การศึกษาความหลากหลายทางพันธุกรรมของยีน COX1 ของเชื้อ Plasmodium knowlesi ในประเทศไทย
Study of genetic diversity of cytochrome c oxidase subunit 1 gene of Plasmodium knowlesi in Thailand
Abstract:
ผู้ติดเชื้อมาลาเรียทั่วโลกมีประมาณร้อยละ 40 ของประชากรโลก เกิดจากเชื้อโปรโตซัวในกลุ่ม Plasmodium spp. Plasmodium knowlesi เป็นเชื้อที่พบในลิงแสมที่อาศัยในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถติดต่อมาสู่คนได้ Cytochrome c oxidase subunit 1 gene เป็นยีนที่อยู่ในไมโทคอนเดรียที่มีความสำคัญในกระบวนการหายใจ โดยยีน COX1 มีความแตกต่างของลำดับ นิวคลีโอไทด์ในสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวกันต่ำแต่มีความแตกต่างระหว่างสิ่งมีชีวิตต่างชนิดสูง และมีการ insertion และการ deletion ของลำดับนิวคลีโอไทด์น้อยจึงนิยมนำมาใช้ในการระบุชนิดและศึกษาทางด้านวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต ในการวิจัยนี้ใช้ตัวอย่างสารพันธุกรรมของเชื้อ P. knowlesi ที่ตรวจยืนยันแล้วด้วย วิธี Real-time PCR จากกองโรคติดต่อนำโดยแมลงจำนวน 40 ตัวอย่าง มาศึกษาด้วยเทคนิค PCR โดยมี COX1 เป็นยีนเป้าหมายแล้วสร้าง phylogenetic tree โดยใช้วิธี Neighbor-joining ในการแบ่งกลุ่ม P. knowlesi ในประเทศไทยและวิเคราะห์ร่วมกับประวัติผู้ป่วย ถิ่นที่อยู่อาศัย และ ความหนาแน่นของเชื้อเพื่อหาความสัมพันธ์กับกลุ่มของเชื้อ (cluster) ผลการวิจัย Phylogenetic tree สามารถแบ่งกลุ่มเชื้อ P. knowlesi ได้เป็น 6 Clusters (Cluster I-VI) จาก 11 จังหวัด ดังนี้ คือ Cluster I-VI โดยพบว่า Cluster I มี 21 ตัวอย่างคือ PK5, PK6, PK7, PK8, PK10, PK11, PK12, PK13, PK14, PK15, PK16, PK17, PK18, PK21, PK24, PK25, PK26, PK33, PK36, PK38 และ PK39 Cluster II มี 3 ตัวอย่าง คือ PK1, PK2 และ PK3 Cluster III มี 1 ตัวอย่างคือ PK41 Cluster IV มี 10 ตัวอย่าง คือ PK19, PK22, PK23, PK28, PK29, PK30, PK31, PK32, PK34 และ PK37 Cluster V มี 3 ตัวอย่าง คือ PK4, PK9 และ PK20 Cluster VI มี 2 ตัวอย่าง คือ PK35 และ PK40 การหาความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลของผู้ป่วยกับ ความหนาแน่นของเชื้อจำนวน 33 ราย โดยแบ่งเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่มีความหนาแน่นของเชื้อ < 10,000 ต่อไมโครลิตรของเลือดจำนวน 26 ราย และพบกลุ่มผู้ป่วยที่มีความหนาแน่นของเชื้อ > 10,000 ต่อไมโครลิตรของเลือดจำนวน 7 ราย พบผู้ป่วยติดเชื้อ P. knowlesi เป็นเพศชายมากกว่าเพศหญิง เป็นผู้ป่วยสัญชาติไทย 32 คน สัญชาติพม่า 1 คน โดยแบ่งกลุ่มอายุ > 40 ปี จำนวน 21 คน และ กลุ่มอายุ < 40 ปีจำนวน 12 คน ผู้ป่วยมีอาชีพหรือกิจกรรมที่ต้องเข้าไปในป่าได้แก่ อาชีพทำสวนยาง, ทำสวนผลไม้, ทหาร/ตำรวจ, พระ/สามเณร และ ทำไร่อื่นๆ (n=25) จะติดเชื้อ P. knowlesi มากกว่ากลุ่มอาชีพอื่นๆ ได้แก่ อาชีพรับจ้าง และอาชีพอื่นๆ (n=8) สรุปผลการวิจัยได้ทําการจัดจําแนกเชื้อได้ 6 Clusters ทําให้สามารถบ่งบอกได้ว่าเชื้อในแต่ละ Cluster มีความใกล้เคียงกันทางด้านพันธุศาสตร์และบ่งบอกได้ว่าเชื้อแต่ละพื้นที่นั้นมีลําดับ นิวคลีโอไทด์ของยีนที่แตกต่างกันออกไปซึ่งมีประโยชน์ต่องานทางด้านสาธารณสุขเป็นอย่างมากโดยเฉพาะทางด้านระบาดวิทยาจนถึงระดับโมเลกุลซึ่งจะมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการวางแผนควบคุมกำจัดโรคมาลาเรียในประเทศไทยและการระบาดของเชื้อจากแหล่งหนึ่งไปสู่อีกแหล่งหนึ่งได้
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. หอสมุดแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
©copyrights มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์