ศึกษาและออกแบบอุปกรณ์ประกอบการเรียนรู้รายวิชาศิลปะ สำหรับนักเรียนระดับชั้นอนุบาล 3

Study and design learning equipment in art subject for kindergarten 3

Name: อภิญญา ชื่อลือชา

ThaSH: ศิลปะ -- การสอนด้วยสื่อ -- การออกแบบ

ThaSH: ศิลปะ -- การศึกษาและการสอน

ThaSH: การศึกษาขั้นอนุบาล -- การสอนด้วยสื่อ

LCSH: Kindergarten -- Aids and devices

Abstract: การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์คือ 1) เพื่อศึกษารูปแบบอุปกรณ์ประกอบการเรียนรู้รายวิชาศิลปะสำหรับนักเรียนระดับชั้นอนุบาล 3 2) เพื่อออกแบบอุปกรณ์ประกอบการเรียนรู้รายวิชาศิลปะ สำหรับนักเรียนระดับชั้นอนุบาล 3 3) เพื่อประเมินประสิทธิภาพของอุปกรณ์ประกอบการเรียนรู้รายวิชาศิลปะ และวัดผลลัมฤทธิ์ทางการเรียนสำหรับนักเรียนระดับชั้นอนุบาล 3 4) เพื่อประเมินความพึงพอใจของครู และผู้ปกครองในระดับชั้นอนุบาล 3 ที่มีต่ออุปกรณ์ประกอบการเรียนรู้รายวิชาศิลปะ สำหรับนักเรียนระดับชั้นอนุบาล 3 ผู้วิจัยมีวิธีการดำเนินการวิจัยโดยได้ทำการลงพื้นที่โรงเรียนศรีสุวิช จัดหวัดชลบุรี เป็นกรณีศึกษาโดยนำข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้มาวิเคราะห์ร่วมกับกรอบแนวความคิดโดยมีผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้เชี่ยวชาญประเมินผลจากแบบร่างเพื่อนำมาสร้างต้นแบบอุปกรณ์ประกอบการเรียนรู้รายวิชาศิลปะ โดยใช้วิธีการทางสถิติค่าร้อยละค่าเฉลี่ย (x̄) และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ผลการวิจัยพบว่า อุปกรณ์ประกอบการเรียนรู้รายวิชาศิลปะ สำหรับนักเรียนระดับชั้นอนุบาล 3 มีรูปแบบของพู่กันระบายสี และหนังสือแบบเรียน ควรเพิ่มอุปกรณ์ที่ช่วยส่งเสริมได้อย่างเต็มที่ในส่วนการออกแบบอุปกรณ์ประกอบการเรียนรู้รายวิชาศิลปะพบว่ามีรูปแบบ รูปแบบที่ 1 ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากรูปทรงของหมี และรูปทรงเรขาคณิต ประกอบไปด้วย แปรงระบายสี แปรงทาสี ตัวปั้ม กระดานวาดเขียน มีความเหมาะสมโดยรวมอยู่ในระดับมาก (x̄ = 3.94, S.D. = 0.99) ในด้านประสิทธิภาพของอุปกรณ์ประกอบการเรียนรู้อยู่ในระดับมาก (x̄ = 4.02, S.D. = 0.65) และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนนักเรียนระดับชั้นอนุบาล 3 โดยใช้วิธีทดสอบก่อนเรียนด้วยอุปกรณ์ และหลังการเรียนรู้ด้วยอุปกรณ์พบว่านักเรียนมีการพัฒนาการที่เพิ่มมากขึ้นในด้านพัฒนาการด้านความคิดสร้างสรรค์ พัฒนาการด้านสังคม พัฒนาการด้านกล้ามเนื้อมือ พัฒนาการด้านอารมณ์ และพัฒนาการด้านการเรียนรู้ คะแนนเฉลี่ยรวมก่อนใช้ 70.4 หลังอุปกรณ์เฉลี่ยรวม 86.4 เมื่อนำไปอนุมานทางสถิติด้วยการทดสอบค่าเฉลี่ยสองประชากรแบบไม่เป็นอิสระต่อกัน (t-pair) พบที่ระดับนัยสำคัญ 0.05 คะแนนเฉลี่ยหลังการใช้อุปกรณ์มีค่ามากกว่าคะแนนเฉลี่ยก่อนการใช้อุปกรณ์อย่างมีนัยสำคัญและความพึงพอใจของครู และผู้ปกครองอยู่ในระดับมาก (x̄ = 4.23, S.D. = 0.55)

Abstract: This research the objectives are: 1) to study the form of learning equipment for art students for kindergarten level 3 2) to design learning equipment for art courses for kindergarten students 3 3) to evaluate the effectiveness of learning equipment Art course And measure learning achievement for kindergarten students 3 4) to assess the satisfaction of teachers and parents in kindergarten level 3 with the learning equipment for art courses for kindergarten students level 3. The researcher has a method of conducting research by completing the Srisuvit School district, Chonburi province as a case study by using the collected data to analyze together with the conceptual framework. With experts and experts evaluating the results from the draft form, 3 forms, to 1 format, to create a prototype of learning materials for art courses by using statistical methods, percentage, mean (x̄) and standard deviation (S.D.). Art learning equipment for kindergarten students 3, with the form of paintbrushes. And textbooks Should add equipment that fully supports In the design of learning equipment, the art course found that there was a pattern that was inspired by the shape of the bear. And geometric shapes, including brush, paint, brush, pump body, drawing board. The writing is appropriate overall at a high level (x̄ = 3.94, S.D. = 0.99) in the efficiency of the learning device. Was in the high level (x̄ = 4.02, SD = 0.65) And learning achievement of students in kindergarten 3 by using pre-test methods with equipment And after learning with the device, it is found that students are developing more and more in terms of creative development. Social development Hand muscle development Emotional development And learning development The total average score before using 70.4 after the average device was 86.4 when applied to statistical inference with the two-independent t-pair test, found at a significant level of 0.05. And teacher satisfaction And parents at a high level (x̄ = 4.23, S.D. = 0.55).

สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง. สำนักหอสมุดกลาง

Address: กรุงเทพมหานคร

Email: Lifelong@kmitl.ac.th

Name: สมชาย เซะวิเศษ

Role: อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์

Email : somchai.se@kmitl.ac.th

Created: 2562

Modified: 2564-09-01

Issued: 2564-09-01

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

Spatial: ชลบุรี

DegreeName: ครุศาสตร์อุตสาหกรรมมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: เทคโนโลยีการออกแบบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม

Grantor: สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

©copyrights สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	Fulltext Apinya Chueluecha.pdf	4.04 MB	20	2025-02-07 11:25:30

ใช้เวลา

0.020923 วินาที