การวิเคราะห์ความเหมาะสมของพื้นที่ตั้งโรงไฟฟ้าจากเตาเผาขยะชุมชนโดยอาศัยระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ในจังหวัดปทุมธานีและการศึกษาความเป็นไปได้ทางเศรษฐศาสตร์
Economic feasibility of GIS-based siting of municipal solid waste incineration power plant in Pathum Thani
Abstract:
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเลือกสถานที่ตั้งโรงไฟฟ้าเตาเผาขยะมูลฝอยชุมชน ในจังหวัดปทุมธานีและเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ทางเศรษฐศาสตร์ ในการเลือกที่ตั้งโรงไฟฟ้าเตาเผาขยะมูลฝอยชุมชนโดยการใช้การวิเคราะห์ข้อมูลระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) ด้วยเทคนิคค่าถ่วงน้ำหนัก (OWA) พบว่าพื้นที่ที่เหมาะสมประมาณ 2,257 ไร่สำหรับโรงไฟฟ้าขนาด 19.4 เมกะวัตต์ตั้งอยู่ที่ละติจูด 14.209n และลองติจูด 100.87e ทั้ง ๆ ที่ปริมาณขยะเฉลี่ยในจังหวัดปทุมธานี 1,829 ตัน/วัน แต่ความสามารถในการกำจัดขยะของโรงไฟฟ้าเตาเผาขยะมูลฝอยได้เพียง 872 ตัน/วัน ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนเริ่มต้น 3,850,192,788.20 บาท ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและค่าแรง 288,000,000 บาท/ปี ตลอดอายุโครงการ 20 ปี ผลการวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของโครงการประเมินโดยใช้มูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) อัตราผลตอบแทนภายใน (IRR) และระยะเวลาคืนทุน (SPP) NPV ซึ่งเท่ากับ 3,668,000 บาท, 19.31% ต่อปี และ 5 ปี ตามลำดับ ตัวชี้วัดทางเศรษฐศาสตร์เหล่านี้แสดงถึงศักยภาพในการลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าเตาเผาขยะมูลฝอย ในจังหวัดปทุมธานี ผลการวิเคราะห์ความอ่อนไหวของการเปลี่ยนแปลงปริมาณการกำจัดขยะในช่วง 5% ถึง 10% เมื่อเทียบกับปริมาณการกำจัดขยะในปี 2562 (365,000 ตัน/ปี) ทำให้ค่า NPV เพิ่มขึ้น 77,000 และ 154,000 บาท, IRR เพิ่มขึ้น 0.21% ต่อปี และ 0.43% ต่อปี ในขณะที่ SPP ลดลง 0.05 และ 0.1 ปี ตามลำดับ และพิจารณาการเปลี่ยนแปลงปริมาณการกำจัดของเสียลดลงในช่วง 5% ถึง 10% ส่งผลในทำนองกลับกัน สำหรับผลความอ่อนไหวของการเปลี่ยนแปลงค่าบริการกำจัดขยะที่เพิ่มขึ้นในช่วง 600 ถึง 700 บาท/ตัน เมื่อเทียบกับค่าบริการกำจัดขยะในปี 2562 (500 บาท/ตัน) ทำให้ค่า NPV เพิ่มขึ้น 308,000 และ 616,000 บาท, IRR เพิ่มขึ้น 0.85% ต่อปี และ 1.69% ต่อปี ในขณะที่ SPP ลดลง 0.2 และ 0.38 ปี ตามลำดับ และพิจารณาการเปลี่ยนแปลงค่าบริการกำจัดขยะลดลงในช่วง 300 ถึง 400 บาท/ตัน ส่งผลในทำนองกลับกัน
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. หอสมุดแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
©copyrights มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์