การมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคมในกระบวนการจัดทำแผนพัฒนาจังหวัดบุรีรัมย์

Civil Society Participation in the Process of Developing the Buriram Provincial Development Plan

Name: ธีร์จุฑา ปุสารัมย์

Abstract: การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาระดับการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคม ในกระบวนการจัดทำแผนพัฒนาจังหวัดบุรีรัมย์ 2) เพื่อเปรียบเทียนระดับเกี่ยวกับการมีส่วนร่วม ของกลุ่มภาคประชาสังคมในกระบวนการจัดทำแผนพัฒนาจังหวัดบุรีรัมย์ จำแนกตามปัจจัย ทางประชากรศาสตร์ และ 3) เพื่อศึกษาแนวทางการมีส่วนร่วมในกระบวนการจัดทำแผนพัฒนา จังหวัดบุรีรัมย์ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คือ กลุ่มภาคประชาสังคมในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ จำนวนทั้งสิ้น 370 คน ใช้วิธีสุ่มโดยเปรียบเทียบกลุ่มตัวอย่างตามตารางของเครจซี่และมอร์แกน และ ทำการสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบชั้นภูมิ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถาม และแบบสัมภาษณ์ เชิงคุณภาพแบบกึ่งโครงสร้าง ได้ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.86 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานการทดสอบค่าที และวิเคราะห์เปรียบเทียบ ความแปรปรวนทางเดียว ผลการวิจัยพบว่า 1. ระดับการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคม ในกระบวนการจัดทำแผนพัฒนาจังหวัด บุรีรัมย์ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า อยู่ในระดับมาก 2 ด้าน คือ ด้านการรับผลประโยชน์ และด้านการประเมินผล ส่วนด้านการดำเนินงาน และด้านการตัดสินใจ อยู่ในระดับปานกลาง 2. เปรียบเทียบระดับการมีส่วนร่วมของกลุ่ม ภาคประชาสังคม ในกระบวนการจัดทำ แผนพัฒนาจังหวัดบุรีรัมย์ จำแนกตามปัจจัยทางประชากรศาสตร์ของภาคประชาสังคม พบว่า เพศ อายุ สถานภาพ ระดับการศึกษา รายได้เฉลี่ยต่อเดือน และประเภทกลุ่มภาคประชาสังคม มีความแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ ระดับ .05 3. แนวทางการมีส่วนร่วมในกระบวนการจัดทำแผนพัฒนาจังหวัดบุรีรัมย์ พบว่า หน่วยงาน ควรให้ผู้แทนภาคประชาสังคมของจังหวัดบุรีรัมย์เข้าไปมีส่วนร่วมดำเนินงานอย่างจริงจัง โดยให้ร่วมดำเนินกิจกรรมตั้งแต่เริ่มกิจกรรมไปจนเสร็จสิ้นกิจกรรมในแต่ละครั้ง 2) ควรมีการประชุมให้มี การร่วมระดมความคิดการวางแผนยุทธศาสตร์การจัดทำแผนพัฒนาจังหวัด และการร่วมพิจารณา เกี่ยวกับงบประมาณตลอด และการดำเนินงานควรขึ้นอยู่กับส่วนราชการนั้น ๆ 3) ควรเปิดโอกาส ให้ผู้แทนภาคประชาสังคมเข้าร่วมตรวจสอบในการดำเนินงานโครงการ แผนงานอย่างแท้จริง และ 4) ควรจัดเวทีประชาคมให้ทุกองค์กรเข้าร่วมประชุม และเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างจริงจัง

Abstract: This research aimed 1) to study the level of civil society participation in the process of developing the Buriram Provincial Development Plan, 2) to compare the levels of participation among civil society groups in this process hased on demographie factors; and 31 to explore approaches to enhance participation in the formulation of the Buriram Provincial Development Plan. The sample group consisted of 370 civil society members in Buriram Provincial selected by using Krejcie and Morgan's sample size table and stratified random sampling. The research instruments were a questionnaire and a semi-structured interview, with a reliability coefficient of 0.86. Statistical analyses used in this study included percentage, mean, standard deviation, t-test. and one-way ANOVA. The findings revealed that 1. The overall level of civil society participation in the process of developing the Buriram Provincial Development Plan was at a high level. When analyzed by specific aspects, it was found that benefit reception aspect, and evaluation aspect, were at a high level, while implementation aspect, and decision-making aspect were at a moderate level. 2. The comparison of civil society groups' participation levels, classified by demographic factors, showed statistically significant differences at the 0.05 level based on gender, age, marital status, education level, average monthly income, and type of civil society group. 3. The proposed approaches to enhance civil society participation in the development of the Buriram Provincial Development Plan included: 1) relevant agencies should actively involve representatives from civil society throughout the entire activity process, from initiation to completion; 2) meetings should be held to encourage brainstorming on strategic planning, budget discussions, and planning development, with implementation responsibilities remaining with the respective government agencies; 3) civil society representatives should be given the opportunity to participate in monitoring and evaluating projects and plans; and (4) public forums should be organized to allow all organizations to engage in meaningful discussions and exchanges of opinions.

มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์. ศูนย์วิทยบริการ

Address: บุรีรัมย์

Name: สถาพร วิชัยรัมย์

Role: ที่ปรึกษาหลัก

Name: ธัญญรัตน์ พุฑฒิพงงษ์ชัยชาญ

Role: ที่ปรึกษาร่วม

Created: 2568

Issued: 2568-08-20

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

DegreeName: รัฐประศาสนศาสตร์มหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: รัฐประศาสนศาสตร์

Grantor: มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์

©copyrights มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์

ใช้เวลา

0.023848 วินาที