ปัจจัยเชิงเหตุและผลของพฤติกรรมการโค้ชของผู้จัดการสาขาในธุรกิจธนาคาร

Causal factors and effect of coaching behavior of branch managers in banking business

Name: เจียมจิต จิวะสิทธิกุล

keyword: พฤติกรรมการโค้ช

ThaSH: ผู้จัดการธนาคาร -- การฝึกอบรม

ThaSH: ความฉลาดทางอารมณ์

ThaSH: ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง

ThaSH: ความไว้วางใจ

ThaSH: ความภูมิใจแห่งตน

Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อพัฒนาและทดสอบโมเดลการวัดของความฉลาด ทางอารมณ์ ภาวะผู้นําการเปลี่ยนแปลง การสร้างความไว้วางใจ พฤติกรรมการโค้ช และการเห็น คุณค่าในตนเอง ของผู้จัดการสาขาในธุรกิจธนาคาร 2) เพื่อพัฒนาและทดสอบความสอดคล้องของ โมเดลความสัมพันธ์เชิงเหตุและผลของพฤติกรรมการโค้ชของผู้จัดการสาขาในธุรกิจธนาคาร กับข้อมูลเชิงประจักษ์ 3) เพื่อศึกษาเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการโค้ช และแนวทางในการ พัฒนาโปรแกรมฝึกอบรมเพื่่อพัฒนาพฤติกรรมการโค้ชของผู้จัดการสาขาในธุรกิจธนาคาร และ 4) เพื่อศึกษาผลการใช้โปรแกรมฝึกอบรมเพื่่อพัฒนาพฤติกรรมการโค้ชของ ผู้จัดการสาขาในธุรกิจธนาคาร การวิจัยในครั้งนี้เป็นการวิจัยและการพัฒนา โดยใช้กระบวนการวิจัยแบบผสานวิธี และออกแบบ การวิจัยเป็นแบบหลายระยะ โดยแบ่งออกเป็น 4 ระยะ ดังนี้ การวิจัยระยะที่ 1 เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ เพื่อพัฒนาและทดสอบโมเดลการวัดของความ ฉลาดทางอารมณ์ ภาวะผู้นําการเปลี่ยนแปลง การสร้างความไว้วางใจ พฤติกรรมการโค้ช และ การเห็นคุณค่าในตนเอง ของผู้จัดการสาขาในธุรกิจธนาคาร กลุ่มตัวอย่างคือ ผู้จัดการสาขาของ ธนาคารแห่งหนึ่งจํานวน 154 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยัน ผลการวิจัย พบว่า โมเดลการวัดทั้ง 5 ตัวแปรมีความสอดคล้องกลมกลืนกับข้อมูลเชิงประจักษ์ การวิจัยระยะที่ 2 เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ เพื่อพัฒนาและทดสอบความสอดคล้องของโมเดล ความสัมพันธ์ เชิงเหตุและผลของพฤติกรรมการโค้ชของผู้จัดการสาขาในธุรกิจธนาคารกับข้อมูลเชิงประจักษ์ กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้จัดการสาขาของธนาคารที่มีรายชื่ออยู่ในตลาดหลักทรัพย์ 100 อันดับแรก 6 ธนาคาร จํานวน 663 คน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยโมเดลสมการโครงสร้าง ผลการวิจัยพบว่า โมเดลความสัมพันธ์เชิงเหตุและผลของพฤติกรรมการโค้ชของ ผู้จัดการสาขาในธุรกิจธนาคารมีความสอดคล้องกลมกลืนกับข้อมูลเชิงประจักษ์ การวิจัยระยะที่ 3 เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ เพื่อศึกษาเงื่อนไขที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการโค้ช และและแนวทางการพัฒนาโปรแกรมฝึกอบรมเพื่อพัฒนาพฤติกรรมการโค้ชของผู้จัดการสาขาในธุรกิจธนาคาร ผู้ให้ข้อมูลสําคัญ จํานวน 13 คน ประกอบด้วย 1) ผู้เชี่ยวชาญด้านการโค้ช จํานวน 2 คน 2) นักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยา จํานวน 2 คน 3) ผู้บริหารงานทรัพยากรมนุษย์ในธุรกิจธนาคาร จํานวน 3 คน และ 4) ผู้จัดการสาขาต้นแบบในธนาคาร จํานวน 6 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ การวิเคราะห์เชิงเนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า เงื่อนไขที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการโค้ชของผู้จัดการสาขาในธุรกิจธนาคาร ประกอบไปด้วย ความฉลาดทางอารมณ์ ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง การสร้างความไว้วางใจ นอกจากนี้ผลการวิจัยยังพบว่า แนวทางการพัฒนาโปรแกรมฝึกอบรมเพื่อพัฒนาพฤติกรรมการโค้ช มี 2 แนวทาง คือ การพัฒนาพฤติกรรมการโค้ชด้วยโปรแกรมฝึกอบรมและแนวทางการพัฒนาที่ไม่ใช่การฝึกอบรม คือ การสนับสนุนจากผู้บริหารและนโยบายภายในธนาคาร การวิจัยระยะที่ 4 เป็นการวิจัยเชิงทดลอง เพื่อศึกษาผลการใช้โปรแกรมฝึกอบรมเพื่อพัฒนาพฤติกรรมการโค้ชของผู้จัดการสาขาในธุรกิจธนาคาร กลุ่มตัวอย่างคือ ผู้จัดการสาขาในธุรกิจธนาคาร จำนวน 12 คน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการทดสอบ Friedman Test Wilcoxon Signed-Rank Test ผลการวิจัยพบว่า ผู้จัดการสาขามีคะแนนพฤติกรรมการโค้ช และคะแนนการเห็นคุณค่าในตนเองก่อนนการทดลอง หลังการทดลอง และการติดตามผล แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

Abstract: The purposes of this research were 1) to develop and investigate the validity of measurement models of emotional intelligence, transformational leader, trust building, coaching behavior, and self-esteem of branch managers in banking business. 2) to develop and investigate the validity of causal factors and effect of Coaching Behavior of Branch Managers in Banking Business and empirical data 3) to study conditions related to coaching behavior and developed guidelines of coaching behavior training program 4) to study the effect of coaching behavior training program upon branch managers throughout the banking business This research was a research and development using mixed-methodology design, dividing the study into 4 phases. The first phase was quantitative research to test the measurement model of emotional intelligence, transformational leader, trust building, coaching behavior, and self-esteem of branch managers in banking business. The 154 samples’ data of branch managers were collected from banking business. Data were analyzed by applying confirmatory factor analysis (CFA). The results revealed that the measurement model of all 5 variables was fitted to the empirical data. The second phase was quantitative research to test the consistency of the causal factors and effect of coaching behavior of branch managers in banking business with empirical data. The 663 samples’ data of branch managers of banks listed in top 100 of banking in the stock exchange of Thailand. Structural equation modeling (SEM) was applied to analyze data. Results indicated that the structural model was consistent with empirical data. The third phase was qualitative research concerning to the conditions related to coaching behavior and developing guideline of coaching behavior training program. Information had been collected from 4 types of key informant 1) Two coaching experts, 2) Two academics and psychology experts, 3) Three human resources executives in the banking business, and 4) Six branch managers role model in the bank. Content analysis was used to analyze data. The result founded that coaching behavior of branch managers are affected by emotional intelligence, transformational leader, and trust building. The approach to develop training programs to improve coaching behavior of branch managers in the banking business There was two approaches to improving coaching behavior with training programs and non-training program by support from executives and organization policies. The fourth phase was an experimental study using One-Group Time series, Design. The purpose was to study the results of the training programs to improve the coaching behavior of branch managers in the banking business. The samples were 12 volunteer branch managers in banking business. Friedman test, Wilcoxon signed-rank test was applied to analyze data. The results showed that branch managers had coaching behavior scores and self-esteem scores before the training, after training and follow-ups period, achieved a statistical significance level of 01.

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ. สำนักหอสมุดกลาง

Address: กรุงเทพมหานคร

Email: library@kmutnb.ac.th

Name: ปิ่นกนก วงศ์ปิ่นเพ็ชร์ พิบูลแถว

Role: ที่ปรึกษาดุษฎีนิพนธ์

Email : pinkanok.w@arts.kmutnb.ac.th

Name: มานพ ชูนิล

Role: ที่ปรึกษาดุษฎีนิพนธ์

Email : manop.c@arts.kmutnb.ac.th

Created: 2564

Modified: 2568-09-04

Issued: 2568-09-04

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

DegreeName: ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต

Level: ปริญญาเอก

Descipline: จิตวิทยาอุตสาหกรรมและองค์การ

Grantor: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ

©copyrights มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	B17713584.pdf	7.77 MB	1	2025-09-27 17:10:25

ใช้เวลา

0.032477 วินาที