กระบวนการสื่อสารพุทธธรรมผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ของพระสงฆ์ในสังคมไทย

Name: พระอักขราภิศุทธิ์ ลูนละวัน,

Organization : ผู้วิจัย

keyword: กระบวนการ

; สื่อสาร

; พุทธธรรม

; สังคมออนไลน์

; พระสงฆ์

Abstract: งานวิจัยเรื่อง กระบวนการสื่อสารพุทธธรรมผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ของพระสงฆ์ในสังคมไทย มีวัตถุประสงค์ 3 ข้อประกอบไปด้วย 1. เพื่อศึกษาหลักการสื่อสารพุทธธรรมตามแนวพระพุทธศาสนา 2. เพื่อศึกษารูปแบบการสื่อสารพุทธธรรมผ่านสื่อสังคมออนไลน์ของพระสงฆ์ ในสังคมไทย 3. เพื่อศึกษาวิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน ของกระบวนการสื่อสารพุทธธรรม ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ของพระสงฆ์ ในสังคมไทย หลักการสื่อสารพุทธธรรมตามแนวพระพุทธศาสนาประกอบได้ด้วย 1 การบอกกล่าวหรือชี้แจงสัจจธรรมที่เป็นความจริงอันประเสริฐ คือ อริสัจจ์ 4 ทั้งที่เป็นสมมมุติสัจจะ และ ปรมัตถสัจจะแก่เวไนยสัตว์บุคคลผู้ที่สมควรบรรลุแก่ธรรม ประการที่ 2 การป้องกันและแก้ไขความเข้าใจผิดที่เป็นผลสืบเนื่องจากการที่พระองค์ทรงประกาศพระศาสนาด้วยสัจจะแห่งความเป็นจริง พระองค์ทรงแสดงพระธรรมเทศนาที่เป็นการป้องกันความเข้าใจผิดคลาดเคลื่อน ประการที่ 3 การสำรวจประชามติ ทำให้ทราบถึงการประชาสัมพันธ์ถึงนโยบาย วัตถุประสงค์ การดำเนินงาน และผลงานหรือกิจกรรมต่าง ๆ ตลอดจนความเคลื่อนไหว แก่พระสงฆ์สาวกเป็นประจำทุกวัน รูปแบบการสื่อสารพุทธธรรมผ่านสื่อสังคมออนไลน์ของพระสงฆ์ในสังคมไทย ประกอบไปด้วยรูปแบบสื่อทัศน์ รูปแบบโสต รูปแบบโสตทัศน์ ควรมีองค์ประกอบของรูปแบบการสื่อสารพุทธธรรมคือ เนื้อหาธรรมะถูกต้อง ถูกใจ สมสมัยและได้ประโยชน์สำหรับผู้รับสาร มีการนำเสนอที่ตรงเป้าเข้าใจง่าย ตัวผู้สื่อสาระธรรมจำต้องเป็นผู้รู้ดี มีความชำนาญในการเผยแผ่และรูปแบบต้องมีความเชื่อมโยง และสัมพันธ์และดำเนินตามกระบวนการสื่อสารพุทธธรรม คือ รูปแบบต้องมีเนื้อหาการสื่อสารพุทธธรรมต้องโดดเด่น จุดแข็งของกระบวนการสื่อสารพุทธธรรมผ่านสื่อสังคมออนไลน์ของพระสงฆ์ ในสังคมไทยมีประโยชน์ดังนี้คือ ทำให้เนื้อหาสารเผยแพร่ไปทั่วโลก ดีกว่ามาจัดสัมมนาในห้องใดห้องหนึ่งในวงแคบแต่ถ้ากระจายไปในสื่อจะแพร่กระจายกว้างขวางไปหมด เป็นประโยชน์ คือการเสวนาในเรื่องที่เป็นประโยชน์ เหมือนกับ ในเฟซบุ๊ค, ยูทูป, เว็บไชต์ มีผู้สนใจ และตั้งกระทู้ถามกันเป็นจำนวนมาก ถ้าเป็นจุดอ่อนคือ ไม่เหมือนอยู่กับเผชิญหน้ากันแบบสดๆ บรรยายกันแบบสดๆ อารมณ์ร่วมจะแรงกว่าถ้ำาอารมณ์ร่วมแรงจะได้รับประโยชน์มากกว่า เราไปทำแบบนั้นมันก็จะได้เฉพาะคนที่สนใจจริงๆ คนที่ไม่สนใจก็จะไม่เกิดประโยชน์ นี่ก็คือเป็นจุดด้อยในการห่างหูห่างตาผู้บรรยาย ผู้บรรยายไม่ได้สังเกตว่า มีใครนั่งฟังอยู่บ้าง ถ้าสังเกตอยู่ก็คล้องจูงใจ จูงอารมณ์เต็มๆได้ เพราะมันเห็นกันจะๆ อารมณ์ร่วมมันแรงมันสูง ถึงแม้ว่าจะมีจำนวนน้อย สู้ทางออนไลน์ไม่ได้

Abstract: This research aims1) to study the models of Buddha-dhamma comn munication via the online social media of the monks in Thai society, 2) to study the procedures of the communication and 3) to analyse the strengths and weaknesses of the said communication. The communication of Buddhadhamma according to Buddhist principles is composed of: Teaching and explaining the highest principles of truth, namely, the Four Noble Truths, both on the levels of relative truth and absolute truth, to people who are capable of hearing and understanding the dhamma; Preventing errors and correcting misunderstanding, arising from the fact that Lord Buddha proclaimed the true dhamma, and guarded against incorrect or erroneous interpretation in his discourses; Asking people's opinion, in order to gain information about policies, objectives, administration and various work or activities, including daily movements, for monks and disciples. The models of the Buddha-dhamma communication through the onlinesocial media of the monks in Thai society in forms of visual, and audio materials should be the Buddha-dhamma essentials which are correct, favorable, up to date, beneficial, easy to understand with suitable presentation for the receivers. The dhamma messengers should have good knowledge, and be skillful in disseminating the Buddha teachings. The presentation models should be interconnected with the Buddha-dhamma communicative procedures with clear and outstanding intention and pleasure including the true Buddha-dhamma contents. The strengths of the Buddha-dhamma on line communicative procedures of the monks in Thai society are beneficial in terms of disseminating the presented issues world wide which are better than organizing the seminars with the specific topics in a certain places as usual. In contrast, if these have been conducted as in some social media, e.g. Facebook, Youtube, or Websites, the presented issues will spread worldwide and those interested can join these programmes by asking questions or giving ideas or opinions or voicing concerns over those issues. However, some weaknesses still exist in forms of without real life programmes or face-to-face discussions which can cause stronger momentum than those of social media and get more benefits. Besides, these benefits will not be for those who are not interested in what presented except for only those interested. These are the weaknesses of using only the social media which are very far away from the transmitters who do not know the number of the receivers and those who are listening at that moment. If the presenters at that time notice what are going on, they can motivate and persuade the listeners to accept what they hear because they see and hear by their very own eyes and ears, thus high momentum exist, although, the number of listeners are less than those of the social media.

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. ส่วนหอสมุดกลาง

Address: พระนครศรีอยุธยา

Email: library@mcu.ac.th

Name: ได้รับทุนอุดหนุนการวิจัยจากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย MCU RS 610760050

Role: ผู้ให้ทุน

Created: 2560

Modified: 2566-05-15

Issued: 2566-05-15

งานวิจัย/Research report

application/pdf

tha

©copyrights มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	2560-050 พระอักขราภิศุทธิ์ สิริวฑฺฒโน.pdf	3.26 MB	7	2025-05-29 16:00:44

ใช้เวลา

0.020335 วินาที