แจ้งเอกสารไม่ครบถ้วน, ไม่ตรงกับชื่อเรื่อง หรือมีข้อผิดพลาดเกี่ยวกับเอกสาร ติดต่อที่นี่ ==>
หากไม่มีอีเมลผู้รับให้กรอก thailis-noc@uni.net.th ติดต่อเจ้าหน้าที่เจ้าของเอกสาร กรณีเอกสารไม่ครบหรือไม่ตรง

ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจเข้าร่วมโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (T-VER) ขององค์กรในจังหวัดเชียงใหม่
Factors influencing the decision to participate in Thailand voluntary emission reduction program (T-VER) of organization in Chiang Mai

ThaSH: ก๊าซเรือนกระจก
ThaSH: การลดปริมาณก๊าซเรือนกระจก
ThaSH: การลดปริมาณก๊าซเรือนกระจก -- เชียงใหม่
Abstract: การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นหนึ่งในความท้าทาย ระดับโลกที่ส่งผลกระทบต่อความยั่งยืนในทุกมิติ ประเทศไทยจึงได้พัฒนาโครงการลดก๊าซเรือน กระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (T-VER) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 เพื่อเปิดโอกาสให้ ภาคธุรกิจมีส่วนร่วมในการลดการปล่อยคาร์บอน อย่างไรก็ตาม แม้จังหวัดเชียงใหม่จะมีศักยภาพสูง ทั้งในด้านเศรษฐกิจ ทรัพยากรธรรมชาติ และความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อม แต่ ณ เดือนตุลาคม พ.ศ. 2566 กลับพบว่ามีโครงการที่ขึ้นทะเบียนกับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) เพียง 20 โครงการ จากทั้งหมด 364 โครงการทั่วประเทศ สะท้อนให้เห็นถึงอัตราการเข้าร่วมที่อยู่ในระดับต่ำ อย่างมีนัยสำคัญ และชี้ให้เห็นถึงช่องว่างระหว่างศักยภาพในพื้นที่กับการมีส่วนร่วมจริงขององค์กรใน ระดับปฏิบัติ อันอาจเกิดจากข้อจำกัดบางประการที่ยังไม่ได้รับการคลี่คลายหรือทำความเข้าใจอย่าง ถ่องแท้ การเข้าร่วมโครงการ T-VER ไม่เพียงเป็นการสนับสนุนเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมของประเทศ เท่านั้น แต่ยังถือเป็นโอกาสเชิงกลยุทธ์ของภาคธุรกิจในการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อสังคม ตอบสนอง ความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เข้าถึงแหล่งเงินทุนสีเขียว และสร้างรายได้จากการซื้อ ขายคาร์บอนเครดิต อีกทั้งยังช่วยให้องค์กรสามารถเตรียมความพร้อมต่อแนวโน้มการกำกับดูแลด้าน สิ่งแวดล้อมในอนาคต และเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันในตลาดทั้งในประเทศและระดับ สากล ดังนั้น จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนในการศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจขององค์กรในจังหวัด เชียงใหม่ เพื่อให้เข้าใจถึงโอกาส อุปสรรค และกลไกการมีส่วนร่วมอย่างรอบด้าน และนำไปสู่การออกแบบนโยบายที่เฉพาะเจาะจงและเหมาะสมกับบริบทของพื้นที่ อันจะช่วย ยกระดับการเข้าร่วมโครงการ T-VER และสนับสนุนเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศได้อย่างยั่งยืน การศึกษาในครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจเข้าร่วมโครงการ T-VER รวมถึงโอกาสและอุปสรรคขององค์กรในจังหวัดเชียงใหม่ โดยเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง จานวน 17 องค์กร แบ่งเป็นกลุ่มที่เข้าร่วมโครงการทุกองค์กรในพื้นที่จำนวน 12 องค์กร และกลุ่ม ตัวอย่างที่รู้จักโครงการแต่ยังไม่เข้าร่วมจำนวน 5 องค์กร ในช่วงเดือนเมษายน ถึง ตุลาคม 2567 และ เนื่องจากจานวนองค์กรมีค่อนข้างจากัด จึงเลือกใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบผสมผสาน (Mixed Methods) ภายใต้รูปแบบการเก็บข้อมูลเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพในช่วงเวลาเดียวกัน (Concurrent Design) เพื่อ เสริมความน่าเชื่อถือของผลการวิเคราะห์ผ่านการตรวจสอบข้อมูลจากหลายแหล่ง (Data Triangulation) การวิเคราะห์เชิงปริมาณใช้แบบจาลอง Random Forest เพื่อจัดลำดับความสำคัญของ ตัวแปร และแบบจำลอง Ridge Regression เพื่อวิเคราะห์ทิศทางของผลกระทบจากตัวแปรควบคู่กับ การวิเคราะห์เชิงคุณภาพด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึก และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) ตาม กรอบ 4M (Man, Machine, Material, Management) และ SWOT เพื่อสะท้อนปัจจัยภายในและ ภายนอกที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการ ผลการศึกษาเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพในครั้งนี้มีความสอดคล้องและส่งเสริมกันอย่างมี นัยสำคัญ โดยแบบจำลอง Random Forest พบว่าปัจจัยที่มีความสำคัญมากที่สุดในการจำแนกองค์กรที่ เข้าร่วมหรือไม่เข้าร่วม ได้แก่ การสร้างรายได้จากคาร์บอนเครดิต สิทธิประโยชน์ทางภาษี และ นโยบายของภาครัฐที่ชัดเจน สะท้อนให้เห็นว่าแรงจูงใจทางเศรษฐกิจเป็นแรงขับเคลื่อนสาคัญในการ ตัดสินใจ ส่วนแบบจำลอง Ridge Regression ซึ่งแสดงให้เห็นทิศทางของความสัมพันธ์ พบว่าปัจจัย ด้านนโยบายการประเมิน Carbon Footprint และการได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีมีผลเชิงบวกต่อการ ตัดสินใจเข้าร่วม ในขณะที่ปัจจัยที่มีผลเชิงลบ ได้แก่ ความซับซ้อนของขั้นตอนการรับรอง การ ตอบสนองตลาดผู้บริโภคสีเขียว และแรงจูงใจด้านภาพลักษณ์องค์กร สะท้อนถึง อุปสรรคเชิง กระบวนการและการสื่อสาร ที่ยังเป็นข้อจำกัดในการตัดสินใจขององค์กรบางแห่ง เมื่อพิจารณา ร่วมกับการวิเคราะห์เชิงคุณภาพตามกรอบ 4M และ SWOT พบว่า องค์กรที่เข้าร่วมโครงการ T-VER มีจุดแข็งด้านภาวะผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ ความพร้อมของระบบเทคโนโลยี และการได้รับการสนับสนุน จากภาครัฐอย่างเป็นรูปธรรม ในทางกลับกัน องค์กรที่ยังไม่เข้าร่วมยังขาดความเข้าใจในกระบวนการ ขาดบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และยังมีความไม่มั่นใจต่อผลตอบแทนทางเศรษฐกิจจาก การเข้าร่วมโครงการอย่างชัดเจน ทั้งนี้ การบูรณาการผลจากทั้งสองแนวทางเสริมความเข้าใจถึงกลไกการตัดสินใจขององค์กรได้อย่างรอบด้าน และสามารถสะท้อนถึงแนวทางสนับสนุนเชิงนโยบายได้ อย่างเป็นรูปธรรม ข้อเสนอเชิงนโยบายที่สาคัญ ได้แก่ การออกแบบแรงจูงใจทางภาษีให้เข้าถึงง่ายและคุ้มค่า การ จัดตั้งกองทุนสนับสนุนการพัฒนาโครงการโดยเฉพาะ SME เพื่อช่วยลดต้นทุนเริ่มต้นและอานวย ความสะดวกด้านการเงิน การพัฒนา One-Stop Service เพื่อช่วยลดความยุ่งยากในกระบวนการ การ ปรับปรุงมาตรฐาน MRV (Measurement, Reporting and Verification) ให้มีความยืดหยุ่น เข้าใจง่าย และเหมาะสมกับบริบทของแต่ละธุรกิจ รวมถึงการสื่อสารเชิงรุกเพื่อสร้างความเชื่อมั่น หากสามารถ ผลักดันมาตรการเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยเพิ่มการเข้าร่วมโครงการ T-VER และ สนับสนุนเป้าหมาย Carbon Neutrality ของประเทศได้อย่างยั่งยืน
Abstract: Climate change driven by greenhouse gas emissions is one of the most pressing global challenges impacting sustainability across all dimensions. In response, Thailand has initiated the Thailand Voluntary Emission Reduction Program (T-VER) since 2014, aiming to encourage private sector participation in carbon mitigation efforts. However, despite Chiang Mai Province possessing significant potential in terms of economic strength, natural resources, and environmental awareness, as of October 2023, only 20 out of 364 registered T-VER projects nationwide are located in Chiang Mai. This low participation rate is particularly concerning and reveals a critical gap between the province’s potential and actual engagement. It also suggests the presence of unresolved constraints or a lack of comprehensive understanding of project implementation among local organizations. Participation in the T-VER program is not only a contribution to national climate goals, but also a strategic opportunity for businesses. It can enhance organizational image, attract environmentally conscious consumers, improve access to green financing, and create new revenue streams through carbon credit trading. Additionally, involvement in T-VER can help businesses anticipate future regulatory trends and strengthen their long-term competitiveness in both domestic and international markets. Therefore, this research is urgently needed to investigate the key factors influencing organizational decision-making regarding T-VER participation in Chiang Mai. By identifying both opportunities and obstacles through a contextual lens, the study aims to inform the design of targeted, evidence-based policies that can enhance participation, strengthen local engagement, and support the country’s broader goal of achieving carbon neutrality in a sustainable manner. A mixed-methods approach was employed to enhance analytical validity through data triangulation. A total of 17 organizations were surveyed between April and October 2024, including all 12 organizations in Chiang Mai that had joined T-VER and 5 additional organizations familiar with the program but not yet participating. Quantitative data were analyzed using Random Forest to rank variable importance and Ridge Regression to examine the direction of influence. In parallel, qualitative data from in-depth interviews were analyzed using content analysis frameworks including 4M (Man, Machine, Material, Management) and SWOT to capture both internal and external organizational dynamics. Findings from both methods were strongly aligned and mutually reinforcing. Random Forest identified the most influential factors as potential revenue from carbon credits, favorable tax incentives, and clear government policy - highlighting the central role of economic motivation. Ridge Regression further confirmed the positive effect of national carbon footprint policy and tax benefits, while also revealing negative influences from procedural complexity, green consumer pressures, and image-driven motivations. These reflect persistent structural and communicative barriers for some organizations. Qualitative results reinforced these findings: participating organizations exhibited strong leadership, technological readiness, and received practical government support, whereas nonparticipating organizations lacked procedural understanding, skilled personnel, and confidence in the economic return. Integrating both analytical strands provided a comprehensive understanding of organizational decision-making mechanisms and actionable insights for policy intervention. Key policy recommendations include: designing more accessible and appealing tax incentives ; establishing dedicated financial support funds, particularly for SMEs ; developing streamlined one-stop services to reduce procedural burdens ; and enhancing the MRV (Measurement, Reporting, and Verification) system to be more flexible and sector-specific. Improved public communication and targeted outreach are also essential for building trust. If implemented effectively, these measures could significantly expand participation in T-VER and accelerate Thailand’s progress toward its national Carbon Neutrality goals.
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. สำนักหอสมุด
Address: เชียงใหม่
Email: cmulibref@cmu.ac.th
Role: อาจารย์ที่ปรึกษา
Role: อาจารย์ที่ปรึกษา
Created: 2568
Modified: 2568-07-08
Issued: 2568-07-08
วิทยานิพนธ์/Thesis
application/pdf
tha
©copyrights มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
RightsAccess:
ลำดับที่.ชื่อแฟ้มข้อมูล ขนาดแฟ้มข้อมูลจำนวนเข้าถึง วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1 651632012.pdf 2.59 MB11 2025-10-21 16:50:38
ใช้เวลา
0.020491 วินาที

วรวรรธ ทรายใจ
Title Creator Type and Date Create
การตรวจสอบสมมติฐานเส้นโค้งสิ่งแวดล้อมของคุซเน็ตส์: หลักฐานเชิงประจักษ์จากการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ราคาน้ำมันโลก ผลิตภาพปัจจัยการผลิตโดยรวม การวิจัยและพัฒนา และดุลการค้าระหว่างประเทศ ในสหรัฐอเมริกา
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
วรวรรธ ทรายใจ ;ณพล หงสกุลวสุ
นันท์ณภัส ถาวงค์
วิทยานิพนธ์/Thesis
การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างความผันผวนของผลตอบแทนการลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ พันธบัตร และดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในช่วงสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ณพล หงสกุวสุ;วรวรรธ ทรายใจ
สุนิสาห์ ไพรมีค่า
วิทยานิพนธ์/Thesis
ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจเข้าร่วมโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (T-VER) ขององค์กรในจังหวัดเชียงใหม่
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
วรวรรธ ทรายใจ;ณพล หงสกุลวสุ
พิริยา ไหว้พรหม
วิทยานิพนธ์/Thesis
ณพล หงสกุลวสุ
Title Creator Type and Date Create
พฤติกรรมการใช้จ่ายของนักวิ่ง และปัจจัยที่ทำให้นักวิ่งกลับมาวิ่งซ้ำใน
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
กันตพร ช่วงชิด;ณพล หงสกุลวสุ;กาญจนา โชคถาวร;ณฉัตร์ชพงษ์ แก้วสมพงษ์
ตะวันฉาย พิภพพรพงศ์
วิทยานิพนธ์/Thesis
ปัจจัยที่ส่งผลต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ภาคธุรกิจอุตสาหกรรมในประเทศไทย
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
กฤตวิทย์ อัจฉริยะพานิชกุล;ณพล หงสกุลวสุ;นิสิต พันธมิตร
อสมา เหลี่ยมมุกดา
วิทยานิพนธ์/Thesis
การตรวจสอบสมมติฐานเส้นโค้งสิ่งแวดล้อมของคุซเน็ตส์: หลักฐานเชิงประจักษ์จากการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ราคาน้ำมันโลก ผลิตภาพปัจจัยการผลิตโดยรวม การวิจัยและพัฒนา และดุลการค้าระหว่างประเทศ ในสหรัฐอเมริกา
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
วรวรรธ ทรายใจ ;ณพล หงสกุลวสุ
นันท์ณภัส ถาวงค์
วิทยานิพนธ์/Thesis
การวิเคราะห์คุณสมบัติที่ปลอดภัยสำหรับสกุลเงินดิจิทัลกรณีทดสอบภายใต้ความไม่แน่นอนของนโยบายสกุลเงินดิจิทัล
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ณพล หงสกุลวสุ;วรพล มะยะกะ
กัญญา วัฒนกูล
วิทยานิพนธ์/Thesis
ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจเข้าร่วมโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (T-VER) ขององค์กรในจังหวัดเชียงใหม่
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
วรวรรธ ทรายใจ;ณพล หงสกุลวสุ
พิริยา ไหว้พรหม
วิทยานิพนธ์/Thesis
การตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นตามกระแสของนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
กาญจนา โชคถาวร;ณพล หงสกุลวสุ
ถาวรีย์ ด้วงอินทร์
วิทยานิพนธ์/Thesis
การจัดกลุ่มสินทรัพย์และคริปโทเคอร์เรนซีโดยการประยุกต์ใช้ขั้นตอนเชิงพันธุกรรมแบบหลายวัตถุประสงค์
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
กาญจนา โชคถาวร;ณพล หงสกุลวสุ
อดิศร พรมแก้วงาม
วิทยานิพนธ์/Thesis
Copyright 2000 - 2025 ThaiLIS Digital Collection Working Group. All rights reserved.
ThaiLIS is Thailand Library Integrated System
สนับสนุนโดย สำนักงานบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อพัฒนาการศึกษา
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
328 ถ.ศรีอยุธยา แขวง ทุ่งพญาไท เขต ราชเทวี กรุงเทพ 10400 โทร. โทร. 02-232-4000
กำลัง ออน์ไลน์
ภายในเครือข่าย ThaiLIS จำนวน 0
ภายนอกเครือข่าย ThaiLIS จำนวน 1,806
รวม 1,806 คน

More info..
นอก ThaiLIS = 21,430 ครั้ง
มหาวิทยาลัยสังกัดทบวงเดิม = 35 ครั้ง
มหาวิทยาลัยราชภัฏ = 12 ครั้ง
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล = 2 ครั้ง
รวม 21,479 ครั้ง
Database server :
Version 2.5 Last update 1-06-2018
Power By SUSE PHP MySQL IndexData Mambo Bootstrap
มีปัญหาในการใช้งานติดต่อผ่านระบบ UniNetHelp


Server : 8.199.134
Client : Not ThaiLIS Member
From IP : 216.73.216.28