รูปแบบการเรียนแบบรอบรู้จุลภาคปรับเหมาะร่วมกับปัญหาเป็นฐานเพื่อส่งเสริมทักษะการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล สำหรับนักศึกษาวิทยาลัยชุมชน

Mastery micro-adaptive instruction model with problem-based learning to enhance digital technology skills for community college students

Name: อัญมณี อุสสาร

ThaSH: การเรียนรู้

ThaSH: เทคโนโลยีสารสนเทศ -- การศึกษาและการสอน

ThaSH: ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน -- การประมวลผลข้อมูล -- โปรแกรมคอมพิวเตอร์

Abstract: การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษารูปแบบการเรียนแบบรอบรู้จุลภาคปรับเหมาะร่วมกับ ปัญหาเป็นฐาน แหล่งข้อมูลคือ เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องประชากรคือนักศึกษาชั้นปี่ที่ 2 วิทยาลัย ชุมชนตาก จำนวน 152 คน เครื่องมือ คือ แบบบันทึกการวิเคราะห์และสังเคราะห์เอกสารและงานวิจัย ที่เกี่ยวข้อง และแบบสอบถามความต้องการจำเป็นต่อการส่งเสริมทักษะการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล มีค่า ความเชื่อถือได้ 0.99 วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) การสังเคราะห์ เนื้อหา (Content Synthesis) และดัชนีความสำคัญของความต้องการจำเป็น (PNI mdifiedi) และ 2) พัฒนารูปแบบการเรียนแบบรอบรู้จุลภาคปรับเหมาะร่วมกับปัญหาเป็นฐาน กลุ่มผู้ให้ข้อมูลเป็นผู้ทรงคุณวุฒิประเมินคุณภาพรูปแบบการเรียนรู้ จำนวน 9 คน และกลุ่มตัวอย่างนักศึกษาสาขาวิชาการปกครอง ท้องถิ่น ชั้นปีที่ 2 วิทยาลัยชุมชนตาก จำนวน 19 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบประเมินคุณภาพ ของรูปแบบการเรียนรู้ มีค่าความสอดคล้อง (IOC) ระหว่าง 0.60-1.00 แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ มีค่าความสอดคล้อง ระหว่าง 0.80-1.00 ความยากง่าย (p) ระหว่าง 0.21-0.79 อำนาจจำแนก (p) ระหว่าง 0.25-0.92 และความเชื่อถือได้ 0.95 แบบวัดทักษะการใช้เทคโนโลยี ดิจิทัลเป็นแบบเกณฑ์การให้คะแนน มีค่าความสอดคล้อง ระหว่าง 0.80-1.00 และความเชื่อถือได้ 0.80 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบทีสำหรับ 2 กลุ่มชนิด ไม่เป็นอิสระต่อกัน (t-test for Dependent Samples) ผลการวิจัยพบว่า 1) นักศึกษามีความต้องการจำเป็นเกี่ยวกับการส่งเสริมทักษะการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลสูงสุด คือ การใช้โปรแกรมตารางคำนวณ (PNI mdifiedi = 0.30) รองลงมา คือ การใช้โปรแกรมนำเสนอผลงาน ((PNI mdifiedi = 0.27) และตํ่าสุด คือ การใช้โปรแกรมประมวลผลคำ ((PNI mdifiedi= 0.23) 2) รูปแบบการเรียนรู้มีกระบวนการเรียนรู้ 6 ขั้นตอน ประกอบด้วย วางแผนการเรียนรู้ แนะนำรายวิชา สอบก่อนเรียน เรียนรู้ สอบหลังเรียน และทบทวนความรู้ และผู้ทรงคุณวุฒิประเมิน คุณภาพ ทั้งในภาพรวมและรายด้าน อยู่ในระดับมาก 3) นักศึกษาที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนรู้มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 4) นักศึกษาที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนรู้มีคะแนนทักษะการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลหลังเรียนเฉลี่ย 28 คะแนน (คะแนนเต็ม 36 คะแนน) คิดเป็นร้อยละ 78.07 5) นักศึกษาที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนรู้มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลหลังเรียนไม่แตกต่างจากหลังเรียนผ่านไปแล้ว 14 วัน

สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง. สำนักหอสมุดกลาง

Address: กรุงเทพมหานคร

Email: Lifelong@kmitl.ac.th

Name: ไพฑูรย์ พิมดี

Role: อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์

Email : paitoon.pi@kmitl.ac.th

Name: ฐิยาพร กันตาธนวัฒน์

Role: อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ร่วม

Email : thiyaporn.ka@kmitl.ac.th

Created: 2565

Modified: 2566-03-17

Issued: 2566-03-17

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

DegreeName: ครุศาสตร์อุตสาหกรรมดุษฎีบัณฑิต

Level: ปริญญาเอก

Descipline: คอมพิวเตอร์ศึกษา

Grantor: สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

©copyrights สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	Anyamanee Ussarn.pdf	6.32 MB	69	2025-12-16 08:46:56

ใช้เวลา

0.033676 วินาที