A comparative study of local errors in scientific abstracts of predatory and professional journals

การศึกษาเปรียบเทียบข้อผิดพลาดเฉพาะเรื่องในบทคัดย่อทางวิทยาศาสตร์ของวารสารด้อยคุณภาพและวารสารคุณภาพ

Name: Hathaichanok Anghirun.

LCSH: Research abstracts.

LCSH: English Language -- Errors.

LCSH: Errors.

Abstract: The objective of the present study was to investigate local errors in research abstracts published in predatory and professional journals during 2013 to 2015. Two corpora were used in the study: the corpus of fifty predatory journal abstracts (8,649 running words) and fifty professional journal abstracts (8,601 running words). The predatory journal, Indian Journal of Scientific Research, was randomly selected from Beall's list of standalone journals (2015), selection criteria included: 1) be in the field of science, 2) have been published at least three years, and 3) be online accessible. For the professional journal, Science Journal was chosen as the second source of data from the Journal Citation Report (2014) with two criteria:1) be in the field of science and 2) had the highest Eienfactor score. In regards to sample abstract selection, stratified random sampling and simple random sampling techniques were employed. Errors were identified and classified based on Hendrickson's (1979) four local error categories including lexis, syntax, morphology, and orthography. Three research instruments were used to validate the study: spreadsheet programs, error analysis forms, and two grammar books as the coding sources of references. To assure the reliability of the analysis, two inter-raters and the researcher identified errors in sample abstracts independently. The value of inter-rater reliability was relatively high (K = 0.77 and 0.67). Three hundred and thirty errors were found from the sample abstracts of the two journals. Among these two sources, 309 errors (or 94% of the total local errors) occurred in the predatory journal, while only 21 errors (6%) were found from the professional journal. Moreover, the findings showed that orthographical errors dominantly occurred in the sample abstracts of the two journals, while lexical errors occurred the least. In addition, the researcher discovered the occurrence of three new error types (no space between words, the use of Latin abbreviations in text, and omission of an infinitive -to) in the predatory corpus (n = 30, or 10%). These results serve as empirical evidence asserting that occurrence of language errors is the significant characteristic of predatory journals.

Abstract: งานวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ข้อผิดพลาดเฉพาะเรื่อง (local errors) ในบทคัดย่องานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารประเภทด้อยคุณภาพ (predatory journal) และวารสารที่มีคุณภาพ (Science Journal) ระหว่างปี 2013 ถึง 2015 คลังข้อมูลที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ประกอบไปด้วย 2 คลังข้อมูล ได้แก่ คลังข้อมูลที่รวบรวมบทคัดย่อจำนวน 50 บทคัดย่อจากวารสารด้อยคุณภาพ (จำนวน 8,649 คำ) และ คลังข้อมูลที่รวบรวมบทคัดย่อจำนวน 50 บทคัดย่อจากวารสารที่มีคุณภาพ (จำนวน 8,601 คำ) วารสาร Indian Journal of Scientific Research เป็นหนึ่งในวารสาร predatory ที่ถูกสุ่มเลือกมากจากบัญชีรายชื่อวารสารประเภทด้อยคุณภาพของ Beall (2015) ด้วยเงื่อนไข 3 ประการคือ เป็นวารสารด้อยคุณภาพทางวิทยาศาสตร์ ตีพิมพ์มาแล้วอย่างน้อย 3 ปี และเข้าถึงออนไลน์ได้ สำหรับการเลือกวารสารที่มีคุณภาพทางวิทยาศาสตร์พิจารณาคะแนน Eigenfactor ของแต่ละวารสารที่บันทึกใน Journal Citation Report (2014) การบันทึกแสดงให้เห็นว่าวารสาร Nature และวารสาร Science มีคะแนน Eigenfactor สูงที่สุด และวารสาร Science ถูกสุ่มเลือกเพื่อเป็นแหล่งข้อมูลสำหรับวารสารที่มีคุณภาพ การเลือกบทคัดย่อกลุ่มตัวอย่าง จะใช้วิธีการสุ่มแบบขั้นปฐมภูมิและการสุ่มอย่างง่ายการวิเคราะห์ข้อผิดพลาดในงานวิจัยนี้อิงหลักทฤษฎี ข้อผิดพลาดเฉพาะเรื่อง 4 กลุ่ม ของ Hendrickson (1979) ประกอบไปด้วย ข้อผิดพลาดในแง่ของคำ พื้นฐาน (lexical errors) ข้อผิดพลาดในการใช้คำ ที่กระทบต่อรูปประโยค (syntactical errors) ข้อผิดพลาดทางการผันคำ (morphological errors) และข้อผิดพลาดทางการสะกดคำ การใช้ตัวอักษรพิมพ์ใหญ่ และการใช้เครื่องหมายวรรคตอน (orthographical errors) นอกจากนี้ เครื่องมือ 3 ชิ้นถูกใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ โปรแกรม Microsoft Words และ Microsoft Excel ฟอร์มการวิเคราะห์ข้อผิดพลาด และหนังสือหลักไวยากรณ์ภาษาอังกฤษจำนวน 2 เล่มเป็นแหล่งข้อมูลคู่ขนาน ทั้งนี้ ผู้วิเคราะห์ข้อมูลร่วมจำนวน 2 ท่านและผู้วิจัยวิเคราะห์ข้อผิดพลาดในบทคัดย่อแบบเป็นอิสระต่อกันเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือของการวิเคราะห์ข้อมูล ค่าความเชื่อมั่นระหว่างผู้ประเมินมีความสอดคล้องกันในระดับค่อนข้างสูง (K = 0.77 และ 0.67) ผลการวิจัยพบว่า ข้อผิดพลาดเฉพาะเรื่อง (n = 309 หรือ 94%) ในบทคัดย่อของวารสารประเภท predator มีจำนวน มากกว่าข้อผิดพลาดเฉพาะเรื่องที่เกิดขึ้นในบทคัดย่อของวารสารที่ได้คุณภาพ (n = 21 หรื อ 6%) ถึง 15 เท่า จากการศึกษาพบว่าข้อผิดพลาดที่จัดอยู่ในกลุ่ม orthography เกิดขึ้นมากที่สุดในบทคัดย่อของวารสารประเภท predator ร้อยละ 93 (n = 124) และวารสาร คุณภาพร้อยละ 7 (n = 9) กลุ่มข้อผิดพลาดประเภท syntax ถูกพบมากเป็นอันดับที่สองในวารสาร predator ร้อยละ 93 (n = 78) และ ร้อยละ 7 (n= 6) ของวารสารคุณภาพ ทั้งนี้ ข้อผิดพลาดที่พบน้อยที่สุดคือ ข้อผิดพลาดในกลุ่ม lexis ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 85 (n = 17) ของวารสาร predator และร้อยละ 15 (n = 3) ของวารสารคุณภาพ นอกจากนี้ ผู้วิจัยค้นพบการเกิดข้อผิดพลาดในเรื่อง การไม่เว้นวรรคระหว่างคำ การใช้ตัวย่อภาษาละตินนอกวงเล็บ และการละ -to ร้อยละ 10 % (n = 30) ของข้อผิดพลาดทั้งหมดในบทคัดย่อของ วารสาร predator ผลการวิจัยครั้งนี้เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์เพื่อยืนยันว่า ข้อผิดพลาดทางภาษาเป็นลักษณะที่เด่นชัดของงานวิจัยที่ตีพิมพ์โดยวารสารประเภท predator

Mahidol University. Mahidol University Library and Knowledge Center

Address: NAKHONPATHOM

Email: liwww@mahidol.ac.th

Name: Songsri Soranastaporn

Role: Thesis Advisors

Name: Natthapong Chanyoo

Role: Thesis Advisors

Name: Yuwadee Tirataradol

Role: Thesis Advisors

Created: 2016

Modified: 2021-05-06

Issued: 2021-05-06

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: TH H363c 2016

eng

DegreeName: Master of Arts

Level: Master's Degree

Descipline: Applied Linguistics

Grantor: Mahidol University

©copyrights Mahidol University

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	5736186.pdf	30.02 MB	20	2025-01-23 08:46:06

ใช้เวลา

0.290607 วินาที