การพัฒนาเสาเข็มดินซีเมนต์ผสมเถ้าหนักและกากแคลเซียมคาร์ไบด์

DEVELOPMENT OF CEMENT COLUMN MIXED WITH BOTTOM ASH AND CALCIUM CARBIDE RESIDUE

Name: ธีรัช เทศนศิลป์

keyword: ดินเหนียวอ่อนกรุงเทพ

; กากแคลเซียมคาร์ไบด์

; เถ้าหนัก

; กำลังอัดแกนเดียว

; Soft Bangkok Clay

; Calcium Carbide Residue

; Bottom Ash

; Compressive Strength

Abstract: เถ้าหนัก (Bottom ash, BA) และกากแคลเซียมคาร์ไบด์ (Calcium carbide residue, CCR) เป็นผลพลอยได้จากโรงไฟฟ้าแม่เมาะ จังหวัดลำปาง และโรงผลิตแก๊สอะเซทิลีน จังหวัดนครปฐม งานวิจัยนี้ศึกษาความเป็นไปได้ในการประยุกต์ใช้วัสดุประสาน (Binder, B) ในการแทนที่ปูนซีเมนต์ เพื่อปรับปรุงกำลังอัดแกนเดียวของดินเหนียวอ่อนกรุงเทพ (Soft Bangkok clay, SC) ตัวแปรที่ใช้ใน การศึกษาครั้งนี้คือวัสดุประสานเป็นส่วนประกอบของ BA และ CCR ที่บดและไม่บด, อัตราส่วน SC:B เท่ากับ 50:50, 60:40, 70:30, 80:20 และ 90:10, อัตราส่วน OPC:BA และ CCR:BA 70:30, 80:20, 90:10 และ 100:0, ปริมาณความชื้นเท่ากับ 1LL, 1.5LL และ 2LL (LL คือขีดจำกัดเหลวของดิน), ปริมาณน้ำต่อวัสดุประสานเท่ากับ 1 และอายุบ่มเท่ากับ 7, 28, 60 และ 90 วัน โดยศึกษาโครงสร้าง ทางจุลภาคด้วยวิธี (Scanning Electron Microscope, SEM) และการวิเคราะห์ค่าคาร์บอนฟุตพริ๊นท์ ผลการทดสอบแสดงให้เห็นว่ากำลังอัดแกนเดียวที่อายุบ่ม 7 วัน และ 28 วัน ของดินเหนียวอ่อนผสม ปูนซีเมนต์ และเถ้าหนักมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามปริมาณ B ที่เพิ่มขึ้นสำหรับทุกอัตราส่วนผสม ภาพถ่าย SEM แสดงให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์C-S-H และ ettringite มีค่าเพิ่มมากขึ้นตามปริมาณ B อัตราส่วนผสม ที่เหมาะสมของตัวอย่างดินเหนียวผสมปูนซีเมนต์ และเถ้าหนัก อัตราส่วนที่ให้ค่ากำลังอัดที่อายุบ่ม 28 วันผ่านเกณฑ์มาตรฐานกรมทางหลวง (1,500 kPa) คืออัตราส่วน SC:B เท่ากับ 70:30 และ อัตราส่วน OPC:BA เท่ากับ 90:10 สำหรับทุกปริมาณความชื้น ซึ่งมีค่าปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์เท่ากับ 410 kg/m3 ท้ายสุดนำเสนอแผนภูมิการออกแบบส่วนผสมของเสาเข็มดินซีเมนต์ผสมเถ้าหนัก และกาก แคลเซียมคาร์ไบด์เพื่อให้ได้กำลังรับแรงอัด และปริมาณการปล่อย CO2 ตามต้องการ

Abstract: Bottom ash (BA) and calcium carbide residue (CCR) are waste by-product form the Mae Moh power plant in Lamphang, and acetylene gas factory in Nakhon Pathom, respectively. This study investigated the possibility of using binder (B) to replace cement in order to improve the compressive strength of soft Bangkok clay. The variable used in this study is B composed of ground and unground BA and CCR, the SC: B ratios of 50:50, 60:40, 70:30, 80:20, Used the ratio of OPC:BA and CCR : BA 70:30, 80:20, 90:10 and 100:0, water content of 1LL, 1.5LL and 2LL (LL is liquid limit of soft clay), water to binder (W/B) ratio of 1 and curing time of 7, 28, 60 and 90 days. Scanning Electron Microscope (SEM) and carbon footprint of sample were evaluated. The test results show that the 7-day and 28-day compressive strength of sample increased as the B content increased. SEM images show that C-S-H and ettringite products increased with B content. The mix ingredient that offered the 28-day compressive strength more than the DOH standard (1,500 kPa) was SC:B ratio of 70:30 and OPC:BA of 90:10 for all water content which gave CO2 content of 410 kg/m3 . Finally, mix design charts for cement column mixed with bottom ash and calcium carbide residue are proposed to meet the target 28-day compressive strength and carbon dioxide emissions.

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน. สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ

Address: นครราชสีมา

Email: ่jiraporn@rmuti.ac.th

Created: 2562

Modified: 2024-01-31

Issued: 2567-01-31

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

Level: ปริญญาโท

Grantor: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน

DegreeName: วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต

Descipline: วิศวกรรมโยธา

©copyrights มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล อีสาน

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	RMUTI_Yupawadee_Thes67-01.pdf	83.89 MB	1	2024-10-29 09:34:42

ใช้เวลา

0.02226 วินาที