รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2566 จังหวัดสุพรรณบุรี

Name: ฐปนรรต พรหมอินทร์

Name: ชัยวัฒน์ ม่านศรีสุข

ThaSH: ไทย รัฐสภา สภาผู้แทนราษฎร -- การเลือกตั้ง, 2566

Classification :.LCCS: JQ1749.ก5

ThaSH: การเลือกตั้ง -- ไทย -- สุพรรณบุรี

ThaSH: สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร -- การเลือกตั้ง

Abstract: รายงานการวิจัยเรื่อง “การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมือง และพฤติกรรมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2566 จังหวัดสุพรรณบุรี” มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1. ความเคลื่อนไหวและพฤติกรรมทางการเมืองของภาคการเมือง เช่น นักการเมือง พรรคการเมือง กลุ่มที่ทางานเกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองในจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นต้น 2. ความเคลื่อนไหวและพฤติกรรมทางการเมืองของภาคประชาชน เช่น บุคคล กลุ่มประชาชน ในจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นต้น 3. ความเคลื่อนไหวและพฤติกรรมทางการเมือง และบทบาทของคณะกรรมการการเลือกตั้ง และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องในจังหวัดสุพรรณบุรี และ 4. เพื่อศึกษาความเคลื่อนไหวและพฤติกรรมทางการเมือง และบทบาทของภาคส่วนอื่นๆ ที่ทาหน้าที่เป็นองค์กรเฝ้าระวัง (Watch dog) ในจังหวัดสุพรรณบุรี การวิจัย เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพโดยใช้แบบสัมภาษณ์กับกลุ่มผู้ให้ข้อมูลสาคัญ คือ ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสุพรรณบุรี ประธานกรรมการการเลือกตั้งประจาเขตเลือกตั้ง กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง ผู้ตรวจหน่วยเลือกตั้ง นักการเมืองระดับท้องถิ่น นักธุรกิจ ผู้ทรงคุณวุฒิ สื่อ องค์กรตรวจสอบการเลือกตั้ง และผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 21 คน ส่วนการวิจัยเชิงปริมาณใช้แบบสอบถามกับกลุ่มตัวอย่าง 402 ตัวอย่าง และใช้การสังเกตการณ์ ค่าสถิติที่ใช้คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เชิงพรรณนา ผลการวิจัย พบว่า 1. ความเคลื่อนไหวและพฤติกรรมทางการเมืองของภาคการเมือง มีการจัดตั้งสาขาพรรคการเมือง 9 พรรค และตัวแทนพรรคการเมือง 26 พื้นที่ ซึ่งเป็นตัวแทนในเขตเลือกตั้ง และตัวแทนประจาจังหวัด มีพรรคการเมืองส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง 13 พรรค โดย 8 พรรคส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งครบทั้ง 5 เขต แต่ละเขตเลือกตั้งมีผู้สมัครรับฯ จานวน 10-12 คน อายุระหว่าง 25-75 ปี ส่วนใหญ่พักอาศัยในจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นครั้งแรกของการหาเสียงในการเลือกตั้งที่มีการประชันวิสัยทัศน์ผู้สมัครรับฯ จาก 6 พรรคการเมือง ทั้งนี้พรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคประชาธิปัตย์มีการเคลื่อนไหวที่โดดเด่น ป้ายหาเสียงถูกทาลายด้วยมนุษย์และจากภัยธรรมชาติ ผู้สมัครฯ มีวิธีการหาคะแนนนิยมโดยใช้ป้ายหาเสียง รถยนต์แห่ และการเดินหาเสียงของผู้สมัครรับ เลือกตั้งและผู้สนับสนุน 2. ความเคลื่อนไหวและพฤติกรรมทางการเมืองของประชาชน มีผู้มาใช้สิทธิในการเลือกตั้งล่วงหน้ากว่าร้อยละ 90 ขณะที่การเลือกตั้งทั่วไป ผลการเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อและแบบเขตเลือกตั้ง มีผู้มาใช้สิทธิกว่าร้อยละ 78 โดยพรรคก้าวไกลได้คะแนนแบบบัญชีรายชื่อเป็นลาดับที่ 1 ส่วนพรรคชาติไทยพัฒนาได้เป็นลำดับที่ 3 แต่ยังสามารถรักษาพื้นที่จังหวัดที่มี “พรรคการเมืองเดียว” ได้ โดยผู้ที่ได้รับเลือกตั้งคือ นายสรชัด สุจิตต์ นายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ นายนพดล มาตรศรี นายเสมอกัน เที่ยงธรรม และนายประภัตร โพธสุธน จากการสารวจความคิดเห็นของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุระหว่าง 46-55 ปี สำเร็จการศึกษาในระดับประถมศึกษา ประกอบอาชีพรับจ้าง และมีรายได้ 5,001–10,000 บาท/เดือน ยังพบว่า ประชาชนสนใจติดตามข่าวสารการเลือกตั้งโดยเฉลี่ยรวมอยู่ในระดับมาก ผ่านช่องทางต่างๆ ลำดับแรก คือ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ เช่น อินเทอร์เน็ต เฟซบุ๊ค ทวิสเตอร์ อินสตราแกรม เป็นต้น ซึ่งส่งผลทำให้ไปใช้สิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง รวมถึงหน่วยเลือกตั้งใกล้บ้าน ส่วนผู้ที่ไม่สนใจติดตามข่าวสารการเลือกตั้งเนื่องจากก่อให้เกิดความเครียด ผู้ที่มีอิทธิพลต่อการไปใช้สิทธิเลือกตั้งคือ ตัวผู้สมัครรับเลือกตั้ง และหัวหน้า/ผู้นาพรรคการเมือง ในการตัดสินใจเลือก ส.ส. จะพิจารณาจากนโยบายของพรรคการเมือง และพบพฤติกรรมการแจกเงินมีน้อย ประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมในพรรคการเมืองในส่วนของการบริหารและกำหนดนโยบาย ทั้งนี้ความชื่นชอบที่มีต่อตัวผู้นำ/แกนนำพรรคการเมืองเป็นปัจจัยที่ทาให้สนับสนุนพรรค นอกจากนี้ยังเห็นว่าการเลือกตั้งโดยใช้บัตร 2 ใบ หน่วยเลือกตั้ง และการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการประจำหน่วยมีความเหมาะสม ชัยชนะของพรรคชาติไทยพัฒนามาจากปัจจัย ตัวบุคคลและผลงานที่สร้างไว้ ของอดีตนายกฯ บรรหาร ศิลปอาชา ตระกูลการเมืองที่ได้รับการเลือกตั้งและส่งต่อรุ่นต่อ ชื่อเสียงของพรรคชาติไทยพัฒนายังได้รับการยอมรับจากผลงานการพัฒนาพื้นที่ และผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคฯ ได้รับการเลือกตั้งมาอย่างต่อเนื่อง 3. ความเคลื่อนไหวและพฤติกรรมทางการเมืองของคณะกรรมการการเลือกตั้ง และหน่วยงานภาครัฐบทบาทของผู้อานวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัด และคณะกรรมการการเลือกตั้งระดับพื้นที่ก่อนวันเลือกตั้ง การเลือกตั้งครั้งนี้แบ่งเขตเลือกตั้งออกเป็น 5 เขต โดยใช้เขตอาเภอเป็นเขตเลือกตั้ง ทำให้ผู้สมัครรับฯ สะดวกในการหาเสียง ส่วนสถานที่ที่ใช้เลือกตั้งล่วงหน้าใช้โรงเรียนเป็นที่เลือกตั้งทุกแห่ง สถานที่รับสมัครฯ คือหอประชุมมหาวิทยาลัยสวนดุสิต วิทยาเขตสุพรรณบุรี การเลือกตั้งนี้มีผู้สมัครฯ ทั้งสิ้น 54 คน จาก 13 พรรคการเมือง โดยมีการเตรียมพร้อมในเรื่องของบุคลากรที่จะปฏิบัติหน้าที่ และรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ส่วนการจัดหาวัสดุ อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งต้องใช้วิธีการเฉพาะเจาะจง เนื่องจากได้รับงบประมาณล่าช้า การรณรงค์การเลือกตั้งมีการจัดทำป้ายประชาสัมพันธ์ มีการนาตัวละครในวรรณคดีใช้เป็นสื่อ และเชิญศิลปิน การทำงานของหน่วยงานภาครัฐ ได้รับความร่วมมือจากกระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ วัด โรงเรียน องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชน โดยจัดทาสื่อประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ และเป็นสถานที่เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข่าวสารการเลือกตั้ง อนุญาตให้บุคลากรร่วมเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานการเลือกตั้งรวมทั้งการให้ใช้สถานที่เป็นหน่วยเลือกตั้ง 4. การตรวจสอบการเลือกตั้ง พบว่า มีการตรวจติดตามการเลือกตั้งของกรรมการการเลือกตั้ง จากสื่อมวลชน และมูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย (P-NET) ภาพรวมของการเลือกตั้งมีความโปร่งใสชื่อดังมาร่วมร้องเพลงฉ่อย โดยประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ สถานีวิทยุ เสียงตามสาย และสื่อบุคคล ระหว่างการเลือกตั้ง มีการวางแผนการทางาน แบ่งหน้าที่รับผิดชอบ มีการจัดทาบัญชีรายชื่อและหมายเลขมา ติดไว้ที่หน้าหน่วยเลือกตั้งทาให้เกิดความสะดวกต่อผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ได้เหมาะสม ปัญหาอุปสรรคที่พบคือ การจัดประชุมในเวลาราชการกระทบกับบุคลากรทางการศึกษา ผู้สูงวัยมีปัญหาอ่าน หนังสือไม่ออก หน่วยเลือกตั้งบางหน่วยคับแคบและอยู่ริมถนน อากาศร้อน และการเกิดภัยธรรมชาติ หลังการ เลือกตั้ง การรายงานผลการเลือกตั้งมีอุปสรรคเนื่องจากฝนตก ทั้งนี้การนาส่งหีบบัตร และเอกสารต่างๆ เป็นไป ตามแนวทางที่กาหนด

Abstract: The research entitled “The Study of Political Movement and Electoral Behavior in the 2023 General Election in Suphan Buri” contains 4 main objectives. They include (1) to study the political movement and behavior of actors in the political sector, including politicians, political parties, and groups working related to political parties within Suphan Buri, (2) to study the political movement and behavior of actors in people’ s sector, including individual and groups of people in Suphan Buri, ( 3) to study the political movement and behavior, and the roles of the Election Commission and public sector organizations in Suphan Buri, and ( 4) to study the political and behavior, and the roles of non- public sector organizations performing watch-dog function in Suphan Buri. This research is qualitative research employing interview techniques. Interviews were conducted with key informants, including election candidates, the Director of the Provincial Election Commission of Suphan Buri, the Chairman of the Election Commission of Constituency, election officers, polling station inspectors, local businessmen, experts, mass media, election inspection organizations, and 21 voters. Also added to the data collection include the collecting of questionnaires from 402 samples, and non- participant observation. The analysis is done with the use of basic statistical tools, including percentage, means and standard deviation, and descriptive analysis. The research findings include: 1. The political movement and behavior of actors in the political sector : Nine political parties established local branches, and party representatives were appointed in 26 areas as constituency representatives and provincial representatives. 13 political parties nominated candidates. Eight parties fully endorsed candidates in five constituencies, and each constituency had 10- 12 candidates between the ages of 25 and 27. Most candidates lived in Suphan Buri. This was the first general election that the candidates from six political parties joined in vision debates during the election campaign at the provincial level. The election campaigning of the Chatthai Pattana Party and the Democrat Party appeared to be prominent. Campaign posters were intentionally and accidentally destroyed. Campaign posters, car campaign parades, and street campaigning were popularly employed by candidates. 2. The political movement and behavior of voters: more than 90 percent of registered pre-poll voters cast their votes. The result of the general election in Suphan Buri was that the Move Forward Party ( MFP) received the highest votes in the proportional representation system, gaining about 78 percent. Meanwhile, the Chatthai Pattana Party ( CPP) was ranked third in the proportional representation system but could win in all single- member constituencies. The CPP’ s elected candidates included Sorachud Suchitya, Nattavut Prasertsuwan, Noppadon Martsri, Samerkun Thiengtham, and Prapat Pothasuthon. From the opinion surveys of the voters, the majority of informants were female, at the age of 46- 55, primary school graduates, general employees, and gaining 5,001- 10,000 baht monthly. The finding showed that voters were interested in following election news at a high level through electronic media, for example, the Internet, Facebook, and Instagram. Factors leading to their voting participation included news consumption and the location of polling stations near voters’ homes. Those who answered not to be interested in following the news explained that consuming political news caused them stress. The persons who had a strong influence on the informants’ voting participation were candidates and party leaders. The voters’ voting decisions were strongly influenced by their considerations of political parties’ policies. There appeared few practices of vote buying. The voters got involved in the parties’ management and policymaking. The voters’ admiration of party leaders was an important factor in their support for parties. In addition, using a two- ballot system, the location of the polling station, and the performance of the duties of polling station officers were considered as appropriate. The victory of the CPP in the single-member constituencies was mainly caused by (1) the high reputation and legacies of former Prime Minister Banharn Silapa- archa, ( 2) the influence of political families in the province, ( 3) the recognition of the CPP’ s work in the development of the province and constituencies, and (4) the fact that the party’s candidates have been continuously elected. 3. The political movement and behavior of the Election Commission and public sector organizations in Suphan Buri: The role of the director of the Provincial Election Commission and the Election Commission of Constituency before the election day: The election constituencies in Suphan Buri were divided into five constituencies based on the province’ s districts. This facilitated candidates’ election campaigning. Schools were used as pre-poll voting stations. The university hall of Suan Dusit University, Suphan Buri was used as the candidate registration office. 54 candidates from 13 political parties ran in this general election. The provincial election commission prepared the readiness of officers to perform their duties and lists of eligible voters. The procurement of election- related equipment required specific methods due to delayed budget transfer. The commission’s means of promoting the general election included the use of public relations posters, the use of characters in traditional literature to convey messages, and the use of famous traditional folk songs which were distributed via social media platforms, radio stations, community announcements, and personal media. On election day, the performance of the election officers, including the planning, the division of duties, and the preparation of lists of candidates and numbers of candidates and political parties, was able to facilitate voters’ participation and was regarded as appropriate. There were some problems during the election day. Holding meetings of election officers during office hours disturbed school staff. Others included hot weather and natural disasters. On the post-election day, the reporting of election results was hampered by rain. However, the delivery of ballot boxes and documents followed official guidance. The activities of electoral management received cooperation from the Interior Ministry, the Education Ministry, temples, schools, local administrative organizations, and the private sector. The cooperation appeared in the forms of producing public relations media, being a place to publicize election news, allowing their personnel to perform as election officers, and permitting the use of their places as polling stations. 4. The election monitoring: mass media and the Open Forum for Democracy Foundation ( P- NET) actively monitored the activities of electoral management done by the Election Commission. Overall, the general election was perceived as transparent.

สถาบันพระปกเกล้า. ห้องสมุดสถาบันพระปกเกล้า

Address: กรุงเทพมหานคร

Email: kpilibrary@kpi.ac.th

Name: สถาบันพระปกเกล้า

Role: ผู้ให้ทุน

Created: 2566

Modified: 2567-01-31

Issued: 2567-01-31

งานวิจัย/Research report

application/pdf

tha

©copyrights สถาบันพระปกเกล้า

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	kpi research 6708.pdf	4.84 MB	10	2025-09-01 10:24:37

ใช้เวลา

0.035111 วินาที