ศึกษารูปแบบการจัดการเรียนการสอนรายวิชาหน้าที่พลเมือง ตามแนวโยนิโสมนสิการ: กรณีศึกษาโรงเรียนสามัคคีวิทยา ลำนารายณ์ จังหวัดลพบุรี

Name: พระครูปลัดธนผล ญาณวฑฺฒโน (แซ่หล่อ)

Organization : ผู้วิจัย

keyword: รายวิชาหน้าที่พลเมือง

; โยนิโสมนสิการ

Abstract: การวิจัยเรื่อง “ศึกษารูปแบบการจัดการเรียนการสอนรายวิชาหน้าที่พลเมือง ตามแนวโยนิโสมนสิการ: กรณีศึกษาโรงเรียนสามัคคีวิทยา ลำนารายณ์ จังหวัดลพบุรี” การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลองแบบกลุ่มเดียวที่มีการทดสอบก่อน – หลังเรียน (One Group Pretest - Posttest Design) มีวัตถุประสงค์ของการวิจัย ประกอบด้วย 1) เพื่อศึกษาการสอนแบบโยนิโสมนสิการ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนสามัคคีวิทยา ลำนารายณ์ จังหวัดลพบุรี 2) เพื่อเปรียบเทียบการสอนแบบโยนิโสมนสิการ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนสามัคคีวิทยา ลำนารายณ์ จังหวัดลพบุรี ก่อนเรียนและหลังเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียน ด้วยสาระการเรียนรู้ หน้าที่พลเมือง ศีลธรรม กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาเรื่องนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 2/1 โรงเรียนสามัคคีวิทยา ลำนารายณ์ จังหวัดลพบุรี จำนวน 35 คน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบทดสอบก่อนเรียน และหลังเรียน โดยใช้วิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Selection) เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบทดสอบ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์วิเคราะห์สถิติสำเร็จรูป ในการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ค่าเฉลี่ย (Mean) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) และสถิติเชิงอนุมาน คือ การเปรียบเทียบคะแนนทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน โดยการวิเคราะห์ความแตกต่างของกลุ่มตัวอย่าง (Paired Sample t-test) ผลการวิจัยพบว่า การสอนตามแนวโยนิโสมนสิการ ด้วยการสร้างเจตคติที่ดีต่อผู้เรียนจัดบรรยากาศให้เหมาะสม สร้างความสัมพันธ์ที่ดีและเสนอสิ่งเร้าเพื่อให้ผู้เรียนฝึกการรวบรวมข้อมูล ข้อเท็จจริง ความรู้ทักษะกระบวนการ ฝึกคิดแบบหาเหตุปัจจัย ค้นหาองค์ประกอบที่ทำให้เกิดผลสรุป และประเมินผลร่วมกันของผู้เรียนและครูการเรียนรู้ของผู้เรียนแต่ละกลุ่มมีการเรียนรู้ร่วมกันภายในกลุ่ม สามารถค้นหาข้อมูลหาเหตุผลข้อสรุปในเรื่องที่ได้รับมอบหมาย สามารถนำเสนอเนื้อหาเพื่อให้กลุ่มอื่นได้เรียนรู้ ตอบข้อซักถามและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ทำให้เกิดการเรียนรู้ในสาระได้ดี ผู้เรียนส่วนใหญ่สามารถเรียนรู้อย่างมีเหตุผลตามแนวโยนิโสมนสิการได้ดีมากกว่าร้อยละ 80 นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง หลักธรรมในการอยู่ร่วมกันของพระพุทธศาสนา คะแนนเฉลี่ย ก่อนเรียน 3.75 คะแนนเฉลี่ยหลังเรียน6.75 ค่า t - 16.43 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง หลักธรรมในการอยู่ร่วมกันของศาสนาอื่น ๆ คะแนนเฉลี่ยก่อนเรียน 4.25 คะแนนเฉลี่ยหลังเรียน 7.31 ค่า t - 15.87 มีคะแนนหลังเรียนสูงกว่าคะแนนก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ณ ระดับ .01

Abstract: The study entitled “A Study on the Model of Teaching and Learning Management in Civic Duty Subject Based on Yonisomanasikāra: A Case Study of Samakkhi Wittaya School, Lamnarai, Lopburi Province” employed the one-group pretest-posttest design. The study consisted of the following objectives: 1) to investigate teaching of the 2nd secondary school students of Samakkhi Wittaya School, Lamnarai, Lopburi Province based on Yonisomanasikāra; and 2) to compare the pretest and post-test results on civic duty subject of the 2nd secondary school students at Samakkhi Wittaya School in Lamnarai, Lopburi Province. A sample group included the 2nd secondary school students who were in class 1 at Samakkhi Wittaya School in Lamnarai, Lopburi Province, in a total of 35 students. The data were collected by using the one-group pretest-posttest design. Purposive sampling was used to select a sample group. The collected data was analyzed using the Statistical Package for the Social Sciences, descriptive statistics such as mean and standard deviation (S.D.), and inferential statistics such as the paired sample t-test. From the study, it is found as follows: Teaching based on Yonisomanasikāra or thorough attention is accomplished by instilling a positive attitude in students, providing an appropriate environment, fostering positive relationships, and providing stimuli for students to gather data, facts, knowledge, and skills. This includes the ability to use causal reasoning, the search for elements that can lead to a conclusion, and the evaluation of both students and students. The study discovered that a group of learners can learn together by looking for information and reasons, summarizing the assignment, and presenting the content for other groups to learn from, answer questions, and exchange learning. All of this result in 80 percent of students being able to learn and use reasons based on Yonisomanasikāra. The learning achievement of the 2nd secondary school students on the learning management plan 1 under the topic "Buddhist teachings for coexistence" has a pretest of 3.75 and a post-test of 6.75, with a t-test of 16.43. The learning management plan 2 under the topic “Other religions' teachings for coexistence” has a pretest of 4.25 and a post-test of 7.31, with a t-test of 15.87. The post-test is higher than the pretest with a statistical significance of 0.01 level.

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. ส่วนหอสมุดกลาง

Address: พระนครศรีอยุธยา

Email: library@mcu.ac.th

Name: รศ. ดร.สมชัย ศรีนอก

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Name: ผศ. ดร.นิเวศน์ วงศ์สุวรรณ

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Created: 2564

Modified: 2023-05-18

Issued: 2566-05-07

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

DegreeName: ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: สาขาวิชาการสอนสังคมศึกษา

Grantor: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

©copyrights มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	XrECdyve6tLMBh4oD91ceZgmIijkx4JyfYne9qEC.pdf	7.49 MB	11	2025-08-10 08:04:11

ใช้เวลา

0.029321 วินาที