การวิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่ออุปสงค์เพื่อการส่งออกลำไยของประเทศไทย

The analysis of factors affectng demand for longan export of Thailand

Name: จินต์ กล้าวิกรณ์

keyword: การส่งออกลำไย

ThaSH: มหาวิทยาลัยแม่โจ้ -- วิทยานิพนธ์

ThaSH: ลำไย -- การส่งสินค้าออก

Abstract: การศึกษาในเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาถึงปัจจัยที่มีผลต่ออุปสงค์เพื่อ การส่งออกลำไยของประเทศไทยและพยากรณ์อุปสงค์เพื่อการนำเข้าลำไยของประเทศคู่ค้าใน อนาคต ซึ่งการศึกษาได้นำเอาแบบจำลองทางเศรษฐมิติในรูปของสมการถดถอยเชิงซ้อนและใช้วิธี กำลังสองน้อยที่สุดแบบธรรมดาทำการประมาณค่าสัมประสิทธิ์ของตัวแปรอิสระต่างๆ ที่มีอิทธิพล ต่ออุปสงค์เพื่อการส่งออกลำไยของประเทศไทยไปยังประเทศคู่ค้าที่สำคัญ ผลการวิเคราะห์อุปสงค์เพื่อการส่งออกลำไยสดของประเทศไทยไปยังประเทศคู่ค้าที่ สำคัญ ได้แก่ ประเทศฮ่องกง และสิงคโปร์ ปรากฏว่า ประเทศฮ่องกงปัจจัยสำคัญที่กำหนดอุปสงค์ คือ มูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ประเทศสิงคโปร์ปัจจัยสำคัญที่กำหนดอุปสงค์ คือ ราคาส่งออกโดยเฉลี่ย ผลการพยากรณ์พบว่า ช่วงปี พ.ศ. 2543 – 2547 ปริมาณการนำเข้าลำไย สดของประเทศฮ่องกงเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 2.72 แต่ประเทศสิงคโปร์ไม่สามารถพยากรณ์ได้ การส่งออกไปยังประเทศฮ่องกงควรส่งเสริมเป็นพิเศษ เนื่องจากมีความได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบ ทางการค้า ผลการวิเคราะห์อุปสงค์เพื่อการส่งออกลำไยอบแห้งของประเทศไทยไปยังประเทศ คู่ค้าที่สำคัญ ได้แก่ ประเทศจีน และฮ่องกง ปรากฏว่า ปัจจัยสำคัญที่กำหนดอุปสงค์ คือ มูลค่า - ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศเบื้องต้นของประเทศคู่ค้า ผลการพยากรณ์พบว่า ช่วงปี พ.ศ. 2543 – 2547 ปริมาณการนำเข้าลำไยอบแห้งของประเทศจีนและฮ่องกงเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.05 และ 4.57 การส่งออกไปยังประเทศจีนควรส่งเสริมเป็นพิเศษเนื่องจากมีความได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบ ทางการค้า ผลการวิเคราะห์อุปสงค์เพื่อการส่งออกลำไยกระป๋องของประเทศไทยไปยังประเทศ คู่ค้าที่สำคัญ ได้แก่ ประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ และสหรัฐอเมริกา ปรากฏว่า ปัจจัยสำคัญที่กำหนด อุปสงค์ ประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์ คือ มูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ประเทศ สหรัฐอเมริกา คือ มูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศและราคาส่งออกโดยเฉลี่ย ผลการพยากรณ์พบว่า ช่วงปี พ.ศ. 2543 – 2547 ปริมาณการนำเข้าลำไยกระป๋องของประเทศ มาเลเซีย, สิงคโปร์และสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 10.42, 3.81 และ 11.30 การส่งออกไป ยังประเทศมาเลเซียควรส่งเสริมเป็นพิเศษ เนื่องจากมีความได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบทางการค้า และมีต้นทุนค่าขนส่งที่ต่ำ ผลการวิเคราะห์อุปสงค์เพื่อการส่งออกลำไยแช่แข็งของประเทศไทยไปยังประเทศ คู่ค้าที่สำคัญ ได้แก่ ประเทศสหรัฐอเมริกาและฝรั่งเศส ปรากฏว่า ปัจจัยสำคัญที่กำหนดอุปสงค์ ประเทศสหรัฐอเมริกา คือ ราคาส่งออกโดยเฉลี่ย ประเทศฝรั่งเศส คือ ราคาส่งออกโดยเฉลี่ย มูลค่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ และอัตราแลกเปลี่ยน ผลการพยากรณ์พบว่า ช่วงปี พ.ศ. 2543 - 2547 ปริมาณการนำเข้าลำไยแช่แข็งของประเทศฝรั่งเศสเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 8.34 แต่ประเทศ สหรัฐอเมริกาไม่สามารถพยากรณ์ได้ การส่งออกไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาควรมีการส่งเสริมเป็น พิเศษ เนื่องจาก มีความได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบทางการค้าและเป็นตลาดแห่งใหญ่ที่สุด จากผลการศึกษา ทำให้ทราบว่าผลิตภัณฑ์ลำไยของไทยเป็นสินค้าที่มีคุณภาพและ มาตรฐานดี และเป็นสินค้าประเภทฟุ่มเฟือย ดังนั้นแนวนโยบายเพื่อเพิ่มปริมาณและมูลค่า การส่งออกลำไยของไทยไปยังประเทศคู่ค้าที่สำคัญ คือ การรักษาระดับของคุณภาพสินค้าให้คงไว้ โดยการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐาน การรวบรวมและการขนส่ง การบรรจุหีบห่อให้ทันสมัย ดังนั้น ภาครัฐและเอกชนควรร่วมมือในการวางแผน พัฒนาและส่งเสริมกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง กับการส่งออกลำไย มีการรวมกลุ่มผู้ผลิตในแต่ละท้องที่เพื่อที่จะสามารถรองรับการขยายตัวของ อุปสงค์เพื่อการส่งออกลำไยในอนาคตอันจะนำรายได้เข้าประเทศได้มากยิ่งขึ้น

มหาวิทยาลัยแม่โจ้. สำนักหอสมุด

Address: เชียงใหม่

Email: mjudc@mju.ac.th

Name: น้ำเพ็ชร วินิจฉัย

Role: ประธานกรรมการที่ปรึกษา

Name: ชูศักดิ์ จันทนพศิริ

Role: กรรมการที่ปรึกษา

Name: สมคิด แก้วทิพย์

Role: กรรมการที่ปรึกษา

Created: 2544

Modified: 2564-10-23

Issued: 2564-10-23

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: 382.414657 จ477ก 2544

tha

DegreeName: วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: เศรษฐศาสตร์เกษตร

Grantor: มหาวิทยาลัยแม่โจ้

©copyrights มหาวิทยาลัยแม่โจ้

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	Fulltext.pdf	19.45 MB	4	2025-07-14 23:03:07
2	Abstract.pdf	3.93 MB	5	2025-07-14 23:03:34

ใช้เวลา

0.022404 วินาที