แจ้งเอกสารไม่ครบถ้วน, ไม่ตรงกับชื่อเรื่อง หรือมีข้อผิดพลาดเกี่ยวกับเอกสาร ติดต่อที่นี่ ==>
หากไม่มีอีเมลผู้รับให้กรอก thailis-noc@uni.net.th ติดต่อเจ้าหน้าที่เจ้าของเอกสาร กรณีเอกสารไม่ครบหรือไม่ตรง

การจัดการสินทรัพย์ของพระภิกษุเมื่อมรณภาพ

keyword: การจัดการสินทรัพย์ของพระภิกษุเมื่อมรณภาพ
; หลักพระธรรมวินัย
; ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
Abstract: วิทยานิพนธ์เรื่องนี้มีวัตถุประสงค์การวิจัย คือ 1) เพื่อศึกษาแนวคิด ทฤษฎีและวิวัฒนาการการจัดการสินทรัพย์ของพระภิกษุเมื่อมรณภาพตามหลักพระธรรมวินัย 2) เพื่อศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจัดการสินทรัพย์ของพระภิกษุเมื่อมรณภาพและกฎหมายต่างประเทศ รวมทั้งคำพิพากษาศาลฎีกาที่เกี่ยวข้อง 3) เพื่อศึกษาวิเคราะห์เปรียบเทียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจัดการสินทรัพย์ของพระภิกษุเมื่อมรณภาพ และ 4) เพื่อสรุปและเสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาในการจัดการสินทรัพย์ของพระภิกษุเมื่อมรณภาพ ผลของการศึกษาพบว่า บทบัญญัติในพระวินัยนั้น พระพุทธเจ้าประสงค์ให้สาวกของพระพุทธองค์เป็นบุคคลสมถะ สันโดษ เป็นผู้ดำรงชีวิตอยู่อย่างพอเพียง คือ เป็นอยู่ด้วยปัจจัย 4 บทบัญญัติแห่งพระวินัยจึงมิให้พระภิกษุเป็นผู้สะสมทรัพย์ ยินดีในทรัพย์ หรือขวนขวายเป็นอยู่ด้วยการทำมาหาได้เลี้ยงชีวิตเยี่ยงคฤหัสถ์ผู้ครองเรือน ดังนั้น ในทุติยปาราชิก จึงกำหนดให้ทรัพย์เป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดโทษ มีทั้งกำหนดให้เป็นโทษอย่างหนัก คือ ยังพระภิกษุผู้ต้องอาบัตินี้ขาดจากความเป็นภิกษุ กำหนดโทษอย่างกลาง คือ ยังให้พระภิกษุนี้ต้องอยู่ปริวาสกรรมและสละคืนสินทรัพย์นั้น จึงจะพ้นอาบัติได้ กำหนดโทษอย่างเบา คือ ยังให้พระภิกษุผู้ต้องอาบัตินี้ต้องประจานตนต่อหน้าภิกษุสงฆ์อื่น แต่ต้องสละสินทรัพย์นั้นก่อนด้วยจึงจะปลงอาบัติตก ในส่วนของกฎหมายเกี่ยวกับทรัพย์สินและสินทรัพย์ของพระภิกษุ มีวิวัฒนาการมาตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัยเป็นต้นมา ปรากฏตามหลักประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ในสมัยปัจจุบัน คือ บรรพ 6 มาตรา 1622 มาตรา 1623 และมาตรา 1624 และคำว่า ทรัพย์ นั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 137 บัญญัติไว้ว่า ทรัพย์ หมายความว่า วัตถุมีรูปร่าง ประกอบมาตรา 138 บัญญัติไว้ว่า ทรัพย์สิน หมายความรวมทั้งทรัพย์และวัตถุไม่มีรูปร่าง ซึ่งอาจมีราคาและอาจถือเอาได้ ดังนั้น ทรัพย์สิน จึงหมายถึง วัตถุที่มีรูปร่างหรือไม่มีรูปร่างก็ได้ แต่ต้องอาจมีราคาและอาจถือเอาได้ ทรัพย์สินจึงมีความหมายกว้างกว่าทรัพย์ กล่าวคือ สิ่งใดถ้าเป็นทรัพย์แล้วย่อมเป็นทรัพย์สินเสมอ ส่วนคำว่า สินทรัพย์ มีใช้ในวงการบัญชีและการเงิน ใช้ในการจัดทำบัญชีและงบการเงิน โดยคำว่า สินทรัพย์ หมายถึง ทรัพย์สินมีค่าต่าง ๆ ที่บุคคลหรือกิจการเป็นเจ้าของอยู่ แต่จะมีความหมายที่กว้างกว่าทรัพย์สินตรงที่สินทรัพย์นั้นรวมถึงประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับในอนาคตด้วย ตัวอย่าง เช่น ลูกหนี้การค้า จะถือว่าเป็นสินทรัพย์ในทางบัญชี แต่ไม่นับว่าเป็นทรัพย์สิน หรือการที่กิจการไปซื้อรถยนต์ ทำสัญญาจะผ่อนชำระเป็นงวด ๆ กิจการสามารถนำรถยนต์นั้นไปใช้ประโยชน์ได้เลย แม้จะยังชำระไม่ครบทุกงวดและยังไม่มีการโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์คันนั้น ในทางกฎหมายรถยนต์คันนั้นยังไม่เป็นทรัพย์สิน แต่ในทางบัญชีรถยนต์คันนั้นถือว่าเป็นสินทรัพย์ของกิจการเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น คำว่า สินทรัพย์ ตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2718/2560 หมายถึง ทั้งทรัพย์และวัตถุไม่มีรูปร่าง ซึ่งอาจมีราคาและอาจถือเอาได้ และหมายความรวมถึงสิทธิเรียกร้องและผลประโยชน์ทั้งปวง ดังนั้น ผู้ศึกษาวิจัยจึงได้ใช้ชื่อหัวข้อวิทยานิพนธ์นี้ว่า “การจัดการสินทรัพย์ของพระภิกษุเมื่อมรณภาพ” ส่วนการจัดการสินทรัพย์ตามหลักประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ พบว่า 1. มาตรา 1622 บัญญัติมิให้พระภิกษุนั้น เรียกร้องเอาทรัพย์มรดกในฐานะที่เป็นทายาทโดยธรรม เว้นไว้แต่ว่าจะสึกจากสมณเพศแล้วมาเรียกร้องภายในกำหนดอายุความตามมาตรา 1745 แต่ทั้งนี้ พระภิกษุนั้นอาจจะเป็นผู้รับพินัยกรรมก็ได้ โดยเจตนารมณ์ของกฎหมายมาตรานี้ เป็นการถือเอาเจตนารมณ์ของพระภิกษุผู้ออกบวชในพระพุทธศาสนาแต่โบราณกาล คือ เป็นผู้สละทรัพย์สมบัติทั้งหลายแล้วออกบวช เพื่อขัดเกลากิเลสให้ลดน้อยถอยลง แต่ถ้าพระภิกษุเป็นผู้ยินดีอยู่ในปัจจัย 4 ยังพะวงห่วงหาอาลัยในทรัพย์มรดกดังกล่าว ก็มิใช่พฤติกรรมอันเหมาะอันควรแก่สาวกในพระธรรมวินัยนี้ กฎหมายจึงให้สึกจากสมณเพศ เพื่อเรียกร้องเอาทรัพย์มรดกดังกล่าวตามครรลองที่กฎหมายกำหนดไว้ 2. มาตรา 1623 บัญญัติให้ทรัพย์สินของพระภิกษุที่ได้มาในระหว่างเวลาที่อยู่ในสมณเพศนั้น เมื่อพระภิกษุนั้นถึงแก่มรณภาพ ให้ตกเป็นสมบัติของวัดที่เป็นภูมิลำเนาของพระภิกษุนั้น เว้นแต่พระภิกษุนั้นจะได้จำหน่ายไปในระหว่างชีวิตหรือโดยพินัยกรรม ดังนั้น ตามกฎหมายจึงสามารถจำหน่ายจ่ายสินทรัพย์ได้ 2 ประเด็น คือ 1. ได้จำหน่ายใช้สอยในชีวิตประจำวันอย่างไรก็ได้ตามที่เห็นสมควรไม่ขัดหรือแย้งต่อพระธรรมวินัยหรือกฎหมายบ้านเมือง 2. หรือได้ทำพินัยกรรมเป็นคำสั่งเผื่อตาย ยกทรัพย์สินและสินทรัพย์ส่วนตัวให้บุคคลหรือองค์กรใดก็ได้ แต่เมื่อพระภิกษุนั้นถึงแก่มรณภาพ ปรากฏว่ามีสินทรัพย์อื่นที่พระภิกษุนั้นได้มาในระหว่างสมณเพศคงเหลืออยู่เพียงใด ก็ให้สินทรัพย์นั้นตกเป็นของวัดภูมิลำเนาของพระภิกษุนั้น ถ้ามีภูมิลำเนาถิ่นที่อยู่หลายที่ ก็ให้ถือเอาภูมิลำเนาถิ่นสุดท้ายที่สังกัดตามหนังสือสุทธิหรือเอกสารทางราชการ แต่ถ้าพระภิกษุนั้นเคยอุปสมบทหลายครั้ง ก็ให้ถือการอุปสมบทครั้งสุดท้ายเป็นการอุปสมบทตามมาตรานี้ 3. มาตรา 1624 บัญญัติให้ทรัพย์สินใด เป็นของบุคคลก่อนอุปสมบทเป็นพระภิกษุทรัพย์สินนั้นหาตกเป็นของวัดไม่ และให้เป็นมรดกตกทอดแก่ทายาทโดยธรรมของบุคคลนั้น หรือบุคคลนั้นจะจำหน่ายโดยประการใดตามกฎหมายก็ได้ และพิจารณาเพิ่มใน 2 กรณี คือ 1. กรณีที่พระภิกษุนั้นมิได้เคยสมรสมาก่อน สินทรัพย์ส่วนนี้จึงเรียกว่า สินส่วนตน หมายถึง ทรัพย์สินและสินทรัพย์ของบุคคลที่มีมาก่อนอุปสมบท 2. กรณีที่พระภิกษุนั้นเคยสมรสมาก่อน สินส่วนนี้จึงมีสองส่วน คือ สินส่วนตนและสินสมรส มาตรา 1624 ให้เป็นมรดกตกทอดแก่หายากโดยธรรมของพระภิกษุ ข้อเสนอแนะ เมื่อศึกษาแล้ว ผู้ศึกษาวิจัยจึงขอเสนอแนะวิธีการตรวจสอบทรัพย์สินของพระภิกษุเมื่อมรณภาพลงให้เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ซึ่งจะได้แยกแยะชัดเจนว่า เป็นไปตามบทบัญญัติมาตรา 1622 หรือมาตรา 1623 หรือมาตรา 1624 ว่า เห็นสมควรแก้ไขเพิ่มเติมในกฎกระทรวง ว่าด้วยการดูแลรักษาและจัดการ ศาสนสมบัติของวัด พ.ศ. 2564 ข้อที่ 10 ซึ่งเดิมบัญญัติไว้ว่า “ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติกำหนดแบบทะเบียน บัญชี แบบสัญญา และแบบพิมพ์อื่น ๆ และวิธีการลงทะเบียน จำหน่ายทะเบียน และการทำบัญชี รวมทั้งให้คำแนะนำการปฏิบัติแก่วัดเกี่ยวกับการดูแลรักษาและจัดการศาสนสมบัติของวัดเพื่อประโยชน์ในการดำเนินการตามกฎกระทรวงนี้ ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จัดให้มีระบบอิเล็กทรอนิกส์สำหรับใช้ในการดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามกฎกระทรวงนี้ด้วย” แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงว่าด้วยการดูแลรักษาและจัดการศาสนสมบัติของวัด พ.ศ. 2564 ข้อที่ 10 โดยเพิ่มเติมบทบัญญัติว่า “ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติกำหนดแบบทะเบียน บัญชี แบบสัญญา และแบบพิมพ์อื่น ๆ และวิธีการลงทะเบียน จำหน่ายทะเบียน และการทำบัญชี รวมทั้งให้คำแนะนำการปฏิบัติแก่วัดเกี่ยวกับการดูแลรักษาและจัดการศาสนสมบัติของวัด เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการตามกฎกระทรวงนี้ ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จัดให้มีระบบอิเล็กทรอนิกส์สำหรับใช้ในการดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามกฎกระทรวงนี้ด้วย เพื่อประโยชน์แก่การพระศาสนา ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จัดทำแบบบัญชีแสดงทรัพย์สินของพระภิกษุ ได้แก่ (1) พระภิกษุซึ่งได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในการปกครองคณะสงฆ์ ให้จัดทำบัญชีแสดงทรัพย์สินส่วนตัวแยกจากบัญชีทรัพย์สินของวัด รายงานต่อเจ้าคณะผู้ปกครองผู้มีอำนาจเหนือตน และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ทุก ๆ 5 ปี นับแต่ดำรงตำแหน่ง (2) พระภิกษุในพระพุทธศาสนาเถรวาทผู้มีพรรษาพ้น 5 ให้จัดทำบัญชีแสดงทรัพย์สินส่วนตัวแยกจากบัญชีทรัพย์สินของวัดโดยอนุโลม รายงานต่อเจ้าคณะผู้ปกครองผู้มีอำนาจเหนือตน และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ทุก ๆ 5 ปี นับแต่วันอุปสมบท (3) แบบฟอร์มการจัดทำบัญชีทรัพย์สินนั้น ให้ประกาศเป็นกฎกระทรวงโดยความเห็นชอบของมหาเถรสมาคม และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเป็นผู้กำหนดหลักเกณฑ์” ทั้งนี้ แบบฟอร์มการจัดทำบัญชีทรัพย์สินของพระภิกษุ จะต้องแยกแยะทรัพย์สินและสินทรัพย์ของพระภิกษุนั้นให้สอดคล้องกับประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ตามบทบัญญัติ มาตรา 1622 มาตรา 1623 และมาตรา 1624 และเมื่อได้จัดทำบัญชีทรัพย์สินและสินทรัพย์ของพระภิกษุเช่นนี้แล้ว เมื่อพระภิกษุนั้นถึงแก่มรณภาพ ผู้มีหน้าที่ในการตรวจสอบทรัพย์สินและสินทรัพย์ของพระภิกษุนั้น จะได้ทำหน้าที่ตรวจสอบทรัพย์สินและสินทรัพย์ได้ถูกต้องโดยไม่ขัดหรือแย้งกับพระธรรมวินัยตลอดถึงกฎหมายบ้านเมือง""
Abstract: The purpose of this research are as follows: (1) To study the concepts, theories, and evolution of asset management of Buddhist monks upon death according to the principles of the Vinaya (monastic discipline); (2) to examine the laws related to the asset management of Buddhist monks upon death, including relevant foreign laws and Supreme Court judgements; (3) to analyze and compare the laws related to the asset management of Buddhist monks upon death; and (4) to summarize and propose solutions to address the issues in managing the assets of Buddhist monks upon death. The research findings showed that The provisions in the Vinaya (monastic discipline) reflect the Buddha's intention for his disciples to live a simple and contented life, maintaining a lifestyle of sufficiency based on the four requisites. The Vinaya therefore prohibits monks from accumulating wealth, taking pleasure in possessions, or pursuing a livelihood like a layperson. In this context, the second Parajika rule places great importance on wealth as a factor in determining offenses. It prescribes severe penalties, such as disrobing for serious offenses, a medium-level penalty requiring the monk to undergo penance (Parivasakamma) and relinquish the possessions to be absolved, and a lighter penalty involving public confession, in front of other monks, with the condition that the possessions be surrendered first in order to clear the offense. In terms of laws concerning the property and assets of monks, their evolution can be traced back to the Sukhothai period. In the present day, these laws are reflected in the Civil and Commercial Code, specifically in Chapter 6, Sections 1622, 1623, and 1624. According to Section 137 of the Civil and Commercial Code, the term "property" is defined as a tangible object, while Section 138 expands on this by defining "assets" to include both tangible and intangible items that have value and can be owned. Therefore, "assets" have a broader meaning than "property", as anything classified as property is inherently considered an asset. The term "assets" is used in accounting and finance, particularly in the preparation of financial statements. "Assets" refer to valuable items owned by an individual or business, but it has a broader meaning than "property" because it also includes the expected future benefits. For example: Trade receivables are considered assets in accounting but not classified as property. If a business purchases a car under an installment agreement, the car can be used immediately even if all payments have not been completed and ownership has not been transferred. Legally, the car is not yet considered property, but in accounting, it is already classified as an asset of the business. According to the Supreme Court Judgment No. 2718/2560, "assets" include both tangible and intangible items that have value and can be owned, as well as all claims and benefits. Therefore, the researcher has chosen to titled this thesis "The Management of Asset of Buddhist Monk Upon Their Passing". Furthermore, according to the asset management under the Civil and Commercial Code found that: 1. Section 1622 prohibits a monk from claiming inheritance as a statutory heir unless the monk disrobes and makes the claim within the statute of limitations specified in Section 1745. However, the monk may still be a beneficiary of a will. The intent of this law reflects the traditional principle that monks in the Buddhist religion have renounced worldly possessions to diminish their attachment to material desires. If a monk, however, is still attached to the Four Requisites and remains concerned with inheritance, such behavior is deemed inappropriate for a disciple of the monastic discipline. Therefore, the law requires disrobing before pursuing any inheritance claims according to the legal provisions. 2. Section 1623 states that any property acquired by a monk during his time in the monastic order shall, upon his death, become the property of the temple where he resided, unless the monk had disposed of it during his lifetime or through a will. Therefore, under the law, there are two ways to manage and dispose of a monk's assets: 1. The monk can use and dispose of his assets in any manner he sees fit during his lifetime, as long as it does not conflict with the monastic rules or civil law. 2. The monk may also create a will to allocate his personal assets to any individual or organization. However, any remaining assets acquired during the monk's time in the order that were not disposed of by will shall automatically transfer to the temple where the monk last resided. If the monk had multiple places of residence, the temple associated with his final registered residence will receive the assets. In cases where the monk had been ordained multiple times, the assets will go to the temple associated with his most recent ordination. 3. Section 1624 provides that any property owned by an individual before becoming a monk does not become the property of the temple and shall instead be inherited by the individual's lawful heirs. The individual may also dispose of this property according to the law. This section considers two scenarios: 1. If the monk had never been married before ordination: The assets are considered personal property, meaning any assets and property the individual owned before ordination. If the monk had been married before ordination: The assets are divided into two categories—personal property and marital property. Suggestions Based on the study, the researcher recommends methods for managing the assets of monks upon their death to ensure compliance with the provisions of the Civil and Commercial Code. This will clarify whether the assets fall under Sections 1622, 1623, or 1624. It is suggested that the Ministerial Regulations on the Care and Management of Temple Property (B.E. 2564) be revised, specifically Article 10, which currently states: “The National Office of Buddhism shall prescribe forms for registration, accounting, contracts, and other documents, as well as methods for registration, cancellation, and book-keeping, and provide guidance to temples on the management of temple property. To facilitate compliance with these regulations, the National Office of Buddhism shall also implement an electronic system for this purpose." The revision of the Ministerial Regulation on the Care and Management of Temple Property (B.E. 2564), Article 10, by adding the following provisions: “The National Office of Buddhism shall establish forms for registration, accounts, contracts, and other documents, as well as procedures for registration, record-keeping, and accounting. It shall also provide guidance to temples on the care and management of temple property o facilitate compliance with this regulation, the National Office of Buddhism shall implement an electronic system for these processes, for the benefit of the Buddhist community, the National Office of Buddhism shall create a form for recording the assets of monks, including: 1. Monks appointed to administrative positions in the Sangha must maintain separate accounts for personal assets and temple assets, reporting to the supervising monks and the National Office of Buddhism every five years from the date of appointment. 2. Monks in the Theravada tradition with more than five years of ordination must similarly maintain separate accounts for personal assets, reporting to the supervising monks and the National Office of Buddhism every five years from ordination. 3. The forms for recording assets shall be promulgated as ministerial regulations with the approval of the Sangha Supreme Council, and the National Office of Buddhism shall set the guidelines.” The asset forms for monks must clearly differentiate their assets in accordance with Sections 1622, 1623, and 1624 of the Civil and Commercial Code. Once such asset records are established, the designated officials will be able to accurately audit the monk's assets upon their death, in accordance with both Buddhist doctrine and national law.""
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. หอสมุดกลาง
Address: พระนครศรีอยุธยา
Email: library@mcu.ac.th
Role: อาจารย์ที่ปรึกษา
Role: อาจารย์ที่ปรึกษา
Created: 2567
Modified: 2568-09-20
Issued: 2568-09-03
วิทยานิพนธ์/Thesis
application/pdf
tha
©copyrights มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
RightsAccess:
ลำดับที่.ชื่อแฟ้มข้อมูล ขนาดแฟ้มข้อมูลจำนวนเข้าถึง วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1 พระครูธำรงสุตกิตติ์ (กิตติพันธ์ สจฺจวโร).pdf 1.09 MB
ใช้เวลา
0.031384 วินาที

พระครูธำรงสุตกิตติ์ (กิตติพันธ์ สจฺจวโร)
Title Contributor Type
การจัดการสินทรัพย์ของพระภิกษุเมื่อมรณภาพ
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
พระครูธำรงสุตกิตติ์ (กิตติพันธ์ สจฺจวโร)
ประมาณเลิศ อัจฉริยปัญญากุล
วรพจน์ ถนอมกุล
วิทยานิพนธ์/Thesis
ประมาณเลิศ อัจฉริยปัญญากุล
Title Creator Type and Date Create
การพัฒนาประสิทธิภาพการจัดการศาสนสมบัติวัดของคณะสงฆ์ไทย
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ผศ. พิเศษ ร.อ .ดร. ประมาณเลิศ อัจฉริยปัญญากุล, ศศ.บ., น.บ., รป.ม., Ph.D.(Soc.Sc.) ;ผศ. ดร. สุรพล สุยะพรหม, พ.ม., M.A.,Ph.D.(Pol.Sc.);พระวิสุทธิภัทรธาดา (ประสิทธิ์ พฺรหฺมรํสี), ป.ธ.๕, พ.ม., พธ.บ., M.A., Ph.D. (Phil.)
พระมหาวีระชัย ชยวีโร (มิตะสิทธิ์)
วิทยานิพนธ์/Thesis
ปัญหาการใช้อำนาจของเจ้าคณะ พระสังฆาธิการ ตามมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 ในการแต่งตั้งพระสังฆาธิการ
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ประเสริฐ ลิ่มประเสริฐ;ประมาณเลิศ อัจฉริยปัญญากุล
พระครูวิริยศาสนกิจ (สมเจตต์ สมคฺโค)
วิทยานิพนธ์/Thesis
ปัญหากฎหมายเกี่ยวกับหน้าที่ของพระอุปัชฌาย์ ตามมาตรา 23 แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 และกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 17 (พ.ศ. 2536)
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
วรพจน์ ถนอมกุล;ประมาณเลิศ อัจฉริยปัญญากุล
พระครูบวรศีลวัฒน์ (อำนวย สีลธโร)
วิทยานิพนธ์/Thesis
ปัญหากฎหมายเกี่ยวกับความผิดเกี่ยวกับเพศที่ยอมความได้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 281 (2) กับกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 11 (พ.ศ.2521) กรณีการลงนิคหกรรม
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
พระสิทธินิติธาดา;ประมาณเลิศ อัจฉริยปัญญากุล
ภานุรุจ สันตานนท์
วิทยานิพนธ์/Thesis
ปัญหาทางกฎหมายเกี่ยวกับการใช้อำนาจหน้าที่ของเจ้าอาวาสในการบำรุงรักษาศาสนสมบัติของวัดที่เป็นโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ที่ขึ้นทะเบียนตามกฎหมาย
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ประเสริฐ ลิ่มประเสริฐ;ประมาณเลิศ อัจฉริยปัญญากุล
พระครูวรธรรมคุณาสัย (จำนงค์ ถาวรธมฺโม)
วิทยานิพนธ์/Thesis
ปัญหากฎหมายเกี่ยวกับความผิดเกี่ยวกับเพศที่ยอมความได้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 281 (2) กับกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 11 (พ.ศ.2521) กรณีการลงนิคหกรรม
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
พระสิทธินิติธาดา;ประมาณเลิศ อัจฉริยปัญญากุล
ภานุรุจ สันตานนท์
วิทยานิพนธ์/Thesis
การศึกษาเปรียบเทียบการรับฟังพยานหลักฐาน : กรณีการลงนิคหกรรม ตามกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2521) กับประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 226 และมาตรา 226/1
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
พระสิทธินิติธาดา;ประมาณเลิศ อัจฉริยปัญญากุล
พระมหาอุดร อุตฺตโร (มากดี)
วิทยานิพนธ์/Thesis
การศึกษาเปรียบเทียบกระบวนการลงนิคหกรรมตามกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2521) กับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา : ศึกษากรณีวิธีการไต่สวนมูลฟ้อง
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
พระสิทธินิติธาดา;ประมาณเลิศ อัจฉริยปัญญากุล
พระครูอรรถธรรมภาณี (นพปฏล คุตฺตวโร)
วิทยานิพนธ์/Thesis
ปัญหากฎหมายในการปล่อยชั่วคราวของผู้ต้องหาหรือจำเลยในคดีอาญาที่เป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ประเสริฐ ลิ่มประเสริฐ;ประมาณเลิศ อัจฉริยปัญญากุล
อมรรัตน์ ม่วงกลิ่น
วิทยานิพนธ์/Thesis
การจัดการสินทรัพย์ของพระภิกษุเมื่อมรณภาพ
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ประมาณเลิศ อัจฉริยปัญญากุล;วรพจน์ ถนอมกุล
พระครูธำรงสุตกิตติ์ (กิตติพันธ์ สจฺจวโร)
วิทยานิพนธ์/Thesis
ปัญหาทางกฎหมายเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิในการเรียกร้องเอาทรัพย์มรดกของพระภิกษุ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1622
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
วรพจน์ ถนอมกุล;ประมาณเลิศ อัจฉริยปัญญากุล
พระครูภาวนารัตนาภรณ์ (กำพล สิริภทฺโท)
วิทยานิพนธ์/Thesis
ปัญหาทางกฎหมายในการคุ้มครองพระพุทธศาสนาตามกฎหมายของราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ประมาณเลิศ อัจฉริยปัญญากุล;ประเสริฐ ลิ่มประเสริฐ
พระอธิการจาลึก สญฺญโต (เย็นสำราญ)
วิทยานิพนธ์/Thesis
การเปรียบเทียบหลักเจตนาตามประมวลกฎหมายอาญากับ เจตนาในพระธรรมวินัย
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ประมาณเลิศ อัจฉริยปัญญากุล;วรพจน์ ถนอมกุล
พระครูประทีปวัชราภรณ์ (วิเชียร ปญฺญาทีโป/มีไพฑูรย์)
วิทยานิพนธ์/Thesis
ปัญหาและอุปสรรคทางกฎหมายในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาททางแพ่ง ก่อนฟ้องคดี
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ประมาณเลิศ อัจฉริยปัญญากุล;วรพจน์ ถนอมกุล
รวิช สุรไตรวิช
วิทยานิพนธ์/Thesis
ปัญหาทางกฎหมายที่เกี่ยวกับวิธีดำเนินคดีวินัยสงฆ์ตามกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2521) ว่าด้วยการลงนิคหกรรมกับการดำเนินกระบวน พิจารณาคดีอาญาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ประมาณเลิศ อัจฉริยปัญญากุล;วรพจน์ ถนอมกุล
พระครูศรีสิทธิการโกศล (นิพนธ์ วีรพโล)
วิทยานิพนธ์/Thesis
ความรับผิดทางอาญา และพระธรรมวินัยของภิกษุสงฆ์ : กรณีศึกษา พระภิกษุรับของโจร
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ประมาณเลิศ อัจฉริยปัญญากุล;วรพจน์ ถนอมกุล
พระมหาอำนาจ อจฺฉริยเมธี (ดีรัตน์)
วิทยานิพนธ์/Thesis
วรพจน์ ถนอมกุล
Title Creator Type and Date Create
การศึกษาเปรียบเทียบพระวินัยบัญญัติในปาราชิกสิกขาบทที่ 2 กับความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ตามที่บัญญัติไว้ในลักษณะ 12 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ประมาศเลิศ อัจฉริยปัญญากุล;วรพจน์ ถนอมกุล
พระครูอุดมจารุวรรณ (คำไล้ จารุวํโส/กาฬเสาร์)
วิทยานิพนธ์/Thesis
ปัญหากฎหมายเกี่ยวกับหน้าที่ของพระอุปัชฌาย์ ตามมาตรา 23 แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 และกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 17 (พ.ศ. 2536)
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
วรพจน์ ถนอมกุล;ประมาณเลิศ อัจฉริยปัญญากุล
พระครูบวรศีลวัฒน์ (อำนวย สีลธโร)
วิทยานิพนธ์/Thesis
มาตรการทางกฎหมายที่เหมาะสมในการจับกุมบุคคลไว้โดยอำนาจรัฐในราชอาณาจักรไทย
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ประเสริฐ ลิ่มประเสริฐ;วรพจน์ ถนอมกุล
พระครูภาวนาโชติคุณ ชุตินฺธโร (แซ่ลิ้ม)
วิทยานิพนธ์/Thesis
ปัญหาทางกฎหมายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เกี่ยวกับการหย่าของพระภิกษุสงฆ์หลังการอุปสมบท
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ประเสริฐ ลิ่มประเสริฐ;วรพจน์ ถนอมกุล
กำไล มานะกิจ
วิทยานิพนธ์/Thesis
ปัญหากฎหมายในการรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ศึกษา เฉพาะกรณีการให้เช่าช่วงที่ดินของวัดไทยที่ได้รับวิสุงคามสีมา ในราชอาณาจักรไทย
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ประเสริฐ ลิ่มประเสริฐ;วรพจน์ ถนอมกุล
วีระชัย แก้วสง่า
วิทยานิพนธ์/Thesis
การศึกษาเปรียบเทียบเหตุยกเว้นโทษในคดีอาญา กับเหตุยกเว้นโทษในพระธรรมวินัย
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
วรพจน์ ถนอมกุล; ประเสริฐ ลิ้มประเสริฐ
พระธีรศักดิ์ ปภากโร (วงเขื่อนขรรค์)
วิทยานิพนธ์/Thesis
ปัญหาการกระทำผิดพระวินัยว่าด้วยกรณีเสพเมถุนของพระภิกษุ เปรียบเทียบกับ ความผิดทางอาญาเกี่ยวกับเพศ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 276
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
วรพจน์ ถนอมกุล;ประเสริฐ ลิ่มประเสริฐ
พระครูปริยัติสุวัฒนาภรณ์ (ประภาส จนฺทวณฺโณ)
วิทยานิพนธ์/Thesis
มาตรการทางกฎหมายเกี่ยวกับปฏิบัติหน้าที่และอำนาจตามมาตรา 37 และมาตรา 38 แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ประเสริฐ ลิ่มประเสริฐ;วรพจน์ ถนอมกุล
พระมหาสมบัติ ธนปญฺโญ (ฉลองนิติติ์กุล)
วิทยานิพนธ์/Thesis
มาตรการทางกฎหมายเกี่ยวกับปฏิบัติหน้าที่และอำนาจตามมาตรา _37 และมาตรา 38 แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ประเสริฐ ลิ่มประเสริฐ;วรพจน์ ถนอมกุล
พระมหาสมบัติ ธนปญฺโญ (ฉลองนิติติ์กุล)
วิทยานิพนธ์/Thesis
มาตรการทางกฎหมายการเป็นเจ้าพนักงานของเจ้าอาวาส ตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 กับเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
พระสิทธินิติธาดา;วรพจน์ ถนอมกุล
พระครูพิบูลรัตนากร (สมศักดิ์ ฐานธมฺโม/มงคลภักดิ์)
วิทยานิพนธ์/Thesis
การจัดการสินทรัพย์ของพระภิกษุเมื่อมรณภาพ
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ประมาณเลิศ อัจฉริยปัญญากุล;วรพจน์ ถนอมกุล
พระครูธำรงสุตกิตติ์ (กิตติพันธ์ สจฺจวโร)
วิทยานิพนธ์/Thesis
การศึกษาเปรียบเทียบมาตรการทางกฎหมายในการอุปถัมภ์คุ้มครองพระพุทธศาสนาของราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ประเสริฐ ลิ่มประเสริฐ;วรพจน์ ถนอมกุล
พระครูสุวรรณสุตาลังการ (เติม จารุวณฺโณ)
วิทยานิพนธ์/Thesis
การศึกษาเปรียบเทียบกฎหมายรัฐธรรมนูญของราชอาณาจักรไทยและญี่ปุ่น ศึกษาเฉพาะกรณีการได้มาของสมาชิกวุฒิสภา
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ประเสริฐ ลิ่มประเสริฐ;วรพจน์ ถนอมกุล
ธวัช แย้มปิ๋ว
วิทยานิพนธ์/Thesis
ปัญหาทางกฎหมายเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิในการเรียกร้องเอาทรัพย์มรดกของพระภิกษุ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1622
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
วรพจน์ ถนอมกุล;ประมาณเลิศ อัจฉริยปัญญากุล
พระครูภาวนารัตนาภรณ์ (กำพล สิริภทฺโท)
วิทยานิพนธ์/Thesis
ความผิดตามกฎหมายอาญาที่กฎหมายบัญญัติไว้โดยไม่ต้องการเจตนากับหลักทางพระพุทธศาสนาเถรวาท
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ประเสริฐ ลิ่มประเสริฐ;วรพจน์ ถนอมกุล
พระครูสุจิตรัตนากร (สังวาลย์ วฑฺฒจิตฺโต)
วิทยานิพนธ์/Thesis
การวิเคราะห์หลักสิทธิมนุษยชนของพระภิกษุตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาและหลักสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวกับสิทธิทางการเมือง
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ประเสริฐ ลิ่มประเสริฐ;วรพจน์ ถนอมกุล
พระรังสิมันตุ์ จารุวํโส
วิทยานิพนธ์/Thesis
ความรับผิดทางอาญา และพระธรรมวินัยของพระภิกษุ : ศึกษากรณีพระภิกษุกระทำความผิดฐานฉ้อโกง
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
วรพจน์ ถนอมกุล;ประเสริฐ ลิ่มประเสริฐ
พระมหาอรรถพล ฐิตธมฺโม (โกมล)
วิทยานิพนธ์/Thesis
ความรับผิดทางอาญาและพระธรรมวินัยของพระภิกษุ: ศึกษากรณีพระภิกษุกระทำผิดฐานยักยอก
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
วรพจน์ ถนอมกุล;ประเสริฐ ลิ่มประเสริฐ
ไพศาล นาสุริวงศ์
วิทยานิพนธ์/Thesis
ปัญหากฎหมายเกี่ยวกับการยุยงให้ผู้อื่นฆ่าตัวตายตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 293 และพระธรรมวินัยว่าด้วยตติยปาราชิกกัณฑ์
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ประเสริฐ ลิ่มประเสริฐ;วรพจน์ ถนอมกุล
ดวงใจ ปินตามูล
วิทยานิพนธ์/Thesis
การศึกษาปัญหากฎหมายรัฐธรรมนูญและสถาบันการเมืองของราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐสิงคโปร์
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ประเสริฐ ลิ่มประเสริฐ;วรพจน์ ถนอมกุล
จินตนา ปัญญาวัฒนานนท์
วิทยานิพนธ์/Thesis
การเปรียบเทียบหลักเจตนาตามประมวลกฎหมายอาญากับ เจตนาในพระธรรมวินัย
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ประมาณเลิศ อัจฉริยปัญญากุล;วรพจน์ ถนอมกุล
พระครูประทีปวัชราภรณ์ (วิเชียร ปญฺญาทีโป/มีไพฑูรย์)
วิทยานิพนธ์/Thesis
ปัญหาและอุปสรรคทางกฎหมายในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาททางแพ่ง ก่อนฟ้องคดี
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ประมาณเลิศ อัจฉริยปัญญากุล;วรพจน์ ถนอมกุล
รวิช สุรไตรวิช
วิทยานิพนธ์/Thesis
ปัญหาทางกฎหมายที่เกี่ยวกับวิธีดำเนินคดีวินัยสงฆ์ตามกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2521) ว่าด้วยการลงนิคหกรรมกับการดำเนินกระบวน พิจารณาคดีอาญาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ประมาณเลิศ อัจฉริยปัญญากุล;วรพจน์ ถนอมกุล
พระครูศรีสิทธิการโกศล (นิพนธ์ วีรพโล)
วิทยานิพนธ์/Thesis
ความรับผิดทางอาญา และพระธรรมวินัยของภิกษุสงฆ์ : กรณีศึกษา พระภิกษุรับของโจร
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ประมาณเลิศ อัจฉริยปัญญากุล;วรพจน์ ถนอมกุล
พระมหาอำนาจ อจฺฉริยเมธี (ดีรัตน์)
วิทยานิพนธ์/Thesis
Copyright 2000 - 2025 ThaiLIS Digital Collection Working Group. All rights reserved.
ThaiLIS is Thailand Library Integrated System
สนับสนุนโดย สำนักงานบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อพัฒนาการศึกษา
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
328 ถ.ศรีอยุธยา แขวง ทุ่งพญาไท เขต ราชเทวี กรุงเทพ 10400 โทร. โทร. 02-232-4000
กำลัง ออน์ไลน์
ภายในเครือข่าย ThaiLIS จำนวน 41
ภายนอกเครือข่าย ThaiLIS จำนวน 3,211
รวม 3,252 คน

More info..
นอก ThaiLIS = 84,878 ครั้ง
มหาวิทยาลัยสังกัดทบวงเดิม = 58 ครั้ง
มหาวิทยาลัยราชภัฏ = 52 ครั้ง
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล = 10 ครั้ง
สถาบันพระบรมราชชนก = 10 ครั้ง
มหาวิทยาลัยเอกชน = 1 ครั้ง
รวม 85,009 ครั้ง
Database server :
Version 2.5 Last update 1-06-2018
Power By SUSE PHP MySQL IndexData Mambo Bootstrap
มีปัญหาในการใช้งานติดต่อผ่านระบบ UniNetHelp


Server : 8.199.134
Client : Not ThaiLIS Member
From IP : 216.73.216.104