Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลเฉียบพลันของการยืดกล้ามเนื้อแบบอยู่กับที่ แบบเคลื่อนที่ และแบบกระตุ้นการรับรู้ระบบประสาทกล้ามเนื้อ ที่มีต่ออาการเจ็บระบมกล้ามเนื้อ ในกลุ่มตัวอย่างที่มีอาการเจ็บระบมกล้ามเนื้อจากการเล่นแบดมินตันกลุ่มตัวอย่าง เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 3 และ 4 มีอายุระหว่างอายุ 20-22 ปี สาขาวิชา วิทยาศาสตร์การกีฬา สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตอุดรธานีจำนวน 30 คน ได้มาโดยวิธีการคัดเลือกแบบเฉพาะเจาะจง แบ่งกลุ่มตัวอย่าง ออกเป็น 3 กลุ่ม โดยกลุ่มที่ 1 ได้รับการยืดกล้ามเนื้อแบบอยู่กับที่กลุ่มที่ 2 ได้รับการยืดกล้ามเนื้อ แบบเคลื่อนที่ และกลุ่มที่ 3 ได้รับการยืดกล้ามเนื้อแบบกระตุ้นการรับรู้ระบบประสาทกล้ามเนื้อ ตามโปรแกรมที่กำหนดให้ทำการวัดอาการเจ็บระบมกล้ามเนื้อแบบกด (PPT) และเจาะเลือดหาค่าเอนไซม์ ครีเอตินฟอสโฟไคเนส (CPK) ก่อนและหลังการทดลอง ทำการวิเคราะห์ผลโดยใช้สถิติ One Way Analysis of Variance (ANOVA) เพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างของอาการเจ็บระบมกล้ามเนื้อแบบกด (PPT) และค่าเอนไซม์ครีเอตินฟอสโฟไคเนส (CPK) ระหว่างกลุ่ม และใช้สถิติ paired t-test เปรียบเทียบความแตกต่างภายในกลุ่ม ผลการวิจัยพบว่า อาการเจ็บระบมกล้ามเนื้อแบบกด (PPT) และค่าเอนไซม์ครีเอตินฟอสโฟไคเนส (CPK) ทั้งก่อนและหลังการทดลองของการยืดกล้ามเนื้อทั้ง 3 แบบ ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และเมื่อเปรียบเทียบความแตกต่างภายในกลุ่มของอาการเจ็บระบมกล้ามเนื้อแบบกด (PPT) และค่าเอนไซม์ครีเอตินฟอสโฟไคเนส (CPK) ทั้งก่อนและหลังการทดลองของการยืดกล้ามเนื้อทั้ง 3 แบบ ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ยกเว้นค่าเอนไซม์ครีเอตินฟอสโฟไคเนส (CPK) ก่อนและหลังการยืดกล้ามเนื้อแบบกระตุ้นระบบประสาทกล้ามเนื้อ (PNF) มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยมีค่าเฉลี่ยของการวัดอาการเจ็บระบมกล้ามเนื้อแบบกด (PPT) ลดลงทั้ง 3 กลุ่มการทดลอง และค่าเอนไซม์ครีเอตินฟอสโฟไคเนส (CPK) มีค่าเฉลี่ยลดลงในกลุ่มการยืดกล้ามเนื้อแบบอยู่กับที่ และแบบเคลื่อนที่ ส่วนค่าเฉลี่ยของกลุ่มการยืดกล้ามเนื้อแบบกระตุ้นระบบประสาทกล้ามเนื้อ (PNF) มีค่าเพิ่มขึ้น จึงสรุปได้ว่าการยืดกล้ามเนื้อแบบอยู่กับที่และเคลื่อนที่ไม่มีผลทำให้อาการเจ็บระบมกล้ามเนื้อลดลง แต่มีแนวโน้มที่อาจจะทำให้อาการเจ็บระบมกล้ามเนื้อแบบเฉียบพลันทุเลาลงได้ ส่วนการยืดกล้ามเนื้อแบบกระตุ้นระบบประสาทกล้ามเนื้อ (PNF) ทำให้อาการเจ็บระบมกล้ามเนื้อ เพิ่มขึ้น ทั้งนี้อาจเนื่องมาจากเทคนิคที่ใช้ยืดกล้ามเนื้อซึ่งในการวิจัยครั้งนี้ ใช้เทคนิคออกแรงต้าน-คลาย ตัว (Hold-Relax :HR) อาจส่งผลให้กล้ามเนื้อมีการเจ็บระบมเพิ่มมากขึ้นก็เป็นได้
This research aims to study the significant effects of the Static Stretching, Dynamic Stretching, and Proprioceptive Neuromuscular Facilitation Stretching (PNF) toward the injure recovery after playing badminton. The research have purposive selection that consist of 30 badminton players aged between 20-22 years old by using the experimental stretches included (1) Static Stretching, (2) Dynamic Stretching, and (3) Proprioceptive Neuromuscular Facilitation Stretching (PNF). The researcher would check the injured level by using Pain Pressure Threshold and do Creatine Phosphokinase Enzyme (CPK) test, which would be in high level if there is a simultaneous muscular soreness. The research found that the average number of Pain Pressure Threshold after these 3 muscular stretch-treatments is statistically 0.05 different, which is considered the same. According to the Creatine Phosphokinase Enzyme (CPK) Test, the result from each treatment is 0.05 statistically only. As a conclusion, we can say that the Static Stretching and Dynamic Stretching will not decrease the muscle soreness, but tend to cure the simultaneous muscle soreness for a bit. According to the Proprioceptive Neuromuscular Facilitation Stretching (PNF), this experiment can increase the level of muscle soreness.