รูปแบบการจัดกิจกรรมผู้สูงอายุในโรงเรียนสร้างสุขตำบลท้ายดง อำเภอวังโป่ง จังหวัดเพชรบูรณ์

A Model of Elderly Activities at Sangsuk School in WangPong District of Phetchbun Province.

Name: จุฑาพร แหยมแก้ว

Address: บัณฑิตศึกษา. รัฐประศาสนศาสตร์

Organization : มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์

keyword: ผู้สูงอายุ นโยบายของรัฐ

Classification :.DDC: 305.26

; ผู้สูงอายุ การศึกษา เพชรบูรณ์

; ผู้สูงอายุ รูปแบบกิจกรรม เพชรบูรณ์

Abstract: การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาระดับความพึงพอใจของผู้สูงอายุที่มีต่อรูปแบบการจัดกิจกรรมผู้สูงอายุในโรงเรียนสร้างสุข ตำบลท้ายดง อำเภอวังโป่ง จังหวัดเพชรบูรณ์ 2) เพื่อศึกษาเปรียบเทียบรูปแบบการจัดกิจกรรมผู้สูงอายุในโรงเรียนสร้างสุข ตำบลท้ายดง อำเภอวังโป่ง จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล 3) เพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมผู้สูงอายุในโรงเรียนสร้างสุขตำบลท้ายดง อำเภอวังโป่ง จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นการวิจัยแบบผสมผสานเชิงคุณภาพ และปริมาณ (Mixed Method) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ กลุ่มผู้สูงอายุที่เข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ในโรงเรียนสร้างสุขตำบลท้ายดง อำเภอวังโป่ง จังหวัดเพชรบูรณ์ จำนวน 235 คน โดยสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน ซึ่งใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล นำมาวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป เพื่อหาค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์เปรียบเทียบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยโดยใช้ค่า t-test, F-test (one way ANOVA) ไม่แตกต่างกัน ยกเว้น อายุ ระดับการศึกษา และอาชีพ มีความพึงพอใจของผู้สูงอายุที่เข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ในโรงเรียนสร้างสุขแตกต่างกัน 3. แนวทางการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมผู้สูงอายุในโรงเรียนสร้างสุขตำบลท้ายดง อำเภอวังโป่ง จังหวัดเพชรบูรณ์ พบว่า การจัดกิจกรรมของผู้สูงอายุที่จะได้ผลดีมากที่สุด คือ มีกิจกรรมที่เหมาะสมกับวัย และสภาพร่างกายของผู้สูงอายุ รวมทั้งสอดคล้องกับบริบทพื้นที่ และความต้องการของผู้สูงอายุจะยิ่งดีมาก และในส่วนของการจัดหาบุคลากรที่มีความรู้ในช่วงของกิจกรรมประเภทส่งเสริมสุขภาพร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม ของผู้สูงวัย เนื่องจากผู้สูงอายุต้องการกำลังใจ ต้องการความรู้โดยเฉพาะในเรื่องการดูแลสุขภาพร่างกาย และจิตใจ The purposes of the current study were 1) to examine the level of the elderly’s satisfaction of elderly activities at Sangsuk School in Wangpong district of Phetchabun province, 2) to compare elderly activities at Sangsuk School in Wangpong district of Phetchabun province with personal factors, and 3) to issue guidelines on the development of elderly activities at Sangsuk School in Wangpong district of Phetchabun province. According to the mixed method, the study integrated qualitative and quantitative research. Therefore, the population mainly paid attention to older people participating in activities at Sangsuk School in Wangpong district of Phetchabun province. Then, 235 older people were selected as samples after using multi - stage sampling. The instrument used to collect data was a paper questionnaire. After gathering data, the data was assessed by a statistical package program ; the statistics used to calculate consisted of frequency, percentage, mean, standard deviation, t-test, and F-test (one way ANOVA). The findings of the study indicated : 1. The overall level of the elderly’s satisfaction of elderly activities at Sangsuk School in Wangpong district of Phetchabun province was high (Χ= 3.87). When considering all aspects in high-to-low average, it showed, Overall Operation (Χ= 4.02), Objective-Achievement based Implementation (Χ= 3.97), Learning Activity Model for the Elderly (Χ= 3.85), Process and Operating Procedure (Χ=3.77), and Event Venue for Elderly Activities (Χ=3.74), respectively. 2. The comparative results of the elderly’s satisfaction of elderly activities at Sangsuk School in Wangpong district of Phetchabun province by sexes were indifferent. Meanwhile, the respondents’ satisfaction of elderly activities at Sangsuk School in Wangpong district of Phetchabun province by ages, educational levels, and careers was different after the results compared. 3. The guidelines on the development of elderly activities at Sangsuk School in Wangpong district of Phetchabun province issued that the most successful activity was the activities appropriate for the elderly’s ages and health. However, any provided activities should be best if they were related to the areal context and the elderly’s needs. In addition, knowledgeable personnel should be afforded right to the elderly’s health, emotions, mentality, and society because they always needed morale and knowledge, especially physical and mental care.

มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์. สำนักวิทยบริการแะลเทคโนโลยีสารสนเทศ

Address: เพชรบูรณ์

Email: library@pcru.ac.th

Name: สุวัฒน์ อินทรประไพ

Role: อาจารย์ที่ปรึกษาหลัก

Name: สุรัตน์ชัย พรมเท้า

Role: อาจารย์ที่ปรึกษาร่วม

Modified: 2566-09-29

Issued: 2566-09-29

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

Level: ปริญญาโท

Grantor: มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์

DegreeName: รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต

Descipline: รัฐประศาสนศาสตร์

©copyrights มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	LB Thesis2.pdf	1.08 MB	8	2025-10-24 12:01:42

ใช้เวลา

0.021309 วินาที