การรังแกทางสังคมในนักเรียนระดับมัธยมศึกษา : ปัจจัยที่เกี่ยวข้องและภาวะปัญหาสุขภาพซ้ำซ้อน ‪(ซินเดมิกส์)‬

Social bullying among secondary school students : correlates and syndemics

Name: เพ็ญนภา แสนกล้า

ThaSH: การกลั่นแกล้ง -- ไทย

ThaSH: การกลั่นแกล้งในโรงเรียน

ThaSH: นักเรียนมัธยมศึกษา

Abstract: การวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยแบบผสมผสานด้วยวิธีวิจัยเชิงปริมาณและคุณภาพ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคล ปัจจัยด้านปัญหาสุขภาวะ และปัจจัยซินเดมิกส์กับการรังแกทางสังคมในนักเรียนระดับมัธยมศึกษา และศึกษาการให้ความหมายการรังแกทางสังคมจากทัศนคติของนักเรียนระดับมัธยมศึกษา การศึกษาเชิงปริมาณใช้ข้อมูลทุติยภูมิจากโครงการวิจัยเรื่อง "การรังแกต่อกลุ่มนักเรียนที่เป็นหรือถูกมองว่าเป็นคนข้ามเพศ หรือคนรักเพศเดียวกันในโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา: รูปแบบ ความชุก ผลกระทบ แรงจูงใจ และมาตรการการป้องกันใน 5 จังหวัดของประเทศไทย" กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนระดับมัธยมศึกษา จำนวน 2,070 คน อายุระหว่าง 13 ถึง 20 ปี ใน 5 จังหวัดของประเทศไทย วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว การทดสอบไคสแควร์ และการถดถอยโลจิสติกเชิงอันดับ และการศึกษาเชิงคุณภาพ เก็บรวบรวมข้อมูลจากนักเรียนระดับมัธยมศึกษา อายุระหว่าง 13 ถึง 17 ปี ในโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐม โดยใช้วิธีการสนทนากลุ่ม กลุ่มละ 5 คน จำนวน 6 กลุ่ม รวมทั้งสิ้น 30 คน และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงเนื้อหา ผลการศึกษาพบว่า ปัจจัยอายุ เพศ อัตลักษณ์ทางเพศ ภาวะซึมเศร้า การมีความคิดฆ่าตัวตาย การพยายามฆ่าตัวตาย การดื่มแอลกอฮอล์ การใช้สารเสพติด การใช้ยากระตุ้น และซินเดมิกส์ มีความสัมพันธ์กับการรังแกทางสังคมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ 0.05 ส่วนปัจจัยที่พบว่าไม่มีความสัมพันธ์กับการรังแกทางสังคม คือ ปัจจัยดัชนีมวลกายเกรดเฉลี่ย การมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกที่ไม่ยินยอม และการมีเพศสัมพันธ์เพื่อการแลกเปลี่ยน นักเรียนระดับมัธยมศึกษาได้ให้ความหมายต่อการรังแกทางสังคม ประกอบด้วย 6 ประเด็น คือ 1) เป็นการกระที่ส่งผลกระทบต่ออารมณ์ ความรู้สึก และทำร้ายจิตใจ 2) เป็นการรุกรานเกี่ยวกับสัมพันธภาพระหว่างกลุ่มหรือระหว่างบุคคล 3) ผู้กระทำรู้สึกว่าตนเองได้รับการยอมรับจากคนในกลุ่ม 4) พื้นที่การรังแกทางสังคมเกิดขึ้นในโลกจริง และสามารถเชื่อมโยงไปสู่การรังแกในพื้นที่ไซเบอร์ 5) เป็นการแบ่งชนชั้นเลือกปฏิบัติต่อคนอีกกลุ่ม และ 6) เป็นการกระทำที่ไม่ยอมรับกลุ่มคนที่มีความต่างด้านเพศภาวะ ในส่วนของรูปแบบการรังแก คือ 1) การซุบซิบ นินทา แฉ สร้างเรื่องโกหก 2) การแบน การปิดกั้นไม่ให้เข้ากลุ่ม และ 3) การมองด้วยสายตาเหยียดหยาม ข้อเสนอแนะการศึกษา รณรงค์ให้ความรู้และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องการรังแกทางสังคมและการรังแกทุกประเภทต่อนักเรียนระดับมัธยมศึกษา รวมทั้งบุคลากรในสถานศึกษา เพื่อให้ทุกคนได้เข้าใจ และตระหนักถึงปัญหาเหล่านี้อีกทั้งรณรงค์ให้คนในสังคมตระหนักรู้และสร้างการยอมรับต่อความหลากหลายทางเพศ และรณรงค์ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีมาตรการช่วยเหลือนักเรียนที่ตกเป็นเหยื่อการรังแกทุกประเภท รวมทั้งนักเรียนที่ได้รับผลกระทบต่อด้านสุขภาวะ โดยการออกเป็นนโยบายป้องกันปัญหาการรังแก และบังคับใช้ทุกโรงเรียนในประเทศไทย

Abstract: This research is a mixed methods research using quantitative and qualitative research methods. The objectives of this study were to examine the correlations between personal factors, health problems, and syndemics factors with social bullying among secondary school students, and study the meaning of social bullying from the attitude of secondary school students. Quantitative studies use secondary data from the project titled "Bullying targeting secondary school students who are or are perceived to be transgender or same-sex attracted: Types, prevalence, impact, motivation and preventive measures in 5 provinces of Thailand". The samples of this study were 2,070 secondary school students, age 17 to 20 years in 5 provinces of Thailand. The data were analyzed for One-Way ANOVA, Chi-Square Test and Ordinal Logistic Regression Analysis. And qualitative studies. The data was collected on secondary school students between grades 7 to 12, age 13 to 17 years, and studying in a school at Nakhonpratom by grouping interview 5 people at a time, split to 6 groups total of 30 students. The results showed that age factors, sex, gender identity, depression, suicidal ideation, suicide attempts, alcohol abuse, drug abuse, stimulant drug abuse and syndemics were related to social bullying with statistical significance at the level of 0.05. The factors that do not have any relationship with social bullying are the body mass index (BMI) factor, GPA, first intercourse was forced, and sex exchange. Secondary school students have defined social bullying as follows: 1) It is an act that affects emotions and hurts the mind. 2) It is aggression involving relationships between groups or between individuals. 3) The perpetrator feels himself accepted by the group. 4) Social bullying occurs in the real world and can be linked to cyber bullying. 5) Class discrimination and discrimination against another group. 6) It is an action that does not accept groups of people with gender differences. In the form of social bullying: 1) gossiping, disclose, creating lies, 2) banning, blocking from entering the group, and 3) looking with disparaging eyes. It is suggested that education campaigns be encouraged in order to educate and create understanding about all types of social bullying and bullying to secondary school students, including school personnel, so that everyone can understand and be aware of these problems. As well as campaigning for awareness and acceptance of gender diversity and campaigning for relevant agencies to have measures to help students who are victims of all types of bullying, including students who are affected by well-being by issuing a policy to prevent bullying and enforce every school in Thailand.

มหาวิทยาลัยมหิดล. หอสมุดและคลังความรู้มหาวิทยาลัยมหิดล

Address: นครปฐม

Email: liwww@mahidol.ac.th

Name: โธมัส กวาดามูซ

Role: ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์

Name: พิมพวัลย์ บุญมงคล

Role: ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์

Name: อนุสรณ์ พยัคฆาคม

Role: ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์

Created: 2562

Modified: 2567-04-26

Issued: 2567-04-26

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

DegreeName: ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: สังคมศาสตร์สิ่งแวดล้อม

Grantor: มหาวิทยาลัยมหิดล

©copyrights มหาวิทยาลัยมหิดล

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	5936646.pdf	4.47 MB	101	2025-07-07 11:39:51

ใช้เวลา

0.267229 วินาที