ผลการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

The effect of inquiry method on science subject achievement of prathomsuksa 5 students

Name: ปัทมวรรณ เกตุชัย

ThaSH: ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน -- วิทยาศาสตร์.

ThaSH: ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน -- การศึกษาและการสอน (ประถมศึกษา).

ThaSH: การศึกษาและการสอน.

ThaSH: วิทยาศาสตร์ -- การสอนและวิธีสอน.

ThaSH: การวัดผลทางการศึกษา.

Abstract: การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ก่อนและหลังได้รับการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่ได้รับ การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้กับเกณฑ์ร้อยละ 70 ของคะแนนเต็ม กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ ในการศึกษาครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านแคทราย (ซ่อนกลิ่นอุปถัมภ์) ตำบลอุดมธัญญา อำเภอตากฟ้า จังหวัดนครสวรรค์ ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 มี 1 ห้องเรียน จำนวน 15 คน ซึ่งกลุ่มตัวอย่างได้มาจากวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม (โดยใช้โรงเรียนเป็นหน่วย ในการสุ่ม) การศึกษาครั้งนี้ใช้แบบแผนการวิจัยแบบกลุ่มเดียวทดสอบก่อนและทดสอบหลัง การทดลอง (One group pretest - posttest design) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ ซึ่งผ่านการตรวจสอบคุณภาพแล้วว่ามีความเหมาะสมมากที่สุด (x̅ = 4.85-4.87) และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นปรนัยชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ มีค่าความตรง (IOC) เท่ากับ 0.67-1.00 มีค่าความยากง่ายตั้งแต่ 0.20 ถึง 0.47 มีค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.20 ถึง 0.47 และมีค่าความเที่ยงด้วยวิธี KR-20 เท่ากับ 0.80 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบอันดับที่มีเครื่องหมายกำกับของวิลคอกสัน (Wilcoxon signed - ranks test) ผลการศึกษาพบว่า 1) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบ สืบเสาะหาความรู้มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยมีคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนเท่ากับ 9.07 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 2.46 และคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนเท่ากับ 23.47 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 2.00 2) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์หลังเรียนสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยมีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนเท่ากับ 23.47 คิดเป็นร้อยละ 78.23 ของคะแนนเต็ม

มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์. สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ

Address: นครสวรรค์

Email: library@nsru.ac.th

Name: นิเวศน์ คำรัตน์

Role: อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์

Modified: 2564-09-16

Issued: 2564-09-16

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: วจ 372.35 ป532ผ

tha

DegreeName: ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: หลักสูตรและการสอน

Grantor: มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์

©copyrights มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	Pattamawan Ketchai.pdf	5.84 MB	76	2025-11-01 11:45:33

ใช้เวลา

0.031083 วินาที