การประยุกต์ใช้หลักเบญจศีลเพื่อสงเสริมการอยู่ร่วมกันอย่างสันติของกลุ่มชาติพันธุ์ในภาคตะวันตก

Name: พระมหาเกรียงศักดิ์ ภูริวฑฺฒโก

Organization : ผู้วิจัย

keyword: การประยุกต์ใช์

; หลักเบญจศีล

; การอยู่ร่วมกันอย่างสันติ

; กลุ่มชาติพันธุ์

; ภาคตะวันตก

Abstract: การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาการนำหลักเบญจศีลไปใช้ในวิถีชีวิตประจำวันของกลุ่มชาติพันธุ์ในภาคตะวันตก และ (2) วิเคราะห์ตัวแบบการประยุกต์ใช้หลักเบญจศีลเพื่อส่งเสริมการอยู่ร่วมกันอย่างสันติของกลุ่มชาติพันธุ์ในภาคตะวันตก การวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ มีการสัมภาษณ์เชิงลึกผู้ให้ข้อมูลสำคัญ ประกอบด้วย หัวหน้าหน่วยงานราชการ ผู้นำชุมชน และปราชญ์ชาวบ้านในพื้นที่ภาคตะวันตกของประเทศไทย ตามลักษณะการเป็นตัวแทนของกลุ่มที่เหมาะสม จาก วิธีการสุ่มแบบเจาะจง จำนวน 8 ท่าน วิเคราะห์ข้อมูลที่ได้ด้วยวิธีการวิเคราะห์เนื้อหาโดยพยายามรักษาสำนวนเดิมไว้ และการสนทนากลุ่มเฉพาะร่วมกับผู้ทรงคุณวุฒิประกอบด้วย หัวหน้าหน่วยงานราชการ ผู้นำชุมชน และนักวิชาการด้านศาสนา ตามลักษณะการเป็นตัวแทนของกลุ่มที่เหมาะสม จากวิธีการสุ่มแบบเจาะจง จำนวน ๘ ท่าน วิเคราะห์ข้อมูลที่ได้ด้วยการวิเคราะห์เนื้อหาเชิงพรรณนา ผลการวิจัยพบว่า 1. การนำหลักเบญจศีลไปใช้ในวิถีชีวิตประจำวันของกลุ่มชาติพันธุ์ในภาคตะวันตก พบว่า (1) ด้านหลักประกันชีวิต พบว่า มีการส่งเสริมกิจกรรมจิตสาธารณะ, มีการส่งเสริมการดำเนินกิจกรรมสร้างความปรองดองสามัคคีอย่างต่อเนื่อง, มีการส่งเสริมกระบวนการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายในการสนับสนุนการดำเนินงานตามโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5, มีการส่งเสริมการให้ตามหลักอภัยทาน, มีการส่งเสริมกิจกรรมดันแบบชุมชนอยู่ดีมีสุขสามัคคี, มีการส่งเสริมการจัดตั้งกองทุนพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ยากไร้หรือผู้ด้อยโอกาส (2) ด้านหลักประกันทรัพย์สิน พบว่า มีการส่งเสริมการดำเนินชีวิตตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ระดับบุคคล ครอบครัว ชุมชน และสังคม โดยต่อเนื่องถึงกัน, มีการรณรงค์ให้คนในชุมชนฝ้าระวังภัยที่อาจเกิดขึ้นโดยช่วยกันสอดส่องดูแลความปลอดภัยของทรัพย์สินซึ่งกันและกัน, หน่วยงานภาครัฐจะต้องเป็นฝ่ายส่งเสริมสนับสนุนการดำเนินงานตามโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ อย่างต่อเนื่อง, มีการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจระดับครัวเรือนในเรื่องของการเกษตรและงานอาชีพเสริม, มีการสนับสนุนการจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมความสามัคคีโดยประสานความร่วมมือกับหน่วยงานราชการ สถานศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นองค์กรภาคเอกชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และภาคประชาสังคมในพื้นที่ (3) ด้านหลักประกันครอบครัวพบว่า มีการประพฤติตนของผู้นำครอบครัวให้เป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่สมาชิกในครอบครัว, มีการสร้างภูมิคุ้มกันครอบครัวอบอุ่น, มีการส่งเสริมกระบวนการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคมร่วมกันของสมาซิกในครอบครัว, มีการเฝ้าระวังและสร้างภูมิคุ้มกันสังคมอยู่เย็นเป็นสุขตามแนววิถีพุทธ, ภาครัฐเป็นหน่วยสนับสนุนการดำเนินงานตามโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ อย่างต่อเนื่อง, มีสนับสนุนการจัดประกวดครอบครัวรักษาศีล 5 ร้อยเปอร์เซ็นต์เพื่อยกย่องให้เป็นรูปธรรมทางสังคม (4) ด้านหลักประกันสังคม พบว่า มีการสร้างสิ่งแวดล้อมที่เป็นคุณทางสังคม, มีการจัดกิจกรรมทางสังคมระดับชุมชนที่ส่งเสริมความสามัคคีและการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข, มีการส่งเสริมวิธีการคิดวิเคราะห์ในการใช้คำพูดในเชิงบวก และ (5) ด้านหลักประกันสุขภาพ พบว่า มีการสร้างหลักประกันสุขภาพในครอบครัวโดยมีต้นแบบความประพฤติที่ดีเป็นฐาน, มีการรณรงค์การทำกิจกรรมทางสังคมที่ส่งเสริมให้ชุมชนปลอดอบายมุขและยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง, มีการรณรงค์การปลูกฝังให้เด็กและเยาวชนตระหนักและเห็นโทษและพิษภัยของยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง, มีการจัดตั้งชมรมครอบครัวรักษาสุขภาวะและภูมิคุ้มกันภัยยาเสพติด 2. ตัวแบบการประยุกต์ใช้หลักเบญจศีลเพื่อส่งเสริมการอยู่ร่วมกันอย่างสันติของกลุ่มชาติพันธุ์ในภาคตะวันตก พบว่า ต้นแบบการประยุกต์ใช้หลักเบญจศีลเพื่อส่งเสริมการอยู่ร่วมกันอย่างสันติของกลุ่มชาติพันธุ์ ส่งเสริมสร้างความปรองดองสามัคคีอย่างต่อเนื่องด้วยกิจกรรมจิตสาธารณะต่าง ๆ ด้วยเหตุที่ปัจจุบันทุกภาคส่วนต่างร่วมมือกัน ขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยเน้นกระบวนการมีส่วนร่วมของ 3 ประสาน หรือ บ-ว-ร คือ บ้าน ได้แก่ สถาบันครอบครัว, วัด ได้แก่ สถาบันพระพุทธศาสนา และราชการ/โรงเรียน ได้แก่ สถาบันทางการปกครอง และสถาบัน การศึกษา จึงมีการรวมมือกันเป็นเครือข่าย ชื่อ "เครือข่ายสุจริตชนวิถีพุทธ" ที่ดำเนินกิจกรรมทางสังคมโดยใช้โครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 เป็นฐาน โดยมีกิจกรรมหลัก ๆ ที่ชัดเจน เช่นการดำเนินการเพื่อส่งเสริมปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ส่งเสริมสุขภาวะชุมชน ส่งเสริมกิจกรรมจิตสาธารณะ เป็นต้น

Abstract: The purposes of this research were (1) to study the application of the Panca-sila or the Five Precepts in the daily life of ethnic groups in the Western, and (2) to analyze the model of the application of the Panca-sila or the Five Precepts to encourage the peaceful coexistence of ethnic groups in the Western. This research was a qualitative research using In-depth interview with 8 key informants included government heads, community leaders and village scholars in western area of Thailand according to the characteristics of the appropriate group representation from a specific randomization method then analyzed the data obtained by means of content analysis and trying to keep the original and using a group discussion with 8 qualified persons including heads of government agencies, community leaders and religious scholars from the random sampling, the data obtained by analyzing descriptive content. The findings of this research were following; 1. The application of the Panca-sila or the Five Precepts in the daily life of ethnic groups in the Western found that (1 ) in term of life insurance, the public spiritual activities were encouraged, activities were continuously promoted to create reconciliation, and the participation process of all stakeholders was promoted in supporting the implementation of the Five Precepts Village Project, encouraging of giving according to the principle of forgiveness, encouraging of community-based activities, well-being and harmony, the encouraging of the establishment of a fund for the development of the poor or the disadvantaged, (2 ) property insurance, the Sufficiency Economy Philosophy was continuously promoted from individual, family, community and society level continuously to each other, there was a campaign for people in the community to be aware of potential dangers by helping to look after the safety of each other's assets, the government agencies must continually promoted and supported the implementation of the Five Precepts Village Project, there was a promotion of economic development at the household level in terms of agriculture and supplementary work, there was a support to organize activities that promoted unity through cooperation with government agencies, educational institutions, local government organizations, private organizations, village leaders and civil society organizations in the area, (3) in term of family insurance, family leaders conducted themselves as role models for family members, have a warm family immunity, encouraged the participation in social activities among family members, there was a constant monitoring and building of social immunity in accordance with the Buddhist way of life, the government sector was the support unit for the implementation of the Five Precepts Village Project continuously and had 100 percent support in organizing the contest of this project in order to honor the family into factual society, (4) in term of social insurance, a socially positive environment was built, community-level social activities were organized that encouraged harmony and peaceful coexistence, a critical thinking method in the use of positive words was encouraged, and (5) in term of health insurance, it was found that the family health insurance was created based on the good behavior model, and there was a continuous campaign of social activities promoting the community free of corruptions and drugs, there was a campaign to continuously teach children and youth to be aware of dangers of drugs, and established a family club for the treatment of health and immunity to drugs. 2. The model of the application of the Panca-sila or the Five Precepts to encourage the peaceful coexistence of ethnic groups in the Waste found that there was continuous promotion of reconciliation through various public spiritual activities due to the fact that at present all sectors were working together and driving the Five Precepts Village Project according to the 20-year National Strategy by emphasizing on the participation process of 3 coordination or Pavaraprinciple (Families-Temples-Government/Schools), family institute, Buddhist institute and administrative institutions and educational institutions were coordinated as network called " Good conduct in Buddhist way network" which conducted social activities using the Five Precepts Village Project as a base, with clear main activities such as the implementation of the Sufficiency Economy Philosophy, promoted community health and public mental activities, etc.

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. ส่วนหอสมุดกลาง

Address: พระนครศรีอยุธยา

Email: library@mcu.ac.th

Name: ได้รับทุนอุดหนุนการวิจัยจากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย MCU RS 610761359

Role: ผู้ให้ทุน

Created: 2561

Modified: 2566-05-10

Issued: 2566-05-08

งานวิจัย/Research report

application/pdf

tha

©copyrights มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	2561-359พระมหาเกรียงศักดิ์ ภูริวฑฺฒโก.pdf	2.52 MB	3	2024-01-30 22:58:41

ใช้เวลา

0.017805 วินาที