แจ้งเอกสารไม่ครบถ้วน, ไม่ตรงกับชื่อเรื่อง หรือมีข้อผิดพลาดเกี่ยวกับเอกสาร ติดต่อที่นี่ ==>
หากไม่มีอีเมลผู้รับให้กรอก thailis-noc@uni.net.th ติดต่อเจ้าหน้าที่เจ้าของเอกสาร กรณีเอกสารไม่ครบหรือไม่ตรง

การพัฒนาสันตินวัตกรรมการเสริมสร้างพลังเมตตากรุณาของบุคลากรแพทย์

Organization : ผู้วิจัย
keyword: สันตินวัตกรรม
; เสริมสร้างพลังเมตตา
; บุคลากรแพทย์
Abstract: งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อวิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเสริมสร้างพลังเมตตากรุณาของบุคลากรแพทย์ตามแนวคิดการพัฒนาความกรุณาในตนเองของ Neff และตามวิถีปฏิบัติหมู่บ้านพลัม 2) เพื่อศึกษากระบวนการเสริมสร้างพลังความเมตตากรุณาตามแนวพระพุทธศาสนาเถรวาท 3) เพื่อสร้างและนำเสนอสันตินวัตกรรมการเสริมสร้างพลังเมตตากรุณาของบุคลากรแพทย์ ใช้รูปแบบการวิจัยแบบผสานวิธี ออกแบบทำการทดลองขั้นต้น เครื่องมือวิจัย แบบสัมภาษณ์เชิงลึก แบบวัดเมตตากรุณา ชุดฝึกอบรมโดยมีกลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญจำนวน 6 ท่าน และกลุ่มตัวอย่างทำการทดลองเป็นบุคลากรแพทย์จำนวน 12 ท่าน ทำการทดสอบก่อนและหลังการทดลอง วิเคราะห์สถิติค่าที (t-test) ผลการวิจัยพบว่า 1) ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเสริมสร้างพลังเมตตากรุณาของบุคลากรแพทย์ตามแนวคิดการพัฒนาความกรุณาในตนเองของ Neff และตามวิถีปฏิบัติหมู่บ้านพลัม ได้แก่ 1. ปัจจัยส่วนตน ได้แก่ ความพร้อมทางร่างกาย 2. ปัจจัยทางสังคม ได้แก่ ภาระหน้าที่ต่าง ๆ และ 3. ความสามารถในการรับมือกับอารมณ์ความรู้สึก ปัจจัยที่ส่งผลต่อความเมตตากรุณาของบุคลากรแพทย์ ได้แก่ สติ การฝึกสติตามวิถีหมู่บ้านพลัมมีความแตกต่างไปจาก Neff เล็กน้อย โดยการฝึกสติตามแนวคิดของ Neff จะเน้นในระดับที่เชื่อมโยงกับความเป็นมนุษย์ ในขณะที่แนวคิดหมู่บ้านพลัมจะฝึกจิตให้มีความเคยชินกับการตระหนักรู้เท่าทันในปัจจุบันขณะเชื่อมโยงทั้งในระดับความเป็นมนุษย์และเชื่อมโยงกับสรรพสิ่งรอบตัว 2) กระบวนการเสริมสร้างพลังความเมตตากรุณาตามแนวพระพุทธศาสนาเถรวาทมีหลักธรรมที่เสริมสร้างเมตตากรุณา คือ 1. สติ 2.ปรโตโฆสะ 3. โยนิโสมนสิการ 4. ไตรสิกขา และ 5. สังคหวัตถุ 4 อธิบายเชื่อมโยงกันได้ว่า การใช้หลักไตรสิกขาอันประกอบด้วย ศีล สมาธิ ปัญญา เป็นพื้นฐานและขับเคลื่อนกระบวนการเรียนรู้ด้วย สติในการทำกิจกรรมต่าง ๆ มีการใช้สื่อการสอนและการให้คำแนะนำแบบปรโตโฆสะที่เป็นจริง มีเหตุผล มีประโยชน์ต่อผู้อื่น และเร้าให้เกิดโยนิโสมนสิการ คือ การใส่ใจอันเหมาะสมจนมีการเรียนรู้และรับรู้อารมณ์ที่ช่วยให้ตนเองเกิดสัมมาทิฏฐิ 3) การสร้างหลักสูตรการฝึกอบรมแบบออนไลน์ โดยวางกรอบการจัดองค์ประกอบของหลักสูตรเพื่อให้เข้ากับกลุ่มผู้อบรม คำนึงถึงเรื่องของ ระยะเวลา การเตรียมความพร้อม และการจัดกิจกรรมที่เหมาะสม ขับเคลื่อนให้เกิดผลสัมฤทธิ์ด้วยการฝึกปฏิบัติร่วมกันควบคู่กับการฝึกปฏิบัติด้วยตนเอง หลักสูตรเป็นแบบออนไลน์ประกอบด้วยภาคอบรมและปฏิบัติ มีระยะเวลาอบรม 7 วัน แบ่งเป็น 4 Module คือ Module 1 กิจกรรมส่งเสริมสติและการมองอย่างลึกซึ้ง Module 2 กิจกรรมการสนทนาด้วยวาจาแห่งรัก และการรับฟังอย่างลึกซึ้ง Module 3 เสริมสร้างให้เกิดความสุขภายในตนเอง Module 4 กิจกรรมส่งเสริมให้เล็งเห็นถึงความไม่แบ่งแยกในตนเองและผู้อื่น กลุ่มตัวอย่างบุคลากรแพทย์จำนวน 12 ท่าน พบว่าภายหลังการอบรม ผู้เข้าอบรมมีคะแนนระดับความเมตตา คะแนนระดับความกรุณาต่อตนเองมากกว่าก่อนการอบรมอย่างมีนัยสำคัญ (P<0.05) รวมถึงคะแนนของการมีสติหลังอบรมมากกว่าก่อนอบรมอย่างมีนัยสำคัญด้วย สอดคล้องกับผลวิเคราะห์เชิงคุณภาพ ที่ได้จากการสังเกตการณ์และเสียงสะท้อนจากผู้เข้าร่วมอบรม ทำให้เห็นได้ว่าการจัดกิจกรรมหลักสูตรแบบออนไลน์นี้ สามารถเสริมสร้างพลังเมตตากรุณาในบุคลากรแพทย์ได้ และทำให้ได้รูปแบบการจัดหลักสูตรออนไลน์ที่เรียกว่าดอกไม้แห่งเมตตากรุณา “the CHRYSANTHEMUM+ Model” มีองค์ประกอบย่อย ได้แก่ C : Community practice คือการฝึกปฏิบัติด้วยกันเป็นชุมชน H : Hearing deeply คือการฟังอย่างลึกซึ้ง R : self-Reflection คือการสะท้อนความรู้สึกภายในตนเอง Y : Yonisomanasikara คือ โยนิโสมนสิการ S : Sangha building คือการสร้างสังฆะหรือการสร้างชุมชนผู้ปฏิบัติ A : Assemble คือ การเตรียมพร้อมก่อนอบรม N : Non-community practice คือการฝึกปฏิบัติด้วยตนเอง T : Total relaxation คือ การผ่อนคลายอย่างสมบูรณ์ ทั้งกายใจ H : Heart-to-heart communication คือการสื่อสารจากใจด้วยรักเมตตา E : Education material คือ สื่อในการอบรม M : Mindfulness bell คือการสร้างสรรค์ระฆังแห่งสติ U : right-Understanding คือ ความเข้าใจที่ถูกต้อง และ M : Mindfulness คือ สติซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญ ของกิจกรรมทั้งหมด และ + (plus) คือ ไตรสิกขา ซึ่งประกอบด้วย ศีล สมาธิ และปัญญา เป็นฐานในการขับเคลื่อนกระบวนการเรียนรู้ด้วยสติ
Abstract: The study consisted of the following objectives: 1) to analyze the factors influencing the empowerment of Mettā and Karuṇā of medical personnel in accordance with Dr. Kristin Neff's concept of self-compassion and Plum Village practices; 2) to investigate the process for empowering Mettā and Karuṇā according to Theravada Buddhism; and 3) to create and propose the peace innovation for empowering Mettā and Karuṇā of medical personnel. The study employed a mixed-method approach with Pre-experimental design. The research tools included in-depth interview form, the test measuring the level of Mettā and Karuṇā, and the training package. The key informants included six key informants and a sample group of twelve medical personnel who completed the pretest and posttest. The t-test was used as a statistic. From the study, the following results are found: 1) From analyzing the factors influencing the empowerment of Mettā and Karuṇā of medical personnel in accordance with Dr. Kristin Neff's concept of self-compassion and Plum Village practices, it is discovered as follows: (1) Personal factor which is physical readiness; (2) Social factor which entails a variety of responsibilities; and (3) The ability to deal with emotions and feelings. Factor influencing Mettā and Karuṇā of medical personnel includes mindfulness. Plum Village's concept of mindfulness differs slightly from Neff's in that Neff's concept emphasizes mindfulness in relation to humanness, whereas Plum Village emphasizes the mind becoming acquainted with having awareness of the present in relation to humanness, including all things around it. 2) The process for empowering Mettā and Karuṇā according to Theravada Buddhism includes: (1) Sāti (mindfulness); (2) Paratoghosa (hearing or learning from others); (3) Yonisomanarikāra (thorough attention); (4) Trisikkhā (the Threefold Training); and (5) Saṅgahavatthu (bases of social solidarity). The use of Trisikkhā, which consists of morality, concentration, and wisdom, as the foundation for mobilizing the learning process with mindfulness in various activities. There is the use of learning media and the provision of true, rational, and useful advice based on Paratoghosa to others. With this, one will be able to have Yonisomanarikāra, or thorough attention for learning and acknowledging emotions, which will eventually lead to Sammādiṭṭhi (Right View). 3) The development of an online training program, with its elements laid out in order to suit the participants in terms of duration, preparedness, and appropriate activities. The online program lasts seven days and includes both theoretical and practical sessions. The module is divided into four sections, as follows: (1) Activity to promote mindfulness and looking deeply; (2) Conversational activity involving compassionate speech and deeply listening; (3) Activity to promote happiness within oneself; and (4) Activity to promote non-discrimination for oneself and others. The study discovered that a group sample of 12 medical personnel who participate in the course have a posttest score of Mettā and Karuṇā that is higher than the pretest with a statistical significance of 0.05 level. The posttest score of having mindfulness is statistically significant higher than the pretest. These qualitative results are consistent with the findings of the qualitative analysis based on participant observation and feedback. This demonstrates that organizing this online course can empower Mettā and Karuṇā of medical personnel, resulting in a model of online course known as “CHRYSANTHEMUM Model” comprising: “C” stands for Community practice; “H” stands for Hearing or listening deeply; “R” stands for self-Reflection; “Y” stands for Yonisomanarikāra; “S” stands for Sangha which is building a community of practitioners; “A” stands for Assemble before the training course; “N” stands for Non-community practice which is the self-practice; “T” stands for Total relaxation physically and mentally; “H” stands for Heart-to-heart communication; “E” stands for Educational material; “M” stands for Mindfulness bell; “U” stands for right Understanding; and “M” stands for Mindfulness which is the significant foundation of all activities. And “+” stands for Trisikkhā, which consists of morality, concentration, and wisdom, as the foundation for mobilizing the learning process with mindfulness.
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. ส่วนหอสมุดกลาง
Address: พระนครศรีอยุธยา
Email: library@mcu.ac.th
Role: อาจารย์ที่ปรึกษา
Role: อาจารย์ที่ปรึกษา
Created: 2565
Modified: 2023-06-11
Issued: 2566-05-08
วิทยานิพนธ์/Thesis
application/pdf
tha
©copyrights มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
RightsAccess:
ลำดับที่.ชื่อแฟ้มข้อมูล ขนาดแฟ้มข้อมูลจำนวนเข้าถึง วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1 bCCvgjs7FALad2MTzqE8lIfHoO2LjsMdwSx935Me.pdf 6.93 MB6 2025-03-25 10:24:14
ใช้เวลา
0.032462 วินาที

พ.ต.อ.หญิง บุณฑริกา สุวรรณเวโช
Title Contributor Type
การพัฒนาสันตินวัตกรรมการเสริมสร้างพลังเมตตากรุณาของบุคลากรแพทย์
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
พ.ต.อ.หญิง บุณฑริกา สุวรรณเวโช
ผศ. ดร.ขันทอง วัฒนะประดิษฐ์
พระมหาวีระศักดิ์ อภินนฺทเวที, ดร.
วิทยานิพนธ์/Thesis
ผศ. ดร.ขันทอง วัฒนะประดิษฐ์
Title Creator Type and Date Create
กระบวนการพัฒนายุววิศวกรสันติภาพในสถานศึกษา
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ผศ. ดร.ขันทอง วัฒนะประดิษฐ์;พระมหาดวงเด่น ฐิตญาโณ, ผศ. ดร.
ทัศนี ช้อยกิตติพันธ์
วิทยานิพนธ์/Thesis
กระบวนการสันตินวัตกรรมการสื่อสารที่เสริมพลังอำนาจผู้นำวิถีชีวิตใหม่
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ผศ. ดร.ขันทอง วัฒนะประดิษฐ์ ;พระปราโมทย์ วาทโกวิโท, ดร.
สุนีย์ สว่างศรี
วิทยานิพนธ์/Thesis
กระบวนการสร้างศรัทธาของชาวพุทธรุ่นใหม่ ด้วยการท่องเที่ยวแบบสันตินวัตวิถี
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ผศ. ดร.ขันทอง วัฒนะประดิษฐ์;พระครูปลัดอดิศักดิ์ วชิรปญฺโญ, ดร.
พระมหาไท อิสฺสรธมฺโม (ธรรมกิจ)
วิทยานิพนธ์/Thesis
กระบวนการมีส่วนร่วมของพลัง “บวร” ตามหลักพุทธสันติวิธี ในการพัฒนาวัดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยววิถีพุทธ
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ผศ. ดร.ขันทอง วัฒนะประดิษฐ์;พระครูปลัดอดิศักดิ์ วชิรปญฺโญ, ดร.
สิตา จุลวานิช
วิทยานิพนธ์/Thesis
ยุทธศาสตร์การพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร โดยสันตินวัตกรรม บนพื้นที่ลุ่มน้ำตำบลสวาย อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ผศ. ดร.ขันทอง วัฒนะประดิษฐ์;พระครูปลัดอดิศักดิ์ วชิรปญฺโญ, ดร.
พรมงคล ชิดชอบ
วิทยานิพนธ์/Thesis
การพัฒนาสันตินวัตกรรมการเสริมสร้างพลังเมตตากรุณาของบุคลากรแพทย์
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ผศ. ดร.ขันทอง วัฒนะประดิษฐ์;พระมหาวีระศักดิ์ อภินนฺทเวที, ดร.
พ.ต.อ.หญิง บุณฑริกา สุวรรณเวโช
วิทยานิพนธ์/Thesis
การเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนโดยสันติวัฒนธรรม ของชาติพันธุ์ไทเดิ้งในจังหวัดนครราชสีมา
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ผศ. ดร.ขันทอง วัฒนะประดิษฐ์;พระครูปลัดอดิศักดิ์ วชิรปญฺโญ, ดร.
พระมหาณัฏฐ์ สติเวปุลฺโล (รัตนโชติ)
วิทยานิพนธ์/Thesis
กระบวนการพัฒนาการดำเนินชีวิตคู่เพื่อความสุขอย่างยั่งยืนโดยพุทธสันติวิธี
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
พระมหาหรรษา ธมฺมหาโส, ศ. ดร.;ผศ. ดร.ขันทอง วัฒนะประดิษฐ์
ชูจิต พันธุมจินดา
วิทยานิพนธ์/Thesis
สันตินวัตกรรมการสร้างเสริมวัฒนธรรมแห่งความสุขของบุคลากร กระทรวงสาธารณสุข
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ผศ. ดร.ขันทอง วัฒนะประดิษฐ์;พระปราโมทย์ วาทโกวิโท, ดร.
ลินลา ตุ๊เอี้ยง
วิทยานิพนธ์/Thesis
คุณลักษณะของผู้ไกล่เกลี่ยเชิงพุทธบูรณาการ: ศึกษากรณี ศาลอุทธรณ์ภาค 7
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
พระมหาดวงเด่น ฐิตญาโณ, ผศ. ดร.;พระมหาหรรษา ธมฺมหาโส, รศ. ดร.; ผศ. ดร.ขันทอง วัฒนะประดิษฐ์
ณัทพล ชินกุลกิจนิวัฒน์
วิทยานิพนธ์/Thesis
พระมหาวีระศักดิ์ อภินนฺทเวที, ดร.
Title Creator Type and Date Create
รูปแบบการสื่อสารของพยาบาล โรงพยาบาลเลิดสิน โดยพุทธสันติวิธี
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
พระมหาวีระศักดิ์ อภินนฺทเวที, ดร.; พระครูปลัดปัญญาวรวัฒน์, ศ. ดร.
สุรางค์ ตันติวิญญูพงศ์
วิทยานิพนธ์/Thesis
การพัฒนาสันตินวัตกรรมการเสริมสร้างพลังเมตตากรุณาของบุคลากรแพทย์
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ผศ. ดร.ขันทอง วัฒนะประดิษฐ์;พระมหาวีระศักดิ์ อภินนฺทเวที, ดร.
พ.ต.อ.หญิง บุณฑริกา สุวรรณเวโช
วิทยานิพนธ์/Thesis
การพัฒนาสมรรถนะและทักษะแรงงานภาคเอกชนในเขตเศรษฐกิจพิเศษมุกดาหารโดยหลักสันติวิธี
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
พระมหาวีระศักดิ์ อภินนฺทเวที, ดร. ; พระมหาหรรษา ธมฺมหาโส, ศ. ดร.
ณัฐพล จารัตน์
วิทยานิพนธ์/Thesis
รูปแบบเกษตรอินทรีย์วิถีโคกหนองนาโมเดล: กรณีศึกษารูปแบบชุมชนสันติสุขของบ้านถ้ำโกบ ตำบลหน้าเขา อำเภอเขาพนม จังหวัดกระบี่
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
พระมหาวีระศักดิ์ อภินนฺทเวที, ดร.;พระครูปลัดอดิศักดิ์ วชิรปญฺโญ, ดร.
พระปลัดสำราญ ฐานธมฺโม
วิทยานิพนธ์/Thesis
Copyright 2000 - 2025 ThaiLIS Digital Collection Working Group. All rights reserved.
ThaiLIS is Thailand Library Integrated System
สนับสนุนโดย สำนักงานบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อพัฒนาการศึกษา
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
328 ถ.ศรีอยุธยา แขวง ทุ่งพญาไท เขต ราชเทวี กรุงเทพ 10400 โทร. โทร. 02-232-4000
กำลัง ออน์ไลน์
ภายในเครือข่าย ThaiLIS จำนวน 3
ภายนอกเครือข่าย ThaiLIS จำนวน 10,011
รวม 10,014 คน

More info..
นอก ThaiLIS = 29,988 ครั้ง
มหาวิทยาลัยสังกัดทบวงเดิม = 2 ครั้ง
มหาวิทยาลัยราชภัฏ = 2 ครั้ง
รวม 29,992 ครั้ง
Database server :
Version 2.5 Last update 1-06-2018
Power By SUSE PHP MySQL IndexData Mambo Bootstrap
มีปัญหาในการใช้งานติดต่อผ่านระบบ UniNetHelp


Server : 8.199.134
Client : Not ThaiLIS Member
From IP : 216.73.216.104