Relational art between a group of students from The Visual Art Division, Faculty of Arts and Architecture of Rajamangala University of Technology Lanna and the Moh Loung, Houy King and Hang Hung Communities in Mae Moh District, Lampang Province

ศิลปะเชิงสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มนักศึกษาสาขาทัศนศิลป์ คณะศิลปกรรมและสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนากับชุมชน เมาะหลวง ชุมชนห้วยคิง และชุมชนหางสูงในตำบลแม่เมาะ อำเภอเเม่เมาะ จังหวัดลำปาง

Name: Sirirunya Na Chiangmai

LCSH: Relational art -- Mae Moh (Lampang)

LCSH: Art, Modern -- 21st century

Abstract: The creation of this Relational Art work is a part of a Thesis Doctorate of Fine Art. The objective is to present my ability to organize activities together with a group of students and communities, in order for society to know and understand about ways to create spiritual values for communities in Mae Moh District and a group of students who performed creative activities together, as well as to gather knowledge on creative art that can serve as a model for participation with communities. The concept is to focus on the interactions between a group of students from a Thai higher education institute with problematic issues who are seen in a negative light by presenting the individual abilities of these students using Relational Art as a directive and the communities in Mae Moh District, Lampang Province that also have to deal with problematic issues by presenting collaborative creative activities in a work of Installation Art that includes Video Art, and Documentary. This collaboration with communities resulted in a better understanding of the abilities of this group of students who are usually seen in a negative light. They created works of art that are genuinely useful for the communities, using participation as their main working strategy as well as teaching art to educate and develop the skills of the people within these communities. These skills can be applied by the people in the communities in order to develop their own way of life appropriately. Some examples of collaborative activities are product design, elephant fabric creation, teaching Thai Dance and Mural Painting. During the whole period of work, people in the communities have tried to apply this knowledge to their own life. Another result is that through collaboration with this group of students, the people in the communities admired the abilities and dedication of this group of students as well as their attempt to interact with the people in the communities, which is in contrast with the students' outward appearances. As a result, some people in the communities gave them free food and lodgings and fully cooperated in the activities to make these a success. The final and important result of collaboration with the community is that the attitude of this group of students towards collaboration with communities changed for the better. The work they did was delicate and some pieces may even be developed into community products. Furthermore some young people from the communities want to develop their artic skill for community development. These results are caused by the sincere intentions of this group of students working together with the communities so that a bond was formed with spiritual benefits for both groups. These were inspiring experiences for both the group of students and the communities. The Art Thesis Exhibition focused on the communication of art by presenting the relation that was formed through the activities performed by the students and the people from the communities as an inspiration to create an area of communication. This area of communication is like a space of memories. This space was created through my imagination, my memories and my emotions. The reactions of the audience on the Art Thesis Exhibition were found to be positive. Many people from the audience wanted to follow up or had some advice for developing or improving the work of art. This indicates that the work has had an impact on the audience. Although there were some negative responses, these were largely outnumbered by the positive, indicating that the audience accepted and learned from this work. Finally, seeing people accepting and being open-minded about this work became an inspiration for both me and other people in the world of art. Therefore it can be said that the result of this Art Thesis Exhibition, in addition to being an area of art communication, is like a bridge that connects the spiritual values of the viewers.

Abstract: การสร้างสรรค์ผลงานศิลปะตามแนวทางศิลปะเชิงสัมพันธ์ (Relational Art) คือส่วนหนึ่งของ การศึกษางานวิทยานิพนธ์ฉบับนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอความสามารถของตนเองในการจัด กิจกรรมร่วมกับนักศึกษาและชุมชนให้คนในสังคมได้รู้และเข้าใจในวิธีการสร้างคุณค่าในเชิงจิตใจ ให้กับชุมชนในตำบลแม่เมาะกับกลุ่มนักศึกษาได้ทำกิจกรรมสร้างสรรค์ศิลปะร่วมกัน และรวบรวบ องค์ความรู้ด้านศิลปะประเภทงานสร้างสรรค์ให้เป็นแบบอย่างการทำงานแบบบมีส่วนร่วมกับชุมชน ให้เกิดประโยชน์กับชุมชนอย่างแท้จริง โดยมีแนวความคิดถึงการมุ่งการทำงานศิลปะที่ถ่ายทอด ประเด็นความสัมพันธ์ทางสังคม ของกลุ่มนักศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาไทยที่มีปัญหาถูกมองในเชิง ลบ นำเสนอเรื่องราวความสามารถเฉพาะตนของนักศึกษากลุ่มนี้ กับชุมชนที่มีปีปัญหาในตำบลแม่เมาะ อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง โดยนำกิจกรรมที่สร้างสรรค์ร่วมกันมาแสดงเป็นศิลปะจัดวาง (Installation Art)ในแนวงานศิลปะเชิงพันธ์ (Relational Art) ซึ่งประกอบด้วยผลงานแสดงวิดีโอ อาร์ต (Video Art) วีดีโอสารคดี (Documentary) ผลจากการทำงานร่วมกันกับชุมชน ทำให้ได้เข้าใจและทราบถึงความสามารถเฉพาะตนที่มี ของนักศึกษาที่มีปัญหาถูกมองในเชิงลบนั้นสามารถทำให้เกิดผลงานศิลปะเป็นประ โยชน์ได้จริงกับ ชุมชน โดยใช้วิธีการการทำงานแบบมีส่วนร่วมกับชุมชน รวมถึงการสอนศิลปะให้ความรู้แก่ชุมชนที่ นำไปสู่การพัฒนาทักษะทางด้านศิลปะของคนในชุมชน ให้ชุมชนสามารถนำความรู้ที่ได้รับไป ประยุกต์ใช้กับการพัฒนาวิถีชีวิตของตนเองได้อย่างเหมาะสม เช่นการสอนท่ารำนกกิ่งกะหร่า การ ออกแบบผลิตภัณฑ์ให้กับชุมชน การทำกิจกรรมช้างช้างผ้าร่วมกับคนในชุมชน การสอนเทคนิควาดภาพ จิตรกรรมฝ่าผนังร่วมกับชุมชน ในช่วงตลอดระยะเวลาการทำงานร่วมกันนั้น คนในชุมชนได้แสดงให้ เห็นถึงความพยายามที่ต้องการจะนำความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ได้จริงกับคนในชุมชน ผลที่ตามมาอีก ประการหนึ่งคือเมื่อคนในชุมชนได้ทำงานร่วมกันกับกลุ่มนักศึกษานั้น พบว่าคนในชุมชนหลายคน ต่างมีความชื้นชม ในความสามารถและความเอาใจใส่ในการทำงานศิลปะรวมถึงการพยายามเข้าหา คนในชุมชนของนักศึกษากลุ่มนี้ ซึ่งมีความแตกต่างจากบุคลิกภายนอกอย่างสิ้นเชิง ส่งผลให้คนใน ชุมชนบางคนพาไปส่งซื้อกับข้าวดูแลข้าวปลาอาหาร ให้ที่พักอาศัยโดยไม่คิดค่าตอบแทนใดๆ อีกทั้ง ยังได้รับความร่วมมือจากคนในชุมชนให้การทำกิจกรรมสำเร็จลล่วงไปด้วยดี ผลจากการทำงทำงาน ร่วมกันกับชุมชนประการสุดท้ายและเป็นส่วนที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ นักศึกษากลุ่มนี้มีนี้มีทัศนคติ ต่อการทำงานร่วมกับชุมชนเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ผลงานที่ทำงานร่วมกับชุมชุนมีความ ละเอียดสวยงาม ในผลงานบางชิ้นอาจสามารถพัฒนาสู่การเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนได้ หรือเยาวชนใน ชุมชนต้องการฝึกฝนทักษะทางศิลปะเพื่อพัฒนาชุมชนต่อไป สิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้คือผลที่เกิดจากความ ตั้งใจจริงของนักศึกษากลุ่มนี้ที่ทำงานร่วมกันกับชุมชน จนเกิดเป็นความผูกพัน และสิ่งที่เป็น ออกแบบผลิตภัณฑ์ให้กับชุมชน การทำกิจกรรมช้างช้างผ้าร่วมกับคนในชุมชน การสอนเทคนิควาดภาพ จิตรกรรมฝ่าผนังร่วมกับชุมชน ในช่วงตลอดระยะเวลาการทำงานร่วมกันนั้น คนในชุมชนได้แสดงให้ เห็นถึงความพยายามที่ต้องการจะนำความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ได้จริงกับคนในชุมชน ผลที่ตามมาอีก ประการหนึ่งคือเมื่อคนในชุมชนได้ทำงานร่วมกันกับกลุ่มนักศึกษานั้น พบว่าคนในชุมชนหลายคน ต่างมีความชื้นชม ในความสามารถและความเอาใจใส่ในการทำงานศิลปะรวมถึงการพยายามเข้าหา คนในชุมชนของนักศึกษากลุ่มนี้ ซึ่งมีความแตกต่างจากบุคลิกภายนอกอย่างสิ้นเชิง ส่งผลให้คนใน ชุมชนบางคนพาไปส่งซื้อกับข้าวดูแลข้าวปลาอาหาร ให้ที่พักอาศัยโดยไม่คิดค่าตอบแทนใดๆ อีกทั้ง ยังได้รับความร่วมมือจากคนในชุมชนให้การทำกิจกรรมสำเร็จลล่วงไปด้วยดี ผลจากการทำงทำงาน ร่วมกันกับชุมชนประการสุดท้ายและเป็นส่วนที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ นักศึกษากลุ่มนี้มีนี้มีทัศนคติ ต่อการทำงานร่วมกับชุมชนเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ผลงานที่ทำงานร่วมกับชุมชุนมีความ ละเอียดสวยงาม ในผลงานบางชิ้นอาจสามารถพัฒนาสู่การเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนได้ หรือเยาวชนใน ชุมชนต้องการฝึกฝนทักษะทางศิลปะเพื่อพัฒนาชุมชนต่อไป สิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้คือผลที่เกิดจากความ ตั้งใจจริงของนักศึกษากลุ่มนี้ที่ทำงานร่วมกันกับชุมชน จนเกิดเป็นความผูกพัน และสิ่งที่เป็น ประโยชน์มีคุณค่าทางจิตใจ เกิดเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กันและกันระหว่างนักศึกษากลุ่มนี้กับ คนในชุมชนอย่างแท้จริง ในส่วนของการจัดแสดงนิทรรศการศิลปะดุษฎีนิพนธ์จะมุ่งนำเสนอในประเด็นของ การเป็น พื้นที่สื่อสารทางศิลปะ โดยล่าเรื่องความสัมพันธ์กับกิจกรรมที่เกิดขึ้นระหว่างนักศึกษาและคนใน ชุมชนที่จัดขึ้นโดยตนเอง จนเกิดเป็นแรงบันดาลใจต่อการสร้างพื้นที่สื่อสารนี้ให้กับผู้ชม และในพื้นที่ สื่อสารที่เกิดขึ้นจึงเปรียบเสมือนเป็นพื้นที่แห่งความทรงจำของตนเองที่มีต่อตำบลแลแม่เมาะ อำเภอแม่ เมาะ จังหวัดลำปาง ได้สร้างสรรค์ขึ้นมาถ่ายทอดผ่านจินตนาการจากความทรงจำและความรู้สึกของ ตนเอง และผลจากการจัดแสดงผลงานทำให้พบว่าผู้ชมมีการแสดงทัศนคติเป็นไปในทางบวกเช่น ต้องการติดตามผลงานต่อไป และได้มีการให้คำแนะนำเพิ่มเติมเพื่อให้สามารถนำไปพัฒนาหรือ ปรับปรุงกับผลงานที่นำเสนอได้ แสดงให้เห็นว่าผลงานที่นำเสนอมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทัศนคติ ของผู้ชม เป็นการมองเห็นคุณค่าในเชิงประจักษ์ผล ถึงแม้ว่าจะมีทัศนคติการแสดงความคิดเห็นในเชิง ลบอยู่บ้างแต่เมื่อเทียบกับผลเชิงบวกนั้นมีมากกว่า ซึ่งทำให้เห็นว่าผู้ชมยอมรับและเปิดใจที่จะเรียนรู้ ความเป็นไปของผลงาน และประการสุดท้ายคือเมื่อผู้ชมยอมรับและเปิดใจแล้วยังกลายเป็นแรง บันดาลใจต่อทั้งตนเองและผู้อื่นในการทำงานศิลปะต่อไปด้วย ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าผลการจัด แสดงนิทรรศการศิลปะที่เกิดขึ้น นอกจากจะเป็นพื้นที่ของการสื่อสารทางศิลปะแล้ว ยังสามารถเป็น สะพานเชื่อมโยงไปถึงการรับรู้คุณค่าทางจิตใจให้กับผู้ชมอีกทางหนึ่งด้วยเช่นเดียวกัน ผลการทำงานที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้กลายเป็นแบบอย่างทางศิลปะในรูปแบบหนึ่งที่ทำให้เกิดการ เปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ทางสังคม เกิดคุณค่าทางจิตใจทั้งต่อตนเองและผู้อื่น สามารถทำให้ ประเด็นทางสังคมในเชิงลบให้กลายเป็นเชิงบวกได้เป็นการทำความเข้าใจในเรื่องของการรู้จักการให้ โอกาสคนได้แสดงศักยภาพที่คืออกมาอย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องคำนึงถึงการแบ่งแยก สิ่งที่เป็น แบบจำลองทางสังคมในแนวทางศิลปะเชิงสัมพันธ์นี้จึงเป็นแบบจำลองที่อาจนับได้ว่าเป็นแบบอย่าง หนึ่งของการให้คุณค่าของความเป็นมนุษย์

Chiang Mai University. Library

Address: CHIANG MAI

Email: cmulibref@cmu.ac.th

Name: Jan Theo De Vleeschauwer

Role: Advisor

Name: Pongdej Chaiyakut

Role: Advisor

Name: Tragoonphan Patcharametha

Role: Advisor

Created: 2024

Modified: 2025-04-03

Issued: 2025-02-04

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

eng

DegreeName: Doctor of Fine Arts

Level: Doctoral Degree

Descipline: Arts and Design

Grantor: Chiang Mai University

©copyrights Chiang Mai University

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	570352009.pdf	10.52 MB	1	2025-06-09 10:47:41

ใช้เวลา

0.0214 วินาที