Manganese removal from acid mine drainage by alkaline chemical precipitation

การกำจัดแมงกานีสในน้ำระบายจากเหมืองแร่ที่เป็นกรดโดยการตกตะกอนด้วยสารด่าง

Name: Kritsanachai Kaewthit

LCSH: Water -- Purification -- Manganese removal

LCSH: Sewage -- Purification -- Precipitation

LCSH: Mine drainage

LCSH: Mines and mineral resources

Abstract: This research studied the optimum conditions for manganese removal from acid mine drainage (AMD). The AMD in the study area contained manganese as high as 27.56 ± 0.08 mg/L and had an acidic pH of 2.91 ± 0.09. The alkaline substances used in the experiment consisted of quicklime and limestone dust. The results showed that the optimum conditions for manganese removal at neutral pH were using the combination of quicklime 1.5 times and limestone dust 10 times of the theoretical requirement. This allowed the remaining manganese in the water after treatment to be less than 1 mg/L and the pH of the water to remain at a neutral level throughout the 40-day of the experiment. It was also found that using only limestone dust as an alkaline substance could not increase the pH of the treated AMD significantly, resulting in low manganese removal efficiency. Using only quicklime was more effective in manganese removal than using sole limestone dust and using the combination of quicklime and limestone dust. However, using only quicklime resulted in an excessively high pH of the water, making it unsuitable for utilization.

Abstract: งานวิจัยนี้ศึกษาสภาวะที่เหมาะสมในการกำจัดแมงกานีสออกจากน้ำระบายจากเหมืองแร่ที่เป็นกรด โดยน้ำระบายจากเหมืองแร่ที่เป็นกรดในพื้นที่ศึกษามีแมงกานีสสูงถึง 27.56 ± 0.08 มิลลิกรัมต่อลิตร และมีพีเอชเป็นกรด อยู่ที่ 2.91 ± 0.09 โดยสารด่างที่ใช้ในการทดลองประกอบด้วย ปูนขาวและหินฝุ่น จากผลการทดลองพบว่าสภาวะที่เหมาะสมในการกำจัดแมงกานีสทีพี่เอชเป็นกลาง คือ การใช้ปูนขาว 1.5 เท่า ร่วมกันหินฝุ่น 10 เท่า ของปริมาณตามทฤษฎี โดยสามารถทำให้มีแมงกานีสเหลือในน้ำหลังการบำบัดต่ำกว่า 1 มิลลิกรัมต่อลิตร และยังคงค่าพีเอชของน้ำให้อยู่ในระดับสภาวะเป็นกลางได้ตลอดระยะเวลาทดลอง 40 วัน นอกจากนี้ยังพบว่าการใช้หินฝุ่นเป็นสารด่างเพียงอย่างเดียวไม่สามารถเพิ่มพีเอชของน้ำได้มากนัก จึงทำให้มีประสิทธิภาพในการกำจัดแมงกานีสต่ำ การใช้ปูนขาวเพียงอย่างเดียวมีประสิทธิภาพในการกำจัดแมงกานีสสูงกว่าการใช้หินฝุ่น และการใช้ปูนขาวร่วมกับหินฝุ่น อย่างไรก็ตามการใช้ปูนขาวเพียงอย่างเดียวส่งผลให้ค่าพีเอชของน้ำสูงเกินไป ไป ไม่เหมาะสมต่อการนำมาใช้ประโยชน์

Chiang Mai University. Library

Address: CHIANG MAI

Email: cmulibref@cmu.ac.th

Name: Pimluck Kijjanapanich

Role: Advisor

Created: 2025

Issued: 2025-09-22

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

eng

DegreeName: Master of Engineering

Level: Master's Degree

Descipline: Environmental Engineering

Grantor: Chiang Mai University

©copyrights Chiang Mai University

ใช้เวลา

0.020809 วินาที