การเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดินและศักยภาพการรองรับการท่องเที่ยวของตำบลแหลมผักเบี้ย

Land use change and tourism carrying capacity in Laem Phak Bia sud-district

Name: กชกร น้ำด้วง

ThaSH: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ -- วิทยานิพนธ์. ปร.ด. (วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม) 2563.

Classification :.LCCS: HD890.55.Z9.P4

ThaSH: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. -- สาขาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม -- วิทยานิพนธ์

ThaSH: การท่องเที่ยว

ThaSH: ระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์

Abstract: การศึกษาการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดินและศักยภาพการรองรับการท่องเที่ยวของตำบลแหลมผักเบี้ย อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี มีวิธีการศึกษา ดังนี้ 1) เปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดินจากแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศและภาพถ่ายดาวเทียม ใน พ.ศ. 2497, 2519, 2538, 2552 และ 2562 2) แบบสัมภาษณ์ความคิดเห็น ที่ได้จากการสุ่มตัวอย่างนักท่องเที่ยวแบบบังเอิญ จำนวน 118 ตัวอย่าง ผลการศึกษาจากการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดิน พ.ศ. 2497 และ พ.ศ. 2562 ส่วนใหญ่ยังคงมีการใช้ที่ดินเพื่อเป็นพื้นที่เกษตรกรรม โดยใช้เป็นพื้นที่นาเกลือมากที่สุด มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการตั้งถิ่นฐาน โดยเฉพาะที่เป็นรูปแบบเส้นตรงแนวยาวตามถนนชายฝั่งอย่างรวดเร็ว เพื่อเป็นโรงแรมและโฮมสเตย์ ปรากฏชัดเจนในปี พ.ศ. 2538 คิดเป็นพื้นที่ 64.48 ไร่ ผลการศึกษาสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการตั้งถิ่นฐานจากการพัฒนาการท่องเที่ยว สำหรับการขยายตัวในแนวราบ (Horizontal Expansion) เนื่องจากยังมีพื้นที่เกษตรกรรมและพื้นที่รกร้างว่างเปล่าที่สามารถรองรับการขยายตัวของชุมชน หรือการขยายตัวของพื้นที่บริการธุรกิจเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวในอนาคตได้ จากลักษณะทางประชากรของผู้ตอบแบบสัมภาษณ์ พบว่า เป็นเพศหญิงร้อยละ 61.0 มีระดับการศึกษาสูงสุดในระดับปริญญาตรี ประกอบอาชีพพนักงานบริษัทเอกชน มีรายได้เฉลี่ย 27,878 บาทต่อเดือน จากลักษณะการท่องเที่ยวของกลุ่มตัวอย่าง พบว่า มีการเดินทางมาจากกรุงเทพมหานครมากที่สุด เป็นการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวกับครอบครัว ค่าใช้จ่ายสำหรับการท่องเที่ยวเฉลี่ย 1,162 บาทต่อคนต่อวัน มีการรับรู้ข่าวสารการท่องเที่ยวจากการบอกต่อของคนรู้จัก และพบว่านักท่องเที่ยวร้อยละ 83.9 มีความต้องการกลับมาท่องเที่ยวตำบลแหลมผักเบี้ยอีก สำหรับผลการศึกษาศักยภาพการรับการท่องเที่ยว โดยการเรียงลำดับจากศักยภาพมากที่สุดไปหาศักยภาพน้อยที่สุด พบว่า สถานที่ท่องเที่ยวมีศักยภาพการรองรับระดับสูงมาก (x̅=4.28) รองลงมาด้านร้านอาหารมีศักยภาพระดับสูง (x̅=3.63) สำหรับด้านความปลอดภัย (x̅=3.43) ด้านสินค้าและของที่ระลึก (x̅=3.24) ด้านการเผยแพร่และการประชาสัมพันธ์ (x̅=3.07) ด้านที่พักแรม (x̅=3.00) และด้านการคมนาคม (x̅=3.00) มีศักยภาพระดับปานกลางเท่ากัน สามารถสรุปได้ว่า ตำบลแหลมผักเบี้ยมีศักยภาพการรองรับการท่องเที่ยวอยู่ในระดับปานกลาง (x̅=3.37) The study of land use change and tourism carrying capacity potential of Laem Pak Bia sub-district, Ban laem district, Phetchaburi province was as follows: 1) Maps Comparison of land use change by the aerial photograph and satellite data in 1954, 1976, 1995, 2009 and 2019, 2) To interview opinion from 118 random tourists sampling. The results from the studies of land use change in 1954 and 2019, most of them have still used the land for agricultural areas, which was salt farms as the most. There changed the settlement pattern especially the long straight line along the coastal road. The land was changed to hotel and homestay, the evidence shown in the year 1995 which represents an area of 64.48 rai. The results were in accordance with settlement pattern changes from tourism development to horizontal expansion due to there were agricultural areas and wilderness areas that can support the expansion of the community or the business service areas to support tourism in the near future. According to the population characteristics of the interviewees, 61.0% were female, the highest education level was the bachelor's degree, and occupations were workers in private companies. The average income was 27,878 baht per month. The nature of tourism of the sample group, it was found that the most came from Bangkok, they were traveling by private car with family. The trip average cost was 1,162 baht per person per day. It found that 83.9 percent of tourists wanted to return to the Laem Pak Bia district again. For the results of tourism carrying capacity potential which sorting from greatest to least potential, it was found that the tourist attractions had very high capacity (x̅=4.28), followed by restaurants with high potential (x̅=3.63), Safety (x̅=3.43), products and souvenirs (x̅=3.24), extension and public relations (x̅=3.07), accommodation (x̅=3.00) and transportation (x̅=3.00) were the same moderate potential. It can conclude that Laem Pak Bia Sub-district has a medium level of tourism capacity (x̅=3.37).

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. สำนักหอสมุด

Address: กรุงเทพมหานคร

Email: tdckulib@ku.ac.th

Name: อลงกรณ์ อินทรักษา

Role: อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์หลัก

Name: อรอนงค์ ผิวนิล

Role: อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ร่วม

Name: นพวรรณ เสมวิมล

Role: อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ร่วม

Created: 2563

Modified: 2568-07-12

Issued: 2568-07-12

วิทยานิพนธ์/Thesis

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

URL: https://www.lib.ku.ac.th/KUthesis/2563/kotchakorn-nam-all.pdf

CallNumber: HD890.55.Z9.P4 .ก12

tha

DegreeName: ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต

Level: ปริญญาเอก

Descipline: วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม

Grantor: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

©copyrights มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	kotchakorn-nam-all.pdf	5.7 MB

ใช้เวลา

0.038149 วินาที