัฏ ชุดที่ 3 เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับการประเมินสภาพกาใช้ชุดเครื่องมือเก็บรวบรวมข้อมูล สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ฉบับที่ 1 วิเคราะห์ค่า IC เพื่อหาค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่างข้อคำถามกับลักษณะพฤติกรรม ส่วนข้อมูลที่ได้จากแบบสอบถามฉบับที่ 2 และ 3 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป SPSS for Windows เพื่อหาค่าสถิติพื้นฐาน ได้แก่ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และสวนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า 1. ตัวชี้วัดที่เหมาะสมใช้เป็นมาตรฐานคุณภาพการจัดการศึกษา ของสถาบันราชภัฏในภาพรวมสถาบัน ประกอบด้วย 9 องค์ประกอบ 45 ตัวชี้วัด แต่เมื่อจำไปเป็นกรอบมาตรฐานคุณภาพของส่วนงานต่าง ๆ ภายในสถาบัน ส่วนงานที่มีภารกิจต่างกันจะใช้องค์ประกอบและตัวชี้วัดต่างกัน โดยระดับโปรแกรมวิชาที่ใช้ 7 องค์ประกอบ 4 ตัวชี้วัด คณะที่ใช้ 9 องค์ประกอบ 42 ตัวชี้วัด สำนักงานอธิการบดีใช้ 5 องค์ประกอบ 19 ตัวชี้วัด สำนักวิจัยใช้ 7 องค์ประกอบ 25 ตัวชี้วัด สำนักส่งเสริมวิชาการใช้ 5 องค์ประกอบ 24 ตัวชี้วัด สำนักวางแผนและพัฒนาใช้ 5องค์ประกอบ 21 ตัวชี้วัด สำนักกิจการนักศึกษาใช้ 5 องค์ประกบ 19 ตัวชี้วัด สำนักศิลปวัฒนธรรมใช้ 5 องค์ประกอบ 19 ตัวชี้วัด และสำนักวิทยบริการใช้ 6 องค์ประกอบ 21 ตัวชี้วัด 2. เครื่องมือเก็บรวบรวมข้อมูล เพื่อการประเมินตนเองของส่วนงานในระดับต่าง ๆ ในสถาบันราชภัฏ เป็นเครื่องมือที่ผู้ใช้ประเมินคุณภาพระดับตัวชี้วัดแต่ละตัวด้วยรายการปฏิบัติหรือตัวชี้วัดย่อย ตัวชี้วัดละ 5 รายการ 5 คะแนน ซึ่งผู้ประเมินจะต้องเขียนคำอธิบายปรากฎการณ์ที่เกี่ยวข้องกับตัวชี้วัดนั้น ๆ พร้อมทั้งระบุรายการ เอกสาร หลักฐาน เพื่อเป็นเหตุผลประกอบการให้คะแนนของตัวชี้วัดนั้น ๆ ด้วย 3. แบบรายงานการประเมินตนเองที่พัฒนาในการวิจัย ประกอบด้วย เนื้อหาสำคัญของการรายงาน 4 บท ประกอบด้วย ข้อมูลของสถาบัน องค์ประกอบคุณภาพ ผลการดำเนินงานและผลการวิเคราะห์ตนเอง และแนวทางแก้ไข และมีภาคผนวกที่รวบรมคำสั่งต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และรายการเอกสาร และหลักฐานอ้างอิง 4. ผลการประเมินคุณภาพของเครื่องมือเก็บรวบรวมข้อมูล และรายงานการศึกษาตนเองจากความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่างที่ได้ทดลองใช้ พบว่า ทั้งเครื่องมือ และแบบรายงานการประเมินตนเองมีความเหมาะสมเป็นไปได้ และเป็นประโยชน์สำหรับงานประกันคุณภาพภายในของสถาบันราชภัฏในระดับมาก The purposes of this study were (1) to investigate indicators which were suitable for educational quality measurement in Rajabhat Instutites as perceived by Vice president for academic affairs, deans, special center directors, program chairpersons, and members of quality assurance steering committee in Rajabhat Institutes in the lower northeastern part of Thailand, (2) to develop data collecting instruments for each educational quality indicator, and (3) to develop a self-study report from for each faculty and a total profile of the institute. The sample group used for the indicator development process consisted of nine experts selected by means of purposive sampling, while the sample group of 138 subject used to develop instruments and a self-study report from consisted of vice president on academic affair, deans, special center directors, program chairpersons, and members of quality steering committee in Rajabhat institutes in the lower northeastern part of Thailand: Rajabhat institutes Nakorn Ratchasima, Buri Ram, Surin, and Ubon Ratchathani, drawn from the population of 154 by means of the stratified random sampling. Three tools used in this study included (1) an expert questionnaire on suitable indicators for educational quality measurement, and an index of congruency evaluation from, (2) questionnaire for quality assurance administrators on quality operation assessment in each sub-unit in Rajabhat Institutes, and (3) an evaluation from on the utilization of data collecting instruments. IC analysis technique was used for data processing from the first questionnaire, and percentage, mean, and standard division were used for the computation of the data obtained from other two tools using SPSS for Windows program. The research findings were as follows: 1. There were 9 suitable components and 45 indicators for educational quality measurement in Rajabhat Institute level, but different sub-units needed different sets of components and indicators. At the program level, 7 components and 24 indicators were suitable, while the number of components and indicators suitable for other level were as follows: 9 components and 42 indicators at the faculty level, 5 indicators for the office of the president, 7 components and 25 indicators for the research center, 5 components and 24 indicators for the office of academic support unit, 5 components and 21 indicators for the office of planning and development division, 5 components and 19 indicators for the office of art and culture, and 6 components and 21 indicators for the resource center. 2. The instruments used for data collecting for self-study at each sub-unit in Rajabhat institutes were intended for the implementations to evaluate each component and indicator, and there were five items with 5 points in each indicator. The evaluator had to write supportive document for each indicator and reason for the given point. 3. The self-study report from consisted of 4 chapters, namely background data of the institute, quality components work performance, performance analysis, suggestions, and appendix which included official documents and related references. 4. The evaluation of the data collecting instruments and the implementation of self-study report from revealed that the instruments and self-study report from were suitable and beneficial to internal quality assurance in Rajabhat institutes at a high level.

มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี.สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ

Address: อุบลราชธานี

Email: info.lib@ubru.ac.th

Name: สถาบันราชภัฏอุบลราชธานี

Role: สนับสนุนทุนการวิจัย

Created: 2543

Modified: 2556-05-16

Issued: 2548-09-21

งานวิจัย/Research report

application/pdf

tha

Spatial: ไทย

©copyrights มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	titlepage.pdf	168.78 KB	27	2020-02-02 15:28:45
2	abstract.pdf	326.73 KB	29	2025-07-06 12:10:16
3	content.pdf	313.03 KB	24	2025-07-06 12:11:17
4	chapter 1.pdf	721.4 KB	37	2025-07-06 12:11:25
5	chapter 2.pdf	2.53 MB	47	2025-04-05 16:09:17
6	chapter 3.pdf	1.11 MB	37	2025-01-20 14:01:56
7	chapter 4.pdf	1.19 MB	32	2025-07-06 12:10:53
8	chapter 5.pdf	516.46 KB	20	2025-07-06 12:11:45
9	bibliography.pdf	353.72 KB	21	2025-07-06 12:11:54
10	appendix.pdf	7.56 MB	33	2025-07-06 12:12:25
11	biodata.pdf	133.72 KB	18	2025-07-06 12:12:10

ใช้เวลา

0.055067 วินาที