การส่งเสริมสัมมาชีพของคนรุ่นใหม่ด้วยการเจียระไนนิลโดยพุทธสันติวิธี

Name: พระนิโรธ อภิญาโณ (รักพลเมือง)

keyword: สัมมาชีพ

; คนรุ่นใหม่

; พุทธสันติวิธี

; การเจียระไนนิล

Abstract: งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพบริบท ปัญหา ความต้องการจำเป็นและปัจจัยที่ส่งเสริมการสร้างสัมมาชีพด้วยการเจียระไนนิลสู่คนรุ่นใหม่ ตำบลทุ่งสมอ อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี 2) การสร้างชุดปฏิบัติการการส่งเสริมสัมมาชีพด้วยการเจียระไนนิลให้กับคนรุ่นใหม่ตำบลทุ่งสมอ อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี ตามหลักพุทธสันติวิธี และ 3) นำเสนอผลการส่งเสริมสัมมาชีพของคนรุ่นใหม่ด้วยการเจียระไนนิลตามหลักพุทธสันติวิธี ใช้รูปแบบวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมโดยเก็บข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึกผู้ให้ข้อมูลสำคัญ กลุ่มคนรุ่นใหม่ กลุ่มปราชญ์ชาวบ้าน ผู้นำท้องถิ่น และผู้ประกอบธุรกิจพลอย กลุ่มหน่วยงานภาครัฐที่ส่งเสริมอาชีพท้องถิ่น จำนวน 18 คน จัดกิจกรรมเชิงปฏิบัติการด้วยเทคนิค PAOR (Plan-Act-Observe-Reflect) กับกลุ่มเป้าหมายที่ร่วมกิจกรรม ประกอบด้วย คนรุ่นใหม่ จำนวน 7 คน และปราชญ์สัมมาชีพชุมชน จำนวน 5 คน รวมทั้งสิ้น 12 คน โดยใช้เครื่องมือการสังเกตการณ์แบบมีส่วนร่วม และการสะท้อนความคิด AAR (After Action Review) วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัย พบว่า 1) ปัญหาการสานต่ออาชีพเจียระไนนิลลดลงเนื่องจากต้นทุนสูงและราคาต่ำ ทำให้ผู้ประกอบการหันไปทำพลอยแทน ตลาดอัญมณีมีการแข่งขันสูงและความต้องการนิลลดลง ส่งผลให้การจ้างงานน้อยลง คนรุ่นใหม่ไม่สนใจอาชีพนี้เพราะไม่ตอบโจทย์และขาดทักษะพื้นฐาน อุปสรรครวมถึงวัตถุดิบคุณภาพต่ำและเครื่องมือเทคโนโลยีล้าสมัย แนวทางแก้ปัญหาคือการสนับสนุนจากรัฐบาล การรวมกลุ่มนักเจียระไน และการนำเสนอรูปแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตรงกับความต้องการตลาด และจัดกิจกรรมเพื่อสร้างความสนใจในอาชีพนี้ โดยต้องการความร่วมมือจากภาครัฐ เอกชน และชุมชนเพื่อส่งเสริมอาชีพเจียระไนนิลให้กับคนรุ่นใหม่ 2) การสร้างชุดปฏิบัติการการส่งเสริมสัมมาชีพด้วยการเจียระไนนิลให้กับคนรุ่นใหม่ด้วยพุทธสันติวิธี คือ การสร้างความตระหนักและแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่สนใจอาชีพเจียระไนนิล โดยมีการเผยแพร่ความรู้และตัวอย่างความสำเร็จ รวมถึงการเปิดโอกาสให้ทดลองปฏิบัติจริง นอกจากนี้ยังมีการจัดฝึกอบรมจากปราชญ์ท้องถิ่นเพื่อพัฒนาทักษะและความรู้ที่จำเป็น รวมถึงการสร้างเครือข่ายสนับสนุนด้านการตลาด แหล่งทุน และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ทันสมัย การสร้างความร่วมมือกับครอบครัว ชุมชน หน่วยงานภาครัฐ และผู้ประกอบการ เพื่อสร้างกระบวนการที่ยั่งยืน และสอดคล้องกับวิถีชีวิตชุมชน โดยทั้งหมดสอดคล้องกับหลักพละ 5 ที่เน้นการสร้างศรัทธา การส่งเสริมความพากเพียร การฝึกสติและสมาธิ และการให้ปัญญาในการมองเห็นโอกาสในการสร้างอาชีพของคนรุ่นใหม่ 3) การพัฒนาอาชีพการเจียระไนนิลสำหรับคนรุ่นใหม่มีการออกแบบกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมสัมมาชีพ เช่น การแลกเปลี่ยนความรู้ การถ่ายทอดเทคนิคการเจียระไน การส่งเสริมอาชีพและการตลาดอย่างมีส่วนร่วม และการฝึกทำโครงการอย่างเป็นระบบ โดยมีการลงพื้นที่เพื่อสำรวจความต้องการ และปัญหาของคนรุ่นใหม่ รวมถึงการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาทักษะการเจียระไน ผ่าน 5 กิจกรรมที่ 1) ผู้ใหญ่ใจดีเล่าเรื่องสร้างพลังให้กับเยาวชน 2) แรงบันดาลใจสร้างงาน 3) เกมลำเรียงลูกบอลสติ 3) หนทางสร้างอาชีพ 4) พละ 5 กับ 5 ฐาน และ 6) สะท้อนคิดและแบ่งปันเป้าหมาย คนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้ทักษะการเจียระไนและมีโอกาสสร้างอาชีพในอนาคต พร้อมกับมีการสะท้อนถึงความหวังและแรงบันดาลใจในชุมชนเพื่อการพัฒนาที่ดีขึ้น โมเดลองค์ความรู้ 7 ร. เจียระไนนิลสัมมาชีพคนรุ่นใหม่ เป็นแนวทางการพัฒนาที่มุ่งเสริมสร้างศักยภาพและคุณภาพชีวิตของคนรุ่นใหม่ ประกอบด้วย 1) รวมใจสร้างศรัทธา 2) แรงบันดาลใจสร้างอาชีพ 3) เรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ 4) รู้คุณค่าของตน 5) รู้กำหนดเป้าหมายชีวิต 6) รักก้าวหน้าด้วยการลงมือทำ และ 7) รวมกลุ่มสานฝันให้เป็นจริง การสร้างคนรุ่นใหม่ที่มีอาชีพสุจริต เป็นอิสระ รักษ์บ้านเกิด เลี้ยงชีพได้ และมีความสุข

Abstract: The study consisted of the following objectives: 1) to examine the context, problems, needs, and factors promoting the development of right livelihoods through jade grinding for the younger generation in Thung Sano Subdistrict, Phanom Thuan District, Kanchanaburi Province; 2) to create an action plan for promoting right livelihoods (Sammājīva) through jade grinding for the younger generation in Thung Sano Subdistrict, Phanom Thuan District, Kanchanaburi Province, based on Buddhist peaceful means; and 3) to present the outcomes of promoting right livelihoods through jade grinding for the younger generation, based on Buddhist peaceful means. The study employed a participatory action research method, collecting qualitative data through in-depth interviews with key informants, including members of the younger generation, local village scholars, community leaders, gemstone business operators, and government agencies supporting local occupations, totaling 18 participants. Workshops utilizing the PAOR (Plan-Act-Observe-Reflect) approach were conducted with 12 participants, including 7 young people and 5 local scholars practicing right livelihoods. The study also utilized participatory observation and the AAR (After Action Review) technique for reflective analysis. Qualitative data were analyzed using content analysis. From the study, the following results were found: 1.The decline in the jade grinding profession can be attributed to high costs and low prices, prompting operators to shift towards gemstone production. The gemstone market is highly competitive, and the demand for jade has decreased, resulting in fewer employment opportunities. The younger generation is not interested in this occupation as it does not meet their needs and lacks sufficient basic skills. Additional problems include poor-quality raw materials and outdated technology. Proposed solutions involve government support, the establishment of jade grinding groups, and the development of new products that align with market demand. It is also important to organize activities that spark interest in the profession. Promoting jade grinding among the younger generation requires collaboration from the government, private sector, and local communities 2. The development of an action plan to promote right livelihoods through jade grinding for the younger generation using Buddhist peaceful means involves raising awareness and motivating young people to engage in jade grinding. This includes sharing knowledge, showcasing successful examples, and offering hands-on practice opportunities. Furthermore, training programs with local village scholars are organized to build the essential skills and knowledge, alongside the development of networks to support marketing, funding, and modern product development. Collaboration with families, communities, government sectors, and business owners is crucial for establishing a sustainable process that aligns with the community's way of life. This approach is based on the Buddhist principles of Bala (the five powers), which focus on fostering faith, encouraging perseverance, practicing mindfulness and concentration, and applying wisdom to identify opportunities for creating occupations for the younger generation. 3. The development of jade grinding careers for the younger generation includes designing a variety of activities to promote right livelihoods, such as knowledge exchange, teaching jade grinding techniques, promoting occupations, and engaging in collaborative marketing, along with structured project-based training. Field visits are carried out to assess the needs and challenges faced by the younger generation, and workshops are also organized to enhance jade grinding skills through five key activities: 1) Inspirational storytelling by a supportive adult to empower youth, 2) Motivating job creation, 3) Mindfulness ball-passing game, 4) Exploring pathways to create occupations, 5) The Five Powers and Five Stations, and 6) Reflection and sharing. The objective is for the younger generation to acquire jade grinding skills and gain opportunities for future livelihoods, while also fostering hope and inspiration within the community for improved development. A body of knowledge gained from the study is called “7 R Knowledge Model for Jade Grinding Right Livelihoods for the Younger Generation” model is a development approach designed to enhance the potential and quality of life for young people. It includes the following principles: 1) Uniting to build faith, 2) Inspiring career development, 3) Learning in creative ways, 4) Recognizing self-worth, 5) Setting life goals, 6) Embracing progress through action, and 7) Forming groups to make dreams a reality. The aim is to foster a younger generation with honest livelihoods, independence, a love for their hometown, the ability to sustain themselves, and overall happiness.

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. หอสมุดกลาง

Address: พระนครศรีอยุธยา

Email: library@mcu.ac.th

Name: ขันทอง วัฒนะประดิษฐ์

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Name: พระปราโมทย์ วาทโกวิโท

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Created: 2567

Modified: 2568-09-06

Issued: 2568-09-06

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

DegreeName: พุทธศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: สาขาวิชาสันติศึกษา

Grantor: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

©copyrights มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	พระนิโรธ อภิญาโณ (รักพลเมือง).pdf	10.64 MB

ใช้เวลา

0.018267 วินาที