การบริหารจัดการกองทุนสวัสดิการชุมชนตามหลักสังคหวัตถุธรรม ในตำบลน้ำดิบ อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน

Name: ณิชชา มณีวรรณ

keyword: การบริหารจัดการ

; กองทุนสวัสดิการชุมชน

; สังคหวัตถุธรรม

; ตำบลน้ำดิบ อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน

Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาระดับความคิดเห็นของสมาชิกกองทุนเกี่ยวกับการบริหารจัดการกองทุนสวัสดิการชุมชน ในตำบลน้ำดิบ อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน 2) เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของสมาชิกกองทุนเกี่ยวกับการบริหารจัดการกองทุนสวัสดิการชุมชน ในตำบลน้ำดิบ อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล 3) เพื่อศึกษาแนวทางการบริหารจัดการกองทุนสวัสดิการชุมชนตามหลักสังคหวัตถุธรรม ในตำบลน้ำดิบ อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน ประชากรวิจัย จำนวน 327 คน ดำเนินการตามระเบียบวิธีวิจัยแบบผสานวิธี (Mixed Methods) ดังนี้ การวิจัยเชิงปริมาณ ใช้เครื่องมือแบบสอบถาม มาวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติโดยหาความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที และค่าเอฟ ด้วยวิธีวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One Way ANOVA) ในกรณีตัวแปรต้นทั้ง 2 กลุ่ม ขึ้นไป เมื่อพบว่ามีความแตกต่าง จึงทำการเปรียบเทียบความแตกต่างเป็นรายคู่ด้วยวิธีผลต่างนัยสำคัญทางสถิติน้อยที่สุด การวิจัยเชิงคุณภาพ ใช้เครื่องมือแบบสัมภาษณ์ ทำการวิเคราะห์ข้อมูลโดยวิธีสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 12 รูปหรือคน และวิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหาเชิงพรรณนา ผลการวิจัยพบว่า 1. ระดับความคิดเห็นของสมาชิกกองทุน พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมีระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับการบริหารจัดการกองทุนสวัสดิการชุมชนในตำบลน้ำดิบ อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน ภาพรวมอยู่ในระดับมาก (x̅=3.84) เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ด้านบริบทชุมชนมีค่าเฉลี่ยสูงสุด (x̅=4.35) และด้านการมีส่วนร่วมมีค่าเฉลี่ยต่ำสุด (x̅=3.58) 2. การเปรียบเทียบความคิดเห็นของสมาชิกกองทุน ที่มีสถานภาพ อาชีพ และระยะเวลาการเป็นสมาชิกแตกต่างกัน มีความคิดเห็นเกี่ยวกับการบริหารจัดการกองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลน้ำดิบ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.005 จึงยอมรับสมมติฐานการวิจัย ส่วนเพศ อายุ วุฒิการศึกษา และรายได้ มีระดับความคิดเห็นไม่แตกต่างกัน จึงปฏิเสธสมมติฐานที่ตั้งไว้ 3. แนวทางการประยุกต์ใช้หลักธรรมสังคหวัตถุ 4 ในการบริหารจัดการกองทุนสวัสดิการชุมชน พบว่า ด้านทาน เป็นการให้ที่เกิดจากความสมัครใจไม่หวังผลตอบแทนใดๆ ทำให้เกิดความสบายใจ ไม่เคลือบแคลงสงสัย และให้อย่างมีคุณค่า รับอย่างมีศักดิ์ศรี ด้านปิยะวาจา การพูดจาด้วยคำไพเราะอ่อนหวาน เป็นการเจรจาด้วยถ้อยคำที่สุภาพ และเป็นประโยชน์ ถ้อยคำที่พูดไม่กระทบถึงผู้อื่น ไม่เสียดสี พูดแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์ ทำให้เกิดการเลื่อมใสศรัทธาในตัวผู้พูด จูงใจให้เกิดการปฏิบัติด้วยความร่วมมือและเต็มใจ ทำให้งานสำเร็จมีคุณภาพ เป็นประโยชน์ต่อชุมชน ด้านอัตจริยา เป็นการสงเคราะห์ด้วยการประพฤติตนให้เป็นประโยชน์แก่ตนเองและผู้อื่น รู้จักการเสียสละ ไม่เห็นแก่ตัว ทุ่มเทแรงกายแรงใจช่วยเหลือส่วนรวม แก้ไขปัญหาต่างๆ ในส่วนของการปฏิบัติงานถ้าทุกคนช่วยกันปฏิบัติงาน งานที่ว่ายากก็จะสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี และการสงเคราะห์นี้ยังเป็นการสร้างแรงจูงใจในการปฏิบัติงาน และทำให้ทุกคนในองค์กรเกิดความสามัคคีในการปฏิบัติงานอีกด้วย ด้านสมานัตตา เป็นการสงเคราะห์ด้วยการวางตัวเสมอต้นเสมอปลาย หนักแน่นและให้ความเสมอภาคกับทุกคนเท่าเทียมกัน ร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน ไม่เอารัดเอาเปรียบ ร่วมเผชิญ และแก้ปัญหาต่างๆ เพื่อประโยชน์ส่วนรวม และสังคมอยู่เย็นเป็นสุข หลักธรรมทั้งสี่ด้านนี้มีส่วนสำคัญในการบริหารจัดการกองทุนสวัสดิการชุมชนให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้"

Abstract: The objectives of this research were 1) to study the opinion level of fund members regarding the management of the Community Welfare Fund in NamDip Subdistrict, PaSang District, Lamphun Province, 2) to compare the opinions of the fund members regarding the management of the Community Welfare Fund in Nam Dip Subdistrict, Pa Sang District, Lamphun Province classified by personal factors, and 3) to study the management approach of the Community Welfare Fund according to the Sangahavathu 4 principle in NamDip Subdistrict, PaSang District, Lamphun Province. The sample size was 327 people. The study was conducted by using mixed method research methodology. For quantitative method, the questionnaire was used as a tool to analyze the statistical data to find the frequency, percentage, mean, standard and deviation. The hypothesis was tested by t-test and F-test by One-Way Anova analysis. If there was any difference, it would be tested with pair difference by using Least Significant Difference (LSD). For qualitative method, the research tool was the interview form used in in-depth interview with 12 key informants. The data were analyzed by descriptive content analysis. The research findings were as follow: 1. For the opinion level of the research population (members of NamDip Subdistrict Community Welfare Fund), it was found that the respondents had a moderate level of opinion about the management of the NamDip Subdistrict Community Welfare Fund, PaSang District, Lamphun Province in the overall level (x̅= 3.84). When considering each aspect, it was found that the community context had the highest mean (x̅=4.35) and the participation aspect had the lowest mean (x̅=3.58). 2. For the comparison of opinions of research populations (members of Nam Dip Sub-district Community Welfare Fund) with a different status, occupation, and membership period had different opinions on the management of NamDip Subdistrict Community Welfare Fund. It was significantly different at the 0.05 level. The research hypothesis was accepted. There was no difference on gender, age, educational background, and income. Therefore, the hypothesis was rejected. 3. For recommendations for the application of the Sangahavathu 4 principle in the management of the Community Welfare Fund, it was found that the giving aspect was a voluntary giving without expecting any return. This could make people feel at ease, have no doubt, provide worthy giving, and receive with dignity. For Piyavaja or good verbal speech, it referred to sweet and melodious speech. It was a conversation with polite and helpful words that did not offend others, no sarcasm, and to speak only what was useful. This would lead to devotion to the speaker, motivating action with cooperation and willingness, making the job done with quality, and creating benefits to the community. In good attitude aspect, it was assistance by behaving for the benefit of oneself and others, knowing how to sacrifice unselfishly, being dedicated to help the community, and fixing various problems. For the operation, if everyone worked together, the difficult task would be accomplished well. This relief was also an incentive to work and created unity in the organization as well. For Samanatta, it was helping by being consistent, steadfast, and equal to all people. This included sharing happiness together, not taking advantage, and facing and solving problems together. The society would be peaceful. Sangahavathu 4 principle played an important role in managing the Community Welfare Fund to achieve its goals.""

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, หอสมุดกลาง

Address: พระนครศรีอยุธยา

Email: library@mcu.ac.th

Name: สามารถ บุญรัตน์

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Name: ธิติวุฒิ หมั่นมี

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Created: 2565

Modified: 2568-09-18

Issued: 2568-09-01

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

Level: ปริญญาโท

Descipline: สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์

Grantor: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

DegreeName: รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต

©copyrights มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	ณิชชา มณีวรรณ.pdf	7.59 MB	2	2025-12-06 23:16:02

ใช้เวลา

0.035406 วินาที