การศึกษาพัฒนาพื้นทางคอนกรีตระบายน้ำ

A study for development of drainage concrete pavement

Name: กฤษดา เสือเอี่ยม

ThaSH: คอนกรีตน้ำหนักเบา -- การไหลซึมผ่าน

ThaSH: ผิวทางคอนกรีต

ThaSH: กำลังวัสดุ

ThaSH: การระบายน้ำของถนน

Abstract: พื้นทางคอนกรีตพรุน (Pervious Concrete Pavement) เป็นหนึ่งในนวัตกรรมคอนกรีตที่ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาเนื่องจากช่วยลดผลกระทบจากน้ำท่วมขังพื้นทาง ส่งผลให้การใช้ถนนในช่วงฝนตกมีความปลอดภัยต่อทั้งคนใช้รถและเดินเท้ามากขึ้น งานวิจัยนี้เป็นการนำเสนอพื้นทางคอนกรีตระบายน้ำรูปแบบใหม่โดยใช้เทคนิคการเจาะรู กำหนดรูปแบบการเจาะรูในลักษณะแถวเรียง 2 x 2, 3 x 3 และ 4 x 4 ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของรูเจาะตั้งแต่ 2, 3 และ 4 มิลลิเมตร และออกแบบส่วนผสมคอนกรีตตามมาตรฐานกรมทางหลวง ทำการทดสอบสมบัติของคอนกรีตสด ได้แก่ การยุบตัวและการก่อตัวของคอนกรีต สมบัติเมื่อคอนกรีตแข็งตัว ได้แก่ กำลังอัด กำลังดัด และการดูดซึมน้ำ และความสามารถในการไหลซึมผ่านของน้ำตลอดจนผลกระทบเมื่อรูเจาะเกิดการอุดตัน เนื่องจากฝุ่นผง ผลการทดสอบพบว่าคอนกรีตมีค่าการยุบตัว 60 มิลลิเมตร กำลังอัดและกำลังดัดมีแนวโน้มลดลงเมื่อปริมาตรของรูเจาะเพิ่มขึ้นแต่ในทางตรงกันข้ามการดูดซึมน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น สำหรับประสิทธิภาพในการไหลซึมผ่านน้ำของพื้นทางคอนกรีตที่ใช้เทคนิคการเจาะรูนั้นอยู่ช่วง 2.69-18.52 มิลลิเมตรต่อวินาที ในขณะเดียวกันประสิทธิภาพในการไหลซึมผ่านน้ำมีแนวโน้มลดลงในกรณีเกิดการอุดตันของฝุ่นผงอยู่ในช่วงร้อยละ 18.18 - 37.27

Abstract: Pervious concrete pavement has been one of the more popular concrete innovations over the past decade as it reduces the effects of pavement flooding, which in turn could increase the traffic and pedestrian safety during the rainy day. The research study aimed to present a new type of concrete pavement by using pore making techniques. The pore pattern with a 2x2, 3x3 and 4x4 row arrangement and pore diameter was determined from 2, 3, and 4 mm. The concrete mixture was designed according to Department of Highways standard. Fresh concrete properties such as slump test and setting time, hardened properties of concrete such as compressive strength, flexural strength and water absorption, water permeability performance and clogging effect by very fine particles were investigated. The test results indicated that slump of concrete was 60 mm. Compressive strength and flexural strength tended to decrease as the pore volume increased. While, water absorption tended to increase. The water permeability performance by the pore making technique was ranged between 2.69 -18.52 mm/s. At the same time, the permeability coefficient tends to decrease when the dust clog occurs in the range of 18.18-37.27%.

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ. สำนักหอสมุดกลาง

Address: กรุงเทพมหานคร

Email: library@kmutnb.ac.th

Name: สุพรชัย อุทัยนฤมล

Role: ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์

Email : supornchai.u@eng.kmutnb.ac.th

Created: 2563

Modified: 2566-11-17

Issued: 2565-05-03

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

DegreeName: วิศวกรรมศาสตร์มหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: วิศวกรรมโยธา

Grantor: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ

©copyrights มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	B17549516.pdf	3.1 MB	2	2025-08-29 22:43:24

ใช้เวลา

0.021957 วินาที