การวิเคราะห์ความเสียหายของเพลาข้อเหวี่ยงในรถปิกอัพ

Failure analysis of a crankshaft in the pickup car

Name: เสกสรรค์ กลิ่นจันทร์

Organization : มหาวิทยาลัยธนบุรี. คณะวิศวกรรมศาสตร์

Email : seksun02313@gmail.com

Name: สุรศักดิ์ กสิกัลปพฤกษ์

Organization : มหาวิทยาลัยธนบุรี. คณะวิศวกรรมศาสตร์

Name: อภิศักดิ์ วุฒิเศลา

Organization : มหาวิทยาลัยธนบุรี. คณะวิศวกรรมศาสตร์

Name: สุรศักดิ์ บุญเกลี้ยง

Organization : มหาวิทยาลัยธนบุรี. คณะวิศวกรรมศาสตร์

Name: ธนกร ไกรษรวงค์

Organization : มหาวิทยาลัยธนบุรี. คณะวิศวกรรมศาสตร์

keyword: ความเสียหาย

ThaSH: รถกระบะ -- แกนเพลา -- ความล้า

Abstract: งานวิจัยนี้เป็นการศึกษาถึงสาเหตุความเสียหาย ของเพลาข้อเหวี่ยงในรถปิกอัพที่มีกำลังขับ 120 Hp. มีการใช้งานมา 15 ปี ภายใต้การบำรุงรักษาที่ถูกต้อง เพลาทำมาจากเหล็กกล้าผสมต่ำที่ผ่านการชุบแข็ง JIS- S55C การวิเคราะห์ความเสียหายของเพลาข้อเหวี่ยงมีหลายวิธีคือ 1) การตรวจสอบส่วนผสมทางเคมี 2) การทดสอบความแข็ง 3) การตรวจสอบด้วยกล้องจุลทรรศนแบบแสง (OM) 4) การตรวจสอบด้วยกล้อง จุลทรรศน์ อิเล็กตรอนแบบส่องกราด(SEM) ผลสรุปของพื้นผิวการแตกหักของเพลานี้เกิดจากความล้า โดยเริ่มต้นเกิดขึ้นจากบริเวณที่อ่อนแรง ทำให้เกิดความเค้นสูงจนทำให้เกิดการแตกร้าว และขยายบริเวณ รอยแตกเข้าด้านใน จนเกิดการแตกหักในขั้นสุดท้าย ซึ่งสอดคล้องกับการตรวจพบรอยแตก และเส้นริ้ว จากการล้า fatigue striations ผลลัพธ์เหล่านี้บ่งชี้ว่า โหมดการแตกหักที่ผิวของเพลาข้อเหวี่ยงนั้น เป็นการแตกหักแบบเปราะ โครงสร้างจุลภาคบริเวณผิวของเพลามีส่วนประกอบของเทมเปอร์มาร์เทนไซต์ และแกนกลางเพลา มีส่วนประกอบของเบนต์ไนต์ช่วงบน ค่าความแข็งสูงสุดที่วัดได้อยู่ตรงตำแหน่งใกล้ผิว โดยมีค่าเท่ากับ 40 HRC และค่าความแข็งต่ำสุดที่บริเวณใจกลางของเพลาเท่ากับ 18 HRC ทั้งนี้ ผลของการศึกษาจะสามารถระบุกลไกความเสียหายที่เกิดขึ้นพร้อมเป็นข้อมูลสำหรับการหาวิธีป้องกัน มิให้เกิดเหตุความเสียหายของเพลาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

Abstract: This research is to study the cause of failure of the crank shaft in a pickup car with a power output of 120 Hp that has been in use for 15 years under proper maintenance. The crank shaft is made from JIS-S55C hardened low-alloyed steel. It has been determined in many ways on the failure analysis of this crank shaft i.e. 1) Composition (wt%) analysis with a spectrometer, 2) Vickers test, 3) Microstructural analysis with optical microscope, which the crack of surface layer using a scanning electron microscope. The summary result of fracture surface of this crank shaft was cause by fatigue, where the initial crack occurs from the weakened region causing high stresses to cause cracking and extending the inward crack area of the crank shaft until a final fracture occurred consistent with the detection of beach marks, ratchet marks, river marks and fatigue striations which these results indicate that the fracture mode of the outer surface is brittle fracture. The microstructure of the outer surface region is tempered martensite and the central region is an upper bainite. The maximum hardness of approximately 40 HRC occurred near the surface and the minimum hardness is 18 HRC near the center of the crank shaft. The results of the study will be able to identify the damage mechanisms that occur and provide information for ways to prevent future shaft fracture

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ. สำนักหอสมุดกลาง

Address: กรุงเทพมหานคร

Email: library@kmutnb.ac.th

Created: 2565

Modified: 2567-06-24

Issued: 2567-06-24

บทความ/Article

application/pdf

BibliograpyCitation : ใน วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม. คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี. การประชุมวิชาการระดับชาติ ครั้งที่ 8 : เชื่อมต่อเทคโนโลยีในวิถีชีวิตใหม่ (TECHCON 2022) (OENG-255-265). กรุงเทพฯ : วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม

tha

©copyrights มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	TECHCON 2022OENG-255-265.pdf	2.81 MB

ใช้เวลา

0.025736 วินาที