รูปแบบกระบวนการสร้างการเปลี่ยนแปลงทางปัญญาในการบริหารธุรกิจเชิงพุทธบูรณาการ

Name: อลิศา ริมดุสิต

Organization : ผู้วิจัย

keyword: รูปแบบ

; การเปลี่ยนแปลง

; ปัญญา

; การบริหารธุรกิจ

; พุทธบูรณาการ

Abstract: การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์ 3 ประการ คือ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัญหาและกระบวนการสร้างการเปลี่ยนแปลงทางปัญญาในการบริหารธุรกิจ 2) เพื่อศึกษากระบวนการสร้างการเปลี่ยนแปลงทางปัญญาในการบริหารธุรกิจเชิงพุทธ และ 3) เพื่อเสนอรูปแบบกระบวนการสร้างการเปลี่ยนแปลงทางปัญญาในการบริหารธุรกิจเชิงพุทธบูรณาการ โดยจำแนกกลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญ 2 กลุ่ม คือ นักธุรกิจไทยจำนวน 3 คน ที่มีบริบทของการบริหารธุรกิจแตกต่างกัน แต่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์การวิจัย และพระสงฆ์ผู้นำในสังคมไทยที่ทำหน้าที่บริหารสถาบันการศึกษาสงฆ์ จำนวน 3 รูป ผลการวิจัยองค์ความรู้ของผู้บริหารธุรกิจพบว่า แม้มีบริบทของธุรกิจแตกต่างกันแต่มีการตระหนักถึงสภาพปัญหาในการบริหารธุรกิจทำนองเดียวกัน และได้ดำเนินการบริหารธุรกิจอย่างเป็นระบบสร้างการเปลี่ยนแปลงทางปัญญาและธุรกิจประสบความสำเร็จด้วยหลักการ 6 ประการ คือ (1) การสร้างความมั่งคั่งให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (2) การส่งเสริมศักยภาพบุคลากร (3) การสร้างความปลอดภัยและความประหยัด (4) การมีวิสัยทัศน์และการสื่อสารที่ชัดเจน (5) การแสวงหาโอกาส และ (6) การปรับระบบการทำงานให้เหมาะสมและทันสมัย รูปแบบกระบวนการสร้างการเปลี่ยนแปลงทางปัญญาทั้ง 6 ประการนี้เป็นกระบวนการที่มีพัฒนาการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องจากกระบวนการเรียนรู้ของผู้บริหารธุรกิจผ่านบริบทของการพัฒนาตน การพัฒนาคน การพัฒนางาน และการพัฒนาองค์กร ที่ส่งเสริมการมีปฏิสัมพันธ์ ระหว่างปัจจัยความคิด ความเชื่อภายในตน กับปัจจัยสิ่งแวดล้อมในการดำเนินชีวิตและในการทำงาน ผลจากปฏิสัมพันธ์ดังกล่าว ส่งผลให้มีการพัฒนาคุณลักษณะต่าง ๆ เช่น ความมีสติ ความรับผิดชอบ ความอดทน ความซื่อสัตย์ เป็นต้น การตระหนักรู้ถึงคุณค่าของหลักธรรมในพุทธศาสนา รวมทั้งการใช้ปัญญานำหลักธรรมมาต่อยอดบูรณาการปรับใช้ในการบริหารธุรกิจได้สอดคล้องกับจริตของตน ซึ่งเอื้อต่อการใช้ปัญญาในการเผชิญปัญหาและแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค์ จากการศึกษาการบูรณาการหลักธรรมจากประสบการณ์ของพระสงฆ์ผู้นำในสังคมไทยและหลักการบริหารธุรกิจเชิงพุทธบูรณาการของนักบริหารธุรกิจพบว่า รูปแบบกระบวนการสร้างการเปลี่ยนแปลงทางปัญญาเชิงพุทธบูรณาการเพื่อการบริหารธุรกิจในสภาพการณ์เปลี่ยนแปลง หรือ “WISDOM Model” เป็นกรอบความคิดเชิงกระบวนการที่เป็นการมีปฏิสัมพันธ์ของปัจจัยสำคัญ คือ การสร้างความมั่งคั่ง การสร้างความรู้การใช้ปัญญา การสร้างความปลอดภัยและความประหยัด การมีวิสัยทัศน์และการสื่อสารที่ชัดเจน การสร้างโอกาส และการสร้างระบบการบริหารที่เหมาะสม และทันสมัย เป็นรูปแบบที่มีพลวัตแบบเป็นวงกลมที่มีลักษณะปฏิสัมพันธ์ต่อเนื่องระหว่างปัจจัยทางปัญญาส่วนย่อยและการบูรณาการทางปัญญาส่วนรวม ซึ่งการทำความเข้าใจปัจจัยทางปัญญาส่วนย่อยให้พิจารณาที่การบูรณาการทางปัญญาส่วนรวมประกอบ และการทำความเข้าใจการบูรณาการทางปัญญาส่วนรวมให้พิจารณาดูปัจจัยทางปัญญาส่วนย่อยประกอบ และการเปลี่ยนแปลงการบูรณาการทางปัญญาส่วนรวมมีการพัฒนายกระดับเป็นเกลียวที่กว้างขึ้นตามการเรียนรู้และประสบการณ์

Abstract: In this dissertation, three objectives were purposely made: 1) to study the states of problem and the transformative processes of intellect in the business administration, 2) to the study the transformative processes of intellect in the Buddhist business administration, and 3) to propose the Buddhist integrated model of the transformative processes of intellect. In this research, the key informants were classified into two groups: three Thai business men whose contexts of business administration were different but being relevant to the research criterion were included and three Buddhist monks who become the ecclesiastic leaders in the administration of the Sangha organization were also chosen. This is a qualitative research. In the research, it was found that despite the differences in the contexts of business administration the states of problem in the business administration were realized by them through the similar manners. Therefore, they started the business administration through the transformative processes of intellect where their successfulness of business administration is remarkably done through six essential principles: 1) the stakeholders are met with the great amount of required wealth, 2) the staff’s potentiality is enhanced, 3) the safety and economy are built, 4) the clear-cut vision and communication are constructed, 5) the opportunity is quested, and 6) the working systems are appropriately adapted and modernized. In this respect, suffice it to claim that the mentioned transformative processes of intellect come to play the endless crucial roles to the learning process of the business administrators through the contextualized development of oneself, man, work and organization whereby the thought, inner belief, environment of life and work are mutually interrelated. Consequently, various characteristics, mindfulness, responsibility, patience, honesty, for instance, are gradually developed. Such cultivation included the realization of values on the Buddhist principles and the application of wisdom into the business administration based on ones’ inclination which is conducive to the utilization of one’s own wisdom while encountering with the great deals of challenges leading to the creative solution of those problems. As far as the study on the integration of Buddhist principles made by the Buddhist monks who become the ecclesiastic leaders of the Sangha administration in Thai society and the Buddhist integrated principles adopted and applied by business men is concerned, it clearly shows that the Buddhist integrated model of the transformative processes of intellect where the business administration is done in the changing states is named as “WISDOM Model”; basically it means that the aforesaid model is assigned to meet the demand of the essential factors: the creation of wealth, building intellect and utilizing wisdom, providing security and economy, communication, finding an opportunity, the creation of suitable system of administration. Those are considered as the dynamic and circle model where they are continually interrelated wherein the sub-wisdom factor and the Buddhist integrated wisdom are intermingled. In the understanding of the collective Buddhist integrated wisdom one can take the sub-wisdom factor into account and then move to the collective Buddhist integrated transformative processes of intellect by which the development is levelled up through the learning gained from ones’ experiences respectively.

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. สำนักหอสมุดและเทคโนโลยีสารสนเทศ

Address: กรุงเทพมหานคร

Email: library@mcu.ac.th

Name: พระเทพปวรเมธี

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Name: พระสุธีรัตนบัณฑิต

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Created: 2564

Modified: 2566-06-10

Issued: 2566-06-10

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

DegreeName: พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต (พระพุทธศาสนา)

Level: ปริญญาเอก

Descipline: สาขาวิชาพระพุทธศาสนา

Grantor: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

©copyrights มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	อลิศา ริมดุสิต.pdf	8.59 MB	3	2025-02-24 23:14:29

ใช้เวลา

0.029606 วินาที