การเกิดผลลีบในมะพร้าวน้ำหอม

Development of barren nut in 'Nam Hom' coconut (Cocos nucifera L)

Name: พรนภา รุ่งสว่าง

ThaSH: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ -- วิทยานิพนธ์. วท.ม. (วิทยาการพืชสวน) 2564.

Classification :.LCCS: SB401.C6

ThaSH: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. -- สาขาวิทยาการพืชสวน -- วิทยานิพนธ์

ThaSH: มะพร้าวน้ำหอม -- การเจริญเติบโต

ThaSH: ธาตุอาหารพืช

Abstract: ในการเก็บเกี่ยวมะพร้าวน้ำหอมบางครั้งพบว่ามีผลลีบปนมากับผลปกติ ซึ่งไม่เป็นที่ต้องการของตลาด ขณะนี้ยังไม่ทราบถึงสาเหตุตลอดจนช่วงเวลาที่เริ่มพัฒนาเป็นผลลีบ จึงทำการศึกษาการเกิดผลลีบในมะพร้าวน้ำหอม โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อให้ทราบช่วงเวลาการเกิดผลลีบและปริมาณของผลลีบที่พบในระยะเก็บเกี่ยวของมะพร้าวน้ำหอมในรอบปี 2) เพื่อให้ทราบถึงลักษณะการพัฒนาของผลลีบในมะพร้าวน้ำหอม ทั้งการเปลี่ยนแปลงของลักษณะทางสัณฐานวิทยาและทางด้านชีวเคมี ได้แก่ ความเข้มข้นของคาร์โบไฮเดรตที่ไม่ใช่โครงสร้าง ไนโตรเจน และโพแทสเซียมภายในผล ประกอบด้วย 2 การทดลอง การทดลองที่ 1 ศึกษาการเกิดผลลีบของมะพร้าวน้ำหอมในรอบปี จากต้นมะพร้าวน้ำหอมจำนวน 400 ต้น ในอำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี โดยเมื่อถึงระยะเก็บเกี่ยว ทำการนับจำนวนผลลีบโดยคัดแยกออกจากผลปกติ บันทึกผลการทดลองทุกเดือนตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559-2561 พบว่ามีการเกิดผลลีบในมะพร้าวน้ำหอมทุกเดือนตลอด 3 ปีที่ทำการศึกษา โดยพบมากที่สุด คือ ปี พ.ศ. 2559 และพบมากในช่วงฤดูหนาว ในเดือนธันวาคม (8.4 เปอร์เซ็นต์) รองลงมาคือ ปี พ.ศ. 2560 ในเดือนมกราคม (3.5 เปอร์เซ็นต์) ส่วนปี พ.ศ. 2561 พบน้อยที่สุด โดยพบผลลีบมากที่สุดในเดือนมกราคม (1.9 เปอร์เซ็นต์) การทดลองที่ 2 ติดตามจำนวนดอกเพศเมีย จำนวนผลลีบ การพัฒนาของผลลีบ และตำแหน่งของการเกิดผลลีบในทะลาย เก็บข้อมูลทุกเดือนตั้งแต่จั่นบานจนถึงระยะเก็บเกี่ยวทางการค้าของมะพร้าวน้ำหอม มาวิเคราะห์คาร์โบไฮเดรตที่ไม่ใช่โครงสร้างและธาตุอาหารพืชภายในผล ได้แก่ ไนโตรเจนและโพแทสเซียม พบว่า ปี พ.ศ. 2560 เดือนกรกฎาคม มีจำนวนดอกเพศเมียมากที่สุด (43 ดอกต่อจั่น) เมื่อถึงระยะเก็บเกี่ยวพบผลลีบภายในจั่นที่มีจำนวนดอกเพศเมียมาก เฉลี่ย 1 ผลต่อจั่น ในปี พ.ศ. 2561 เดือนมิถุนายน จำนวนดอกเพศเมียมากที่สุด (28 ดอกต่อจั่น) และพบผลลีบภายในจั่นเฉลี่ย 1 ผลต่อจั่น การพัฒนาของผลลีบเห็นชัดเจนขึ้นเมื่อผลมีอายุ 4 เดือน โดยผลมีลักษณะรียาว กะลามีขนาดเล็กลีบ น้ำหนักเบากว่าผลปกติ และส่วนใหญ่ไม่มีน้ำและเนื้อมะพร้าว ส่วนผลปกติมีลักษณะเป็นทรงกลม มีเนื้อและน้ำมะพร้าวอยู่ภายในกะลา และตำแหน่งการเกิดผลลีบพบในบริเวณโคนจั่นมากที่สุด Barren nut is an undesirable character for ‘Nam Hom’ coconut production. The cause of barren nut is still unknown as well as its development and position on aspadix. The objectives of this study were 1) to annually the occurrence of barren nut as well as the amount of barren nut at harvesting, 2) to study the development of barren nut physically and biochemically i.e.: total nonstructural carbohydrates (TNC), nitrogen (N) and potassium (K). The first experiment studied on annual occurring of barren nut by counting number of normal fruit and barren nut in each monthly harvesting from 400 trees grown in Damnoen Saduak District, Ratchaburi during the 3-year period of 2016 –2018. The result showed that barren nut could be found every month during the 3-year period. The highest amount of barren nut was found in 2016 with the peak of 8.4% during the winter of December 2016. Lower amount of barren nut was found in 2017 and 2018, with the peak of 3.5% in January 2017 and in 1.9% January2018, respectively. The second experiment studied on number of female flowers, number of barren nuts, development of barren nut and position of barren nut on a spadix. Data were collected from the spadix opening stage until harvesting on a monthly basis. TNC, N, and K concentrations of barren nut and normal fruit were determined. In 2017, highest number of female flowers was found in July (43 flowers/spadix), and at harvesting time, these spadices with high number of female flowers had 1 barren nut/spadix. In 2018, highest number of female flowers was found in June (28 flowers/spadix) and these spadices had 1 barren nut/spadix at harvesting. Barren nut can be distinguished from the normal one when the fruit was 4 months old. It had oval shapefruit, smalland, lighter weight than a normal fruit and it had no coconut meat and water while a normal fruit was round and had both coconut meat and water. The barren nut was mostly found at the base of a spadix. The shell of normal fruit had higher TNC than that of barren nut. While N in husk, shell and perianth in both types of fruit was not significantly different and K in perianth of barren nut was less than that ofnormal fruit.

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. สำนักหอสมุด

Address: กรุงเทพมหานคร

Email: tdckulib@ku.ac.th

Name: กฤษณา กฤษณพุกต์

Role: อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์หลัก

Name: เกียรติสุดา เหลืองวิลัย

Role: อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ร่วม

Created: 2564

Modified: 2568-07-22

Issued: 2568-07-22

วิทยานิพนธ์/Thesis

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

URL: https://www.lib.ku.ac.th/KUthesis/2564/pornnapa-run-all.pdf

CallNumber: SB401.C6 .พ171

tha

DegreeName: วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: วิทยาการพืชสวน

Grantor: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

©copyrights มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	pornnapa-run-all.pdf	1.91 MB	1	2025-12-17 19:22:17

ใช้เวลา

0.037094 วินาที