ภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ของผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 2

Creative Leadership of the School Administrators Primary Educational Service Pattani Province Area 2

Name: อิบตีซาม เจะหะ

keyword: ภาวะผู้นำ

Classification :.DDC: 371.201

; ผู้บริหารสถานศึกษา

; สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 2

Abstract: การค้นคว้าอิสระครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ของผู้บริหารสถานศึกษา 2) เปรียบเทียบภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ของผู้บริหารสถานศึกษา ตามตัวแปรเพศ อายุ วุฒิการศึกษา และประสบการณ์การทำงาน และ 3) ศึกษาข้อเสนอแนะในการพัฒนาภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ของผู้บริหารสถานศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 2 กลุ่มตัวอย่าง คือ ครูผู้สอนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 2 กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้ตารางสำเร็จรูปของเครจซี่และมอร์แกน ได้กลุ่มตัวอย่างจำนวน 277 คน สุ่มตัวอย่างโดยการจับสลากแบบไม่คืนกลับ เครื่องมือที่ใช้ในการค้นคว้าอิสระเป็นแบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น แบ่งออกเป็น 3 ตอน ตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือที่ใช้ในการค้นคว้าอิสระ โดยการหาค่าความตรงเชิงเนื้อหา ด้วยวิธีคำนวณค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่างข้อคำถามกับวัตถุประสงค์ (Index of Items Objective Congruence : IOC) ได้ค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่าง 0.67-1.00 และหาค่าความเชื่อมั่นโดยการวิเคราะห์ด้วยวิธีการหาค่าสัมประสิทธิ์แอลฟา (Alpha Coefficient) ของ ครอนบัคได้ค่าเท่ากับ 0.976 สถิติที่ใช้ในการค้นคว้าอิสระ ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าทีอิสระ (Independent T-Test) การทดสอบค่าเอฟ (F-Test) และทำการทดสอบค่าเฉลี่ยรายคู่โดยวิธีของเชฟเฟ่ (Scheffe’s Method) ผลการค้นคว้าอิสระพบว่า 1. ระดับภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 2 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (x− = 3.58, S.D. = 0.35) เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 2 อยู่ในระดับมากทุกด้าน โดยด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ ด้านความยืดหยุ่น (x-= 3.66, S.D. = 0.48) รองลงมา คือ ด้านวิสัยทัศน์ (x−= 3.61, S.D. = 0.59) และด้านการทำงานเป็นทีม (x− = 3.58, S.D. = 0.35) มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด 2.ผลการเปรียบเทียบภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 2 จำแนกตามตัวแปรเพศ ภาพรวมและรายด้าน พบว่า ไม่แตกต่าง จำแนกตามตัวแปรอายุ ภาพรวมพบว่า ไม่แตกต่าง เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านแรงจูงใจมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ผลการทดสอบค่าเฉลี่ยรายคู่โดยใช้วิธีของเชฟเฟ่ (Scheffe’s Method) พบว่า คู่ที่ต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 มี 1 คู่ คือ อายุระหว่าง 31-40 ปี กับอายุระหว่าง 41-50 ปี จำแนกตามตัวแปรวุฒิการศึกษา ภาพรวมพบว่า ไม่แตกต่าง เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านการทำงานเป็นทีมมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และจำแนกตามตัวแปรประสบการณ์การทำงานภาพรวมพบว่าไม่แตกต่าง เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่าด้านแรงจูงใจและด้านการทำงานเป็นทีมมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ผลการทดสอบค่าเฉลี่ยรายคู่ด้านแรงจูงใจโดยใช้วิธีของเชฟเฟ่ (Scheffe’s Method) พบว่าคู่ที่ต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 มี 1 คู่ คือ ครูที่มีประสบการณ์การทำงานน้อยกว่า 5 ปี กับครูที่มีประสบการณ์การทำงานมากกว่า 11 ปี และผลการทดสอบค่าเฉลี่ยรายคู่ด้านการทำงานเป็นทีมโดยใช้วิธีของเชฟเฟ่ (Scheffe’s Method) พบว่าไม่พบคู่ที่แตกต่าง เนื่องจากค่าเฉลี่ยมีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อยจึงไม่สามารถบอกได้ว่าคู่ไหนแตกต่างกัน 3.ผลการศึกษาข้อเสนอแนะในการพัฒนาภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ของผู้บริหารสถาน ศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 2 ในด้านวิสัยทัศน์พบว่า ผู้บริหารควรมีวิสัยทัศน์กว้างไกลและสามารถมองเห็นภาพความเป็นไปได้ของการพัฒนาในอนาคต โดยการวิเคราะห์และสังเคราะห์บริบทของสถานศึกษาอย่างรอบคอบ ด้านความยืดหยุ่นพบว่า ผู้บริหารควรมีวิธีการเเก้ปัญหาที่หลากหลาย ไม่ยึดติดกับวิธีเเก้ปัญหาเเบบเดิม ๆ และเปิดโอกาสให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเเสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ ด้านจินตนาการพบว่า ผู้บริหารควรเป็นผู้นำที่มีลักษณะของการเป็นผู้ที่มีสติปัญญาที่เฉลียวฉลาดในการนำทรัพยากรมาใช้ให้เกิดประโยชน์เพื่อการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้นกับสถานศึกษา ด้านแรงจูงใจพบว่า ผู้บริหารควรสร้างแรงบันดาลใจและรู้จักสร้างขวัญกำลังใจในทางที่สร้างสรรค์ และรู้จักใช้ทักษะการสื่อสารที่เป็นมิตรกับผู้ใต้บังคับบัญชา และด้านการทำงานเป็นทีมพบว่า ผู้บริหารควรส่งเสริมให้ผู้ใต้บังคับบัญชามีความเข้าใจ ผูกพันและมีความร่วมมือกัน ตลอดจนเป็นนักประสานงานที่ดี

Abstract: This research aims to 1) study the level of the creative leadership of the school administrators 2) to compare the creative leadership of the school administrators according to the variables of genders, ages, education, and experiences, and 3) investigate the methods of developing the creative leadership of the school administrators, Primary Educational Service Pattani Province Area 2. The samples of this study were 277 teachers in Primary Educational Service Pattani Province Area 2 selected by applying the table of Krejcie and Morgan and proportional sampling without replacement. The five survey was employed as a research tool divided into three sections. The tool has been validated through Index of Objective Congruence (IOC) scored between 0.67-1.00, and the reliability by Cronbach’s alpha coefficient scored 0.971. The collected data were, then, analyzed and shown in percentages, means, standard deviation, t-test scores, F-test scores and Scheffe’s Method ANOVA The research findings are as follows: 1.the level of the creative leadership of the school administrators, Primary Educational Service Pattani Province Area 2 had overall level of “very” x-= 3.58, S.D.= 0.35 and each component of the level of the creative leadership of the school administrators, Primary Educational Service Pattani Province Area 2 at the level of “very” in all components, namely flexibility at x−= 3.66, S.D. = 0.48, vision at x−= 3.61, S.D. = 0.59, and teamwork at x = 3.58, S.D. = 0.35 which was the least. 2.the comparison of the creative leadership of the school administrators, Primary Educational Service Pattani Province Area 2 according to the components of genders, and overall components had no difference similarly to the variable of ages. However, there was a significance difference at .01 in terms of motivation. The experiences and overall income. Interestingly, there were both overall and each component statistic significant difference of the size of the school at 0.01. Scheffe’s Method ANOVA found that there was a pair of ages between 31-40 years old and 41-50 years old which had statistically significant difference at .01. There was no difference of the component of educational background. In contrast, working as a team had been found statistically significant difference at .05. There was no overall significant difference in terms of working experience while each component of motivation and working as a team had statistically significant difference at .05. Scheffe’s Method ANOVA found there was a pair which had statistically significant difference at .05 which were teachers with less than five year teaching experience and more than eleven year teaching experience while Scheffe’s Method ANOVA found there was no difference in terms of working as a team as there was little difference of its mean score which cannot be analyzed. 3.The results shows that the schools administrators, Primary Educational Service Pattani Province Area 2 should have far-reaching vision which can visualize the possibility of the future development. In terms of flexibility, the administrators should provide various methods for solving problems, not clinging to the same methods, and give chances to the staff for freely expressing their ideas. In terms of imagination, the administrators are expected to be brilliant who can apply all resources for the benefits of creating any innovation for schools. The results also suggest that the administrators should creatively encourage and apply the friendly communication skills while communicating with staff. The administrators are also suggested to be not only a good team player who can support all the staff understand, engage, and cooperate to each other, but a good coordinator.

มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา. สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ

Address: ยะลา

Email: libraryinfo@yru.ac.th

Modified: 2565-07-22

Created: 2564

Issued: 2565-07-22

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: Thesis 371.201 อ235ภ 2564

tha

Spatial: ไทย (ภาคใต้)

Spatial: ยะลา

DegreeName: Master of Business Administration

Level: Master's Degree

Descipline: Education Administration

Grantor: Yala Rajabhat University

©copyrights มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	อิบตีซาม เจะหะ.pdf	4.55 MB	135	2025-08-30 14:19:50

ใช้เวลา

0.018572 วินาที