รูปแบบและกระบวนการในการบริหารจัดการนวัตกรรมโฮมสเตย์เพื่อการท่องเที่ยว

Patterns and processes of the management of innovative homestay for tourism

Name: ชูศักดิ์ อินทมนต์

ThaSH: การท่องเที่ยว -- การจัดการ

Classification :.DDC: 915.93

ThaSH: การท่องเที่ยวโดยชุมชน

ThaSH: ที่พักนักท่องเที่ยว

Abstract: งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษารูปแบบการบริหารจัดการโฮมสเตย์ของไทยในปัจจุบัน 2) ศึกษาปัจจัยแห่งความสำเร็จและอุปสรรคของการบริหารจัดการโฮมสเตย์ของไทยในปัจจุบัน 3) ศึกษารูปแบบและกระบวนการบริหารจัดการนวัตกรรมโฮมสเตย์เพื่อการท่องเที่ยวและ 4) ทดลองนำรูปแบบและกระบวนการบริหารจัดการนวัตกรรมโฮมสเตย์เพื่อการท่องเที่ยวไปปฏิบัติ และสรุปผล ผู้วิจัยใช้การวิจัยเชิงคุณภาพโดยการสัมภาษณ์เชิงลึกผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมโฮมสเตย์ จำนวน 12 คน และทำการวิจัยเชิงปฏิบัติการโดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์กับบ้านริมคลองโฮมสเตย์ เปรีบเทียบค่าไฟฟ้าก่อน/ หลังการติดตั้ง สัมภาษณ์ความพึงพอใจของนักท่องเที่ยว จำนวน 10 คน ผลการศึกษาพบว่า การบริหารจัดการโฮมสเตย์ในปัจจุบัน 1) มีการรวมกลุ่มเพื่อจัดการ การท่องเที่ยว 2)ได้รับการส่งเสริมจากภาครัฐ 3) ชาวบ้านหวังรายได้เป็นหลัก 4) ทำรายได้ให้ชุมชน 5) มุ่งสู่ความยั่งยืน6) ผู้นำชุมชนจัดสรรพื้นที่ 7) พัฒนาตามนักท่องเที่ยว 8) ไม่รู้กลุ่มเป้าหมาย 9) ส่งผลต่อวิถีชุมชนดั้งเดิม 10) กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาเป็นผู้ประเมินมาตรฐาน และ 11) บางชุมชนทำเป็นอาชีพหลัก ปัจจัยแห่งความสำเร็จ คือ 1) การมีส่วนร่วมของชุมชน 2) มีกิจกรรมน่าสนใจ 3) มีความรู้ในการทำโฮมสเตย์ 4) มีผู้นำชุมชนที่ดี 5) การสนับสนุนจากรัฐ เอกชนและสถานศึกษา 6) มีไมตรีจิตกับนักท่องเที่ยว 7) จัดทำบัญชีที่มีมาตรฐาน 8) ประชาสัมพันธ์ที่ดี 9) เสนอววิถีชีวิตชุมชนดั้งเดิม 10) เรียนรู้จากโฮมสเตย์ต้นแบบมาพัฒนา และ 11) ฝึกอบรมการบริการ อุปสรรค คือ 1) ขาดการบูรณาการของหน่วยงาน 2) ขาดความรู้การทำโฮมสเตย์ 3) ทำเชิงธุรกิจมากเกินไป 4) มีต้นทุนสูง 5) แบ่งผลประโยชน์ไม่เป็นธรรม 6) ขาดความเชื่อมั่นในการ เปลี่ยนแปลง 7) ผู้นำบริหารไม่โปร่งใส 8) ขาดมาตรฐานการบริการ 9) ขาดการรับฟังความคิดเห็น 10) สภาพแหล่งท่องเที่ยวเปลี่ยนไป 11) การประชาสัมพันธ์ไม่ดีและ 12) ขาดสิ่งอำนวยความสะดวก รูปแบบและกระบวนการในการบริหารจัดการนวัตกรรมโฮมสเตย์ คือ 1) สร้างนวัตกรรมผลิตภัณฑ์และบริการ 2) สร้างนวัตกรรมการมีส่วนร่วม 3) สร้างนวัตกรรมการตลาด 4) สร้างนวัตกรรมกระบวนการ 5) สร้างนวัตกรรมองค์กร และ 6) สร้างนวัตกรรมความยั่งยืน ผลการทดลองใช้พลังงานแสงอาทิตย์กับบ้านริมคลองโฮมสเตย์เป็นเวลา 30 วัน พบว่า ลดค่าไฟฟ้าได้ ร้อยละ 88.23 และนักท่องเที่ยวมีความพึงพอใจกับโฮมสเตย์พลังงานแสงอาทิตย์

Abstract: This research aimed 1) to study the current pattern of home stay management in Thailand, 2) to study the factors of success and obstacles in the management of current Thai homestay, 3) to study the pattern and process of managing innovative homestay, and 4) to try to implement the patterns and the processesof managing the innovative homestay for tourism and to draw conclusions. Qualitative research was conducted by using in-depth interview with 12 homestay innovation experts and the action research was then conducted by using solar energy with Baan Rim Khlong Homestay. Electricity costs before and after solar-energy installation were compared. Interviews on the satisfaction were given to 10 tourists. In the study on current homestay management, the findings were as follows:1) There was the business integration to manage tourism. 2) There was support from the government. 3) Villagers expected that homestay business was the major income. 4) Tourism brought money for the community. 5) The business was aimed at sustainability. 6) The area allocation was done by community leaders. 7) Tourism was developed according to tourists. 8) The target group was not known. 9) Traditional community ways were affected by tourism. 10) The homestay was assessed by the Ministry of Tourism and Sports. 11) Tourism was the main occupation in some communities. The factors leading to success were as follows:1) community participation, 2) interesting activities, 3)homestay operators’ knowledge and skills, 4) good community leaders, 5) supportgiven by the government, private sectors and educational institutions, 6) friendly relations with tourists, 7) standardized accounting system, 8) good public relations, 9) proposed traditional community lifestyle, 10) learning from homestay models to develop their own business, and 11) the provision of service trainings. Barriers were as follows:1 the lack of integration of agencies 2) the lack of homestay operators’knowledge, 3) focusing too much on profit, 4) high costs, 5) unfair benefit sharing, 6) the lack of confidence in changes, 7) leaders with no transparency, 8) the lack of service standards 9) the lack of listening to opinions 10) the changes of tourist attraction conditions, 11)bad publicity, and 12) the lack of facilities. The patterns and processes for managing homestay innovations included the creation of the following items: 1) product and service innovation, 2) participation 3) marketing innovation, 4) process innovation 5) organization innovation, and 6) sustainability innovation. The resultsof using solar energy to Baan Rim Khlong Home Stay for 30 days showed that the electricity cost could be reduced by 88.23%, and tourists were satisfied with the solar-energy homestay.

มหาวิทยาลัยบูรพา. สำนักหอสมุด

Address: ชลบุรี

Email: buulibrary@buu.ac.th

Name: ศรัณยา เลิศพุทธรักษ์

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Created: 2562

Modified: 2564-06-16

Issued: 2564-06-16

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: ว 915.93 ช687ร

tha

DegreeName: ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต

Level: ปริญญาเอก

Descipline: การจัดการสาธารณะ

Grantor: มหาวิทยาลัยบูรพา

©copyrights มหาวิทยาลัยบูรพา

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	57870059.pdf	6.24 MB	62	2025-08-16 23:54:03

ใช้เวลา

0.018376 วินาที