การสร้างเสริมความคิดเชิงบวกตามแนวพุทธธรรม

Reinforcement of Positive Thinking According to Buddhadhamma

Name: สกล เหลืองไพฑูรย์

ThaSH: ความคิดและการคิด

Abstract: การศึกษาดุษฎีนิพนธ์เรื่อง การเสริมสร้างความคิดเชิงบวกตามแนวพุทธธรรม มีวัตถุประสงค์ดังนี้ ๑) เพื่อศึกษาการเสริมสร้างความคิดเชิงบวก ๒) เพื่อศึกษาหลักพุทธธรรมที่เสริมสร้าง ความคิดเชิงบวก ๓) เพื่อบูรณาการการเสริมสร้างความคิดเชิงบวกตามแนวพุทธธรรมและ ๔) เพื่อนำเสนอแนวทางและสร้างองค์ความรู้ใหม่เกี่ยวกับ “รูปแบบการเสริมสร้างความคิดเชิงบวกตามแนวพุทธ ธรรม” ดุษฎีนิพนธ์นี้ได้ดำเนินการวิจัยเชิงคุณภาพแบบวิจัยเอกสาร (Documentary Qualitative Research) โดยมีวิธีดำเนินการวิจัยเริ่มจากการวิเคราะห์เนื้อหาจากเอกสารวิชาการ วิเคราะห์หลักพุทธ ธรรมจากพระไตรปิฎกและอรรถกถา สัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth interview) ผู้ทรงคุณวุฒิด้านความคิด เชิงบวก ด้านความคิดบวกในพระพุทธศาสนาและผู้มีประสบการณ์ในการใช้ความคิดเชิงบวกจำนวน ๑๐ รูป/คน และเสวนากลุ่ม (Focus Group) จำนวน ๑๐ คน ผลการวิจัยพบว่า าลัย ความคิดเชิงบวกเป็นวิธีคิดที่สร้างขวัญกรรมและดำเนินชีวิตให้ ผ่านปัญหาและอุปสรรคไปได้ องค์ประกอบของความคิดเชิงบวก ได้แก่ มีความเชื่อมั่น มีความพยายาม มี ความตั้งใจ มีความมุ่งมั่น และมีความสามารถในการแก้ปัญหา เน้นให้เกิดความหวัง การตั้งเป้าไปสู่ จุดหมาย และมีความสำเร็จเชิงรูปธรรมเป็นผล ความคิดเชิงบวกในพระพุทธศาสนาเริ่มจากการคิดอยู่บนฐานของความจริง คิดแสวงหา ความจริง คิดแก้ปัญหา และคิดสร้างประโยชน์ ความคิดเชิงบวกในพระพุทธศาสนาก็คือโยนิโสมนสิการ อันมีกุศลเป็นตัวกำหนด โดยแยกแยะไปตามประเด็นที่เกี่ยวข้องกับชีวิต และมีจุดสิ้นสุดอยู่ที่การพ้นจาก ทุกข์อย่างสิ้นเชิง วิธีคิดเชิงบวกจึงอาศัยกัลยาณมิตรและนำไปสู่กระบวนการคิดที่ถูกต้อง การบูรณาการการเสริมสร้างความคิดเชิงบวกตามแนวพุทธธรรม โดยยึดหลักพลัง ผลักดันความคิด ๕ ประการเป็นกรอบ ได้แก่ ๑. ความคิดที่ตั้งอยู่บนฐานของความเชื่อมั่นอย่างถูกต้อง ได้แก่ การกระทำของตน ผล ความรับผิดชอบของตนและพระปัญญาตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ความคิดที่ อันเกิดจากการกระทำของตน สอดคล้องกับหลักดังกล่าวจึงนำไปสู่เป้าหมายที่ถูกต้อง ๒. ความคิดที่ตั้งอยู่บนฐานความเพียรพยายามของตน ได้แก่ ความเพียรพยายามในการ ละสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ระมัดระวังไม่ให้ผิดพลาด พัฒนาทักษะความสามารถของตนให้ดียิ่งขึ้นและรักษา มาตรฐานการทำงานไว้ให้คงที่ ๓. ความคิดที่ตั้งอยู่บนฐานความตั้งใจมั่น ไม่ประมาทพลั้งเผลอในองค์ประกอบต่าง ๆ ได้แก่ เวลา อายุ วัย สุขภาพ การศึกษา และการปฏิบัติธรรม เพื่อมิให้การทำงานได้รับผลเสียหายจาก ความปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรม ๔. ความคิดที่ตั้งอยู่บนฐานความแน่วแน่ มุ่งมั่น ทนต่อแรงเสียดทานจากสิ่งขัดขวางทั้ง ภายใน คือ ความคิดและอารมณ์ที่เป็นลบ และสิ่งขัดขวางภายนอก คือบุคคล เวลา สถานที่ที่ไม่เอื้อให้เกิด ความแน่วแน่มั่นคง ๕. ความคิดที่ตั้งอยู่บนฐานของความรอบคอบและรอบรู้ทั้งต่อการกระทำกิจกรรมและ การแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ด้วยกระบวนการศึกษา วิเคราะห์ พิจารณาและการตัดสินใจ การบูรณาความคิดเชิงบวกที่ผ่านกระกระบวนคิดบนฐานทั้ง ๕ นำไปสู่ความจริงและพบ ความจริงแก้ไขปัญหาได้และมีประโยชน์ในหลายมิติ พลวัตที่เป็นตัวกรองความคิดจะสร้างผลเชิงบวกให้ เกิดขึ้น ไม่ว่าจะอยู่ในด้านบุคคล สิ่งของ สถานการณ์หรือสถานที่ที่เป็นวิกฤติหรือเป็นแง่ลบ จึงสังเคราะห์ เป็นองค์ความรู้เรียกว่า “TISU Model”

Abstract: The objectives of the research entitled Reinforcement of Positive Thinking According to Buddhadhamma were as follows: 1. to study a reinforcement of positive thinking, 2.to study the principles of Buddhadhamma relating to positive thinking, 3.to integrate a reinforcement of positive thinking according to the Buddhadhamma, and 4.to propose guidelines in building new knowledge regarding "the model of integrating a reinforcement of positive thinking according to the Buddhadhamma". The data of this documentary qualitative research were collected from the Tipittaka, Commentaries, in-depth interviews with 10 experts, and focus group discussions with 10 experts in positive thinking. The results of the study indicated that ทยาลัย Positive thinking is a way of thinking that encourages and motivates people to go through activities, problems, and obstacles in life. Factors of positive thinking include confidence, effort, mindfulness, concentration and adversity of problems. It is focused on hope, targeting outputs and gaining objective success as a result. Positive thinking in Buddhism starts from thinking based on truth and seeking truths for solving problems and creating benefit and happiness. The Buddhist positive thinking is regarded as Yonisomanasikara or systematic thinking. It referred to the wholesome as an index by identifying issues related to life and coming to a compete end of suffering. The positive thinking was attached on a good man by guiding to the right-thinking process. Integration of a reinforcement of positive thinking according to Buddhism is based on the five driving forces of thoughts as a concept as follows; 1. The positive thinking is based on the right confidence; one's actions, results of one's actions and one's responsibility, and the wisdom from the Buddha's enlightenment. The thinking that aligns with these principles leads to the right goal. 2. The positive thinking is based on one's effort, namely, the effort to abandon the wrong things, to be careful in not making mistakes, to improve one's skills and to keep working standards. 3. The positive thinking is based on the mindfulness, namely, the heedfulness on living consisting of time, age, period of life, health, education and meditation. It must be mindful in preventing work from damages. 4. The positive thinking is based on the concentration and committed determination from withstanding the friction of the internal impediment, that is the negative thoughts and emotions, and the external impediment consisting of person, time, and/or place being obstacle to the concentration. 5. The positive thinking is based on prudence and wisdom, both on the activities and solutions that arise. It is generated by the process of study, analysis, consideration and decision making Integration of the positive thinking through the 5-step process of thinking is able to lead to the Truth and to find the Truth, to solve problems, and to gain the multidimensional utility. The 5-step process of thinking dynamics that filter the thoughts. produces positive results automatically whether those who face the negative person, crisis, the unwanted place, or the negative state could generate to the positive dimension so far. The study synthesis is demonstrated in the model called "TISU Model."

มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย. ศูนย์บริการวิชาการ ฝ่ายห้องสมุด

Address: นครปฐม

Email: library@mbu.ac.th

Name: สุเชาวน์ พลอยชุม

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Created: 2561

Modified: 2568-08-01

Issued: 2568-08-01

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

DegreeName: ศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิต

Level: ปริญญาเอก

Descipline: พุทธศาสน์ศึกษา

Grantor: มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย

©copyrights มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	SakolLua.pdf	19.89 MB	2	2025-09-22 15:41:36

ใช้เวลา

0.017542 วินาที