ความผูกพันต่อองค์การของบุคลากรโรงพยาบาลบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา กระทรวงสาธารณสุข

Organizational commitment of staff in Bangnamprieo Hospital, Chachoengsao province, Ministry of Public Health

Name: วรเชษฐ์ เวชมงคลกร

ThaSH: ความผูกพันต่อองค์การ -- ไทย -- ฉะเชิงเทรา

ThaSH: บุคลากรโรงพยาบาล

Abstract: การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research) เพื่อศึกษาความผูกพันต่อองค์การของบุคลากรโรงพยาบาลบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา กระทรวงสาธารณสุข ประชากรที่ใช้ในการศึกษา คือ บุคลากรโรงพยาบาลบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา จำนวน 117 คน ที่ปฏิบัติงานตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป ได้แก่ ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ พนักงานราชการ และลูกจ้างชั่วคราว ใช้แบบสอบถามเก็บรวบรวมข้อมูล สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ ได้แก่ สถิติเชิงพรรณนา ค่าร้อยละ (Pecentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ค่ามัธยฐาน (Median) สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน (Pearson,s Product Moment Coefficient) และการวิเคราะห์ความถดถอยเชิงพหุคูณแบบขั้นตอน (Stepwise Multiple Regression Analysis) ผลการวิจัย พบว่า บุคลากรโรงพยาบาลบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา มีความผูกพันต่อองค์การในภาพรวมอยู่ในระดับมาก (X̄ = 3.79, S.D. = 0.69) ความพึงพอใจในการทำงานในภาพรวมอยู่ในระดับมาก (X̄ = 3.60, S.D. = 0.72) และพบว่าอายุ ประสบการณ์ทำงาน รายได้ มีความสัมพันธ์กับความผูกพันต่อองค์การของบุคลากรโรงพยาบาลบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทราอย่างมีนัยสำคัญทางสิถิติ (p-value <0.001) ความพึงพอใจในการทำงานด้านปัจจัยจูงใจมีความสัมพันธ์ทางบวกระดับสูง กับความผูกพันต่อองค์การอย่างมีนัยสำคัญทางสิถิติ (r = 0.72, pvalue <0.001) และความพึงพอใจในการทำงานด้านปัจจัยค้ำจุนมีความสัมพันธ์ทางบวกระดับปานกลางกับความผูกพันต่อองค์การอย่างมีนัยสำคัญทางสิถิติ (r = 0.70, p-value < 0.001) อีกทั้งปัจจัยค้ำจุนด้านความมั่นคงและความปลอดภัยในการทำงาน ปัจจัยจูงใจด้านความก้าวหน้า ปัจจัยจูงใจด้านความสำเร็จของงาน และปัจจัยค้ำจุนด้านความสัมพันธ์กับผู้บังคับบัญชา สามารถร่วมทำนายความผูกพันต่อองค์การของบุคลากรโรงพยาบาลบางน้ำเปรี้ยวได้ร้อยละ 65.9 (R2 = 0.659) ดังนั้นผู้บริหารควรมีนโยบายด้านความปลอดภัยให้บุคลากรโรงพยาบาลบางน้ำเปรี้ยวได้รับการดูแลให้มีความรู้สึกว่าปลอดภัยเมื่อฏิบัติงานในโรงพยาบาล ให้ความมั่นใจว่าตำแหน่งหน้าที่การงานที่ปฏิบัติอยู่มีความมั่นคง อีกทั้งผู้บังคับบัญชาคอยให้ความช่วยเหลือ แนะนำ เห็นใจ เอื้ออาทรต่อสวัสดิภาพของผู้ใต้บังคับบัญชาและยึดหลัก ความยุติธรรมในการทำงานร่วมกัน จะส่งผลให้ระดับความผูกพันต่อองค์การของบุคลากรโรงพยาบาลบางน้ำเปรี้ยวสูงขึ้น

Abstract: This study was a survey research with the objective of studying the organizational commitment of the personnel in Bangnamprieo Hospital, Chachoengsao Province, Ministry of Public Health. The studied population was 117. personnel working in the hospital for a period of not less than six months. The sample was composed of civil servants, permanent employees, government employees and casual workers. Data was collected using questionnaires. Statistics used for data analysis were descriptive statistics; percentage, mean, standard deviation, median, Pearson's Product Moment Coefficient and stepwise multiple regression analysis. The study found that the organizational commitment and the overall job satisfaction of the personnel were at a high level of x = 3.79, S.D. = 0.69 and x = 3.60, S.D. = 0.72. Age, working experience and income had association with organizational commitment at a statistical significance of p-value < 0.001. Job satisfaction, in the aspect of motivation as a factor, had positive association with organizational commitment at a statistical significance of r = 0.72, p < 0.001. It was also found that job satisfaction, in the aspect of maintenance factors, had positively medium association with organizational commitment with a statistical significance of r=0.70,p- value< 0.001 and that maintenance factors in regard to security and work safety, career growth , job success and relationship with the supervisor had co-predictivity value for organizational commitment of 65.9% ( R = 0.659) Research recommendations were; the administration should advocate for the policy of safety for the personnel so that the personnel could have confidence in their safety in the workplace. The personnel should be provided with security at work. The supervisor should be helpful, generous, sympathetic and caring for the welfare of their supervisees. The supervisor should also hold to the principle of (working) justice which would help boost the organizational commitment of the personnel.

มหาวิทยาลัยมหิดล. หอสมุดและคลังความรู้มหาวิทยาลัยมหิดล

Address: นครปฐม

Email: liwww@mahidol.ac.th

Name: สุธี อยู่สถาพร

Role: ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์

Name: ปิยธิดา ตรีเดช

Role: ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์

Name: สุคนธา ศิริ

Role: ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์

Created: 2557

Modified: 2564-05-09

Issued: 2564-05-09

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: วพ ว194ค 2557

tha

Spatial: ฉะเชิงเทรา

DegreeName: วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: บริหารสาธารณสุข

Grantor: มหาวิทยาลัยมหิดล

©copyrights มหาวิทยาลัยมหิดล

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	5137640.pdf	17.56 MB	14	2025-01-02 12:33:09

ใช้เวลา

0.034738 วินาที