แจ้งเอกสารไม่ครบถ้วน, ไม่ตรงกับชื่อเรื่อง หรือมีข้อผิดพลาดเกี่ยวกับเอกสาร ติดต่อที่นี่ ==>
หากไม่มีอีเมลผู้รับให้กรอก thailis-noc@uni.net.th ติดต่อเจ้าหน้าที่เจ้าของเอกสาร กรณีเอกสารไม่ครบหรือไม่ตรง

รูปแบบการพัฒนาที่พักสงฆ์เพื่อยกฐานะเป็นวัดในพระพุทธศาสนาของคณะสงฆ์ จังหวัดราชบุรี

Organization : ผู้วิจัย
keyword: ที่พักสงฆ์
; ยกฐานะเป็นวัด
Abstract: การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาสภาพทั่วไปและปัญหาอุปสรรคของการจัดการที่พักสงฆ์เพื่อยกฐานะเป็นวัดในพระพุทธศาสนาของคณะสงฆ์จังหวัดราชบุรี (2) ศึกษาองค์ประกอบในการพัฒนาที่พักสงฆ์เพื่อยกฐานะเป็นวัดในพระพุทธศาสนาของคณะสงฆ์จังหวัดราชบุรี และ (3) นำเสนอรูปแบบการพัฒนาที่พักสงฆ์เพื่อยกฐานะเป็นวัดในพระพุทธศาสนาของคณะสงฆ์จังหวัดราชบุรี การวิจัยครั้งนี้ใช้ระเบียบวิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ เก็บข้อมูลภาคสนามจากผู้บริหารองค์กรคณะสงฆ์จังหวัดราชบุรี ผู้บริหาร/บุคลากรขององค์กรภาครัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ผู้นำชุมชน/ผู้แทนองค์กรภาคประชาสังคม นักวิชาการด้านศาสนา และนักวิชาการทางด้านการจัดการเชิงพุทธ ด้วยการเลือกแบบเจาะจงตามลักษณะการเป็นตัวแทนของกลุ่มที่เหมาะสม จำนวน 33 รูปหรือคน โดยในการสัมภาษณ์เชิงลึกผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 25 รูปหรือคน ได้ใช้แบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง ที่มีค่าดัชนีวัดความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาทั้งฉบับ (S-CVI) เท่ากับ 1.00 เป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล โดยวิเคราะห์ข้อมูลด้วยเทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหาประกอบบริบท และการสนทนากลุ่มเฉพาะร่วมกับผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 8 รูปหรือคน โดยวิเคราะห์ข้อมูลด้วยเทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหาประกอบบริบท ผลการวิจัยพบว่า 1. สภาพทั่วไปและปัญหาอุปสรรคของการจัดการที่พักสงฆ์เพื่อยกฐานะเป็นวัดในพระพุทธศาสนาของคณะสงฆ์จังหวัดราชบุรี พบว่า มีจุดแข็ง ได้แก่ ผู้ปกครององค์กรคณะสงฆ์ในพื้นที่ดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด มีจุดอ่อน ได้แก่ ที่พักสงฆ์บางแห่งมีปัญหาทางการเงิน มีโอกาส ได้แก่ ประชาชนในทุก ๆ พื้นที่ต้องการมีวัดประจำชุมชน และมีอุปสรรค ได้แก่ กระบวนการพิจารณาอนุญาตให้ใช้ที่ดินในกรรมสิทธิ์ของหน่วยงานราชการต่าง ๆ มีระเบียบที่เคร่งครัดและขั้นตอนดำเนินงานจำนวนมาก 2. องค์ประกอบในการพัฒนาที่พักสงฆ์เพื่อยกฐานะเป็นวัดในพระพุทธศาสนาของคณะสงฆ์จังหวัดราชบุรี พบว่า ด้านบุคคล ได้แก่ ผู้ดูแลที่พักสงฆ์และบุคลากรฝ่ายบรรพชิตของที่พักสงฆ์จำเป็นต้องมีคุณลักษณะทั้งในด้านคันถธุระและวิปัสสนาธุระ ด้านการเงิน ได้แก่ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายต้องละเว้นวิธีการได้มาซึ่งเงินของที่พักสงฆ์ในทางที่ผิดหรือก่อให้เกิดความเสื่อมเสีย ด้านวัสดุสิ่งของและสถานที่ ได้แก่ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายต้องจัดบรรยากาศภายในที่พักสงฆ์ให้มีความสัปปายะ และด้านการจัดการ ได้แก่ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายต้องร่วมกันดำเนินงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายโดยมุ่งประโยชน์สุขแก่มหาชนเป็นสำคัญ 3. รูปแบบการพัฒนาที่พักสงฆ์เพื่อยกฐานะเป็นวัดในพระพุทธศาสนาของคณะสงฆ์จังหวัดราชบุรี พบว่า เป็นรูปแบบของการจัดการที่พักสงฆ์ให้มีความพร้อมสำหรับการยกฐานะขึ้นวัดในพระพุทธศาสนา ตาม “กฎกระทรวง การสร้าง การตั้ง การรวม การย้าย และการยุบเลิกวัด การขอรับพระราชทานวิสุงคามสีมา และการยกวัดร้างขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา พ.ศ. 2559” โดยเน้นการพัฒนาความสัปปายะทั้ง 7 ที่เกื้อกูลต่อการสร้างความพร้อมสำหรับการยกฐานะขึ้นวัดในพระพุทธศาสนา ซึ่งประกอบด้วย ด้านอาวาสสัปปายะ (ความเหมาะสมของอาคารสถานที่) ได้แก่ การจัดทำแผนงานก่อสร้างอาคารเสนาสนะที่ได้มาตรฐานและถูกต้องตามกฎหมาย ด้านโคจรสัปปายะ (ความเหมาะสมของการสัญจรภายในและภายนอก) ได้แก่ การจัดระบบป้องกันและรักษาความปลอดภัยภายในอาณาบริเวณที่พักสงฆ์ ด้านภัสสสัปปายะ (ความเหมาะสมของการเผยแผ่พุทธธรรม) ได้แก่ การจัดเผยแผ่พุทธธรรมโดยไม่วิปริตผิดเพี้ยนไปจากครรลองครองธรรม ด้านปุคคลสัปปายะ (ความเหมาะสมของบุคลากร) ได้แก่ การส่งเสริมการศึกษาเพื่อยกระดับความรู้ความสามารถแก่ศาสนบุคคลทั้งทางโลกและทางธรรม ด้านโภชนสัปปายะ (ความเหมาะสมของโภชนาการ ได้แก่ การจัดมาตรการกำจัดเศษอาหารและขยะที่ถูกต้องตามสุขลักษณะ ด้านอุตุสัปปายะ (ความเหมาะสมของบรรยากาศและสภาพแวดล้อม) ได้แก่ การจัดบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมให้เอื้อต่อการเสริมสร้างจิตใจให้สะอาด สว่าง สงบ และด้านอิริยาปถสัปปายะ (ความเหมาะสมของกิจกรรมและการดำเนินงาน) ได้แก่ การจัดกิจกรรมโดยเน้นการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องตามหลัก บ-ว-ร
Abstract: Objectives of this research were: 1. To study the general conditions of Sangha residence management for status upgrading to monastery of Sangha Order in Ratchaburi Province, 2. To study the components of Sangha residence development for status upgrading to monastery of Sangha Oder in Ratchaburi Province and 3. To propose a model of Sangha residence development for status upgrading to be monastery of Sangha Order in Ratchaburi Province. Methodology was the qualitative method, collected field data from administrators of Sangha Organization in Ratchaburi Province, involved administrator, personnel of government organizations, community leader, representatives of civil society organizations including religious scholars and academics in Buddhist management by selecting a specific model based on the representation characteristics of the appropriate group of 33 people. Data were collected from 25 key informants, purposefully selected with structured in-depth-interview script with Scale Validity Index (S-CVI) of 1.00 as a tool for data collection and analyzed the data by contextual content for context analyzing. Data were also collected from 8 participants who were qualified persons in focus group discussion and analyzed by contextual content analysis techniques. Findings of this research were as follows: 1. The present general conditions of Sangha residence management to raise the status to be monastery of Sangha Order in Ratchaburi Province was found that: Strengths, Sangha organizations closely took care at all levels of administrators for etc. Weaknesses, some Sangha residences had the financial problems etc. Opportunities, people in every area wanted to have monastery in their community, etc. and Threats, the process of considering permission to use the land in the ownership of various government agencies is with many strict rules and many operational steps, etc. 2. The components of Sangha residence development to raise the status to be monastery of Sangha Order in Ratchaburi Province were found that: Man aspect, for example, the residence caretakers and the monk personnel had to have qualifications in terms of both Gantha-dhura and Vipassan -dhura, etc., Money aspect, all involved parties had to refrain from acquiring money from Sangha residence in the way which was wrong or causing disgrace, etc. Materials aspect, all involved parties must provide an suitable atmosphere and environment within Sangha residence etc. Management aspect, all stakeholders must work together legally for the benefit and happiness of the public as the important matter. 3. The model of Sangha residence development to upgrade the status to be monastery of Sangha Order in Ratchaburi Province was found that it was a form of accommodation management for monks to be ready for upgrading to Buddhist monastery according to the "Ministry Regulations on the creation, establishment, integration, relocation and dissolution of monasteries. Requesting a royal grant of Wisukhamasima and raising an abandoned temples to become a monastery where monks could live in during the Buddhist Lent 2016.” Emphasis was placed on the development of the Sapp ya 7 that contributed to building readiness for upgrading to Buddhist monastery which consisted of v sa-sapp ya, Suitable abode, such as the preparation of a construction plan for the building that met the standards and was legal, etc., Gocara-sapp ya Suitability of internal and external travel, such as the arrangement of protection and security systems within the monastic accommodation area, etc., Bhassa-sapp ya, Suitablility of propagating the Buddha Dhamma, such as propagating the Buddha Dhamma without being perverted from the way of the original Dhamma, etc., Puggala-sapp ya, Suitablility of personnel, such as the promotion of education to raise the level of knowledge and competence of religious persons both secular and religious, etc. Bhojana-sapp ya, Suitablility of food, including organizing measures to eliminate food waste and waste disposal that was hygienic, etc., Utu, Suitability of atmosphere and environment, including the arrangement of the atmosphere and the environment conducive to enhancing the mind to be clean, bright, peaceful, etc., Iriy patha, Suitability of activities and operations, such as organizing activities with the emphasis on stakeholders’ participation in accordance with the principles of V,M,S, Village, Monastery, School or Borvorn. etc.
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. สำนักหอสมุดและเทคโนโลยีสารสนเทศ
Address: พระนครศรีอยุธยา
Email: library@mcu.ac.th
Role: อาจารย์ที่ปรึกษา
Role: อาจารย์ที่ปรึกษา
Created: 2564
Modified: 2566-06-10
Issued: 2566-06-10
วิทยานิพนธ์/Thesis
application/pdf
tha
©copyrights มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
RightsAccess:
ลำดับที่.ชื่อแฟ้มข้อมูล ขนาดแฟ้มข้อมูลจำนวนเข้าถึง วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1 K3myE5OA8NQ4CVtERRL7U8dQhWrIJURb73LbaJZO.pdf 12.07 MB1 2025-09-11 16:49:24
ใช้เวลา
0.024591 วินาที

พระครูจริยธรรมานุรักษ์ (วัลลภ จริยธมฺโม)
Title Contributor Type
รูปแบบการพัฒนาที่พักสงฆ์เพื่อยกฐานะเป็นวัดในพระพุทธศาสนาของคณะสงฆ์ จังหวัดราชบุรี
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
พระครูจริยธรรมานุรักษ์ (วัลลภ จริยธมฺโม)
พระอุดมสิทธินายก, ผศ. ดร.
ดร.นิกร ศรีราช
วิทยานิพนธ์/Thesis
สภาพปัญหาและแนวทางแก้ไขในการบริหารจัดการที่พักสงฆ์ในอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
พระครูจริยธรรมานุรักษ์ (วัลลภ จริยธมฺโม)
พระสมุทรวชิรโสภณ
สุรพล สุยะพรหม
วิทยานิพนธ์/Thesis
พระอุดมสิทธินายก, ผศ. ดร.
Title Creator Type and Date Create
การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการศาสนทายาทของคณะสงฆ์จังหวัดนนทบุรี
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
พระมหาสุนันท์ สุนนฺโท, ผศ. ดร ;พระอุดมสิทธินายก, ผศ. ดร.
พระครูปลัดวิชาญ วิชฺชาธโร
วิทยานิพนธ์/Thesis
การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการงานสาธารณูปการตามโครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุขของจังหวัดนนทบุรี
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
พระมหาสุนันท์ สุนนฺโท, ผศ. ดร.;พระอุดมสิทธินายก, ผศ. ดร.
พระมหาทวี โพธิเมธี
วิทยานิพนธ์/Thesis
รูปแบบการส่งเสริมสุขภาวะประชาชนกลุ่มชาติพันธุ์ของพระสงฆ์ในจังหวัดราชบุรี
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
พระอุดมสิทธินายก, ผศ. ดร. ;ดร.นิกร ศรีราช
พระสมุห์วศิน วิสุทฺโธ (พงษ์ศักดิ์)
วิทยานิพนธ์/Thesis
รูปแบบการพัฒนาที่พักสงฆ์เพื่อยกฐานะเป็นวัดในพระพุทธศาสนาของคณะสงฆ์ จังหวัดราชบุรี
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
พระอุดมสิทธินายก, ผศ. ดร.;ดร.นิกร ศรีราช
พระครูจริยธรรมานุรักษ์ (วัลลภ จริยธมฺโม)
วิทยานิพนธ์/Thesis
รูปแบบการบริหารจัดการการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของวัดในจังหวัดราชบุรี
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
พระอุดมสิทธินายก, ผศ. ดร.;ดร.นิกร ศรีราช
พระครูพิทักษ์ศิลปาคม (นุชิต วชิรวุฑฺโฒ)
วิทยานิพนธ์/Thesis
รูปแบบการสงเคราะห์ประชาชนตามโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 ของคณะสงฆ์จังหวัดราชบุรี
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
พระเมธีธรรมาจารย์, รศ. ดร.;พระอุดมสิทธินายก, ผศ. ดร.
พระราชวัลภาจารย์ (ดาวเรือง อาจารคุโณ)
วิทยานิพนธ์/Thesis
รูปแบบการพัฒนาศักยภาพพระอุปัชฌาย์ของคณะสงฆ์ในจังหวัดชลบุรี
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
พระอุดมสิทธินายก, ผศ. ดร.; ผศ. ดร.ประเสริฐ ธิลาว
พระสุทิน อธิปญฺโญ (สุดวิจิตร)
วิทยานิพนธ์/Thesis
รูปแบบการบริหารจัดการจังหวัดคุณธรรมต้นแบบของจังหวัดพิจิตร
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
พระปลัดระพิน พุทฺธิสาโร, รศ. ดร. ; พระอุดมสิทธินายก, ผศ. ดร.
พระครูพิสุทธิปัญญาภิวัฒน์ (นพณัช คล้ายผึ้ง)
วิทยานิพนธ์/Thesis
ดร.นิกร ศรีราช
Title Creator Type and Date Create
รูปแบบการบริหารจัดการเสนาสนะที่พึงประสงค์ของวัด ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ดร.นิกร ศรีราช;พระมหากฤษฎา กิตฺติโสภโณ, ผศ. ดร.
พระครูวินัยธรศิริเชษฐ์ สิริวฑฺฒโน (ปู่รักษ์)
วิทยานิพนธ์/Thesis
รูปแบบการส่งเสริมสุขภาวะประชาชนกลุ่มชาติพันธุ์ของพระสงฆ์ในจังหวัดราชบุรี
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
พระอุดมสิทธินายก, ผศ. ดร. ;ดร.นิกร ศรีราช
พระสมุห์วศิน วิสุทฺโธ (พงษ์ศักดิ์)
วิทยานิพนธ์/Thesis
รูปแบบการพัฒนาที่พักสงฆ์เพื่อยกฐานะเป็นวัดในพระพุทธศาสนาของคณะสงฆ์ จังหวัดราชบุรี
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
พระอุดมสิทธินายก, ผศ. ดร.;ดร.นิกร ศรีราช
พระครูจริยธรรมานุรักษ์ (วัลลภ จริยธมฺโม)
วิทยานิพนธ์/Thesis
รูปแบบการบริหารจัดการการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของวัดในจังหวัดราชบุรี
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
พระอุดมสิทธินายก, ผศ. ดร.;ดร.นิกร ศรีราช
พระครูพิทักษ์ศิลปาคม (นุชิต วชิรวุฑฺโฒ)
วิทยานิพนธ์/Thesis
Copyright 2000 - 2025 ThaiLIS Digital Collection Working Group. All rights reserved.
ThaiLIS is Thailand Library Integrated System
สนับสนุนโดย สำนักงานบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อพัฒนาการศึกษา
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
328 ถ.ศรีอยุธยา แขวง ทุ่งพญาไท เขต ราชเทวี กรุงเทพ 10400 โทร. โทร. 02-232-4000
กำลัง ออน์ไลน์
ภายในเครือข่าย ThaiLIS จำนวน 7
ภายนอกเครือข่าย ThaiLIS จำนวน 2,078
รวม 2,085 คน

More info..
นอก ThaiLIS = 13,456 ครั้ง
มหาวิทยาลัยสังกัดทบวงเดิม = 19 ครั้ง
รวม 13,475 ครั้ง
Database server :
Version 2.5 Last update 1-06-2018
Power By SUSE PHP MySQL IndexData Mambo Bootstrap
มีปัญหาในการใช้งานติดต่อผ่านระบบ UniNetHelp


Server : 8.199.134
Client : Not ThaiLIS Member
From IP : 216.73.216.46