การพัฒนาความสามารถในการคิดแก้ปัญหาและจิตนิสัยทางคณิตศาสตร์ โดยใช้กิจกรรมห้องเรียนกลับด้านร่วมกับกลวิธี เอส ที เอ อาร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

Development of problem-solving thinking ability and mathematical habit of mind using flipped classroom activities with STAR strategy for grade 7 students

Name: สันดุษิต เจ้ากลดี

ThaSH: คณิตศาสตร์ -- การศึกษาและการสอน (มัธยมศึกษา) -- เชียงใหม่

ThaSH: กิจกรรมการเรียนการสอน -- เชียงใหม่

ThaSH: ห้องเรียนกลับด้าน

Abstract: การค้นคว้าอิสระครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เปรียบเทียบความสามารถในการคิดแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ก่อนและหลังจัดกิจกรรมห้องเรียนกลับด้านร่วมกับกลวิธี ; เอส ที เอ อาร์ และ 2) ศึกษาจิตนิสัยทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ระหว่างและหลังจัดกิจกรรมห้องเรียนกลับด้านร่วมกับกลวิธี เอส ที เอ อาร์ กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567 โรงเรียนบ้านศรีบุญเรือง อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมห้องเรียนกลับด้านร่วมกับกลวิธี เอส ที เอ อาร์ จำนวน 8 แผน แผนละ 2 ชั่วโมง รวม 16 ชั่วโมง แบบทดสอบความสามารถในการคิดแก้ปัญหาทางณิตศาสตร์ และแบบวัดจิตนิสัยทางคณิตศาสตร์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และหาค่าคะแนนร้อยละพัฒนาการ ผลการศึกษาพบว่า 1) ความสามารถในการคิดแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนหลังจัดกิจกรรมห้องเรียนกลับด้านร่วมกับกลวิธี เอส ที เอ อาร์ สูงกว่าก่อนจัดกิจกรรม โดยมีคะแนนร้อยละพัฒนาการเท่ากับ 80.59 มีพัฒนาการอยู่ในระดับสูงมาก 2) จิตนิสัยทางคณิตศาสตร์ขอนักเรียนระหว่างจัดกิจกรรมห้องเรียนกลับด้านร่วมกับกลวิธี เอส ที เอ อาร์ โดยรวมมีแนวโน้มสูงขึ้นและหลังจัดกิจกรรม มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับดีเยี่ยม

Abstract: This study had two main objectives: 1) to compare the problem-solving ability for grade 7 students before and after organizing the flipped classroom activities with the STAR strategy and 2) study the mathematical habit of mind for grade 7 students during and after organizing the flipped classroom activities with the STAR strategy. The target group used in this study was for grade 7 students in the second semester of the 2024 academic year at Ban Sri Bunruang School, San Sai District, Chiang Mai Province, totaling 30 students. The instruments used in this study were 8 learning plans using the flipped classroom activities with the STAR strategy, 2 hours per plan, totaling 16 hours, a mathematical problem-solving abilities test, and a mathematical habit of mind test. Data were analyzed by finding percentages, means, standard deviations, and percentage development scores. The study findings were summarized as follows:1)The mathematical problem-solving ability of students after learning by using the flipped classroom activities with the STAR strategy was higher than before organizing the activity with a percentage of development score of 80.59, which was at a very high level of development. 2) The mathematical habit of mind for grade 7 students during the activities using the flipped classroom activity with the STAR strategy overall showed an upward trend and after organizing the activities, the average was at an excellent level.

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. สำนักหอสมุด

Address: เชียงใหม่

Email: cmulibref@cmu.ac.th

Name: สมเกียรติ อินทสิงห์

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Name: คะเณยะ อ่อนนาง

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Created: 2568

Modified: 2568-07-09

Issued: 2568-07-09

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

DegreeName: ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: หลักสูตรและการสอน

Grantor: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

©copyrights มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	660232054.pdf	2.38 MB	17	2025-10-16 20:30:23

ใช้เวลา

0.020989 วินาที