สภาพและแนวทางการพัฒนาการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษาของโรงเรียน ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 22

Sitoations and guidelines for developing the usage of digital technology for education of schools under the secondary educational service area office 22

Name: ชัยวิชญ์ เข็มปัญญา

Address: สาขาวิชาการบริหารการศึกษา คณะครุศาสตร์

Organization : มหาวิทยาลัยนครพนม

keyword: แนวทางการพัฒนา

ThaSH: เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษา

Classification :.DDC: 004.6

; สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 22

Abstract: เทคโนโลยีดิจิทัลได้นำมาใช้ด้านการศึกษา ทั้งในการจัดการเรียนการสอน การติดต่อสื่อสาร การปฏิบัติงานและพัฒนาระบบงานให้มีความทันสมัยและมีประสิทธิภาพ การวิจัยครั้งนี้มีจุดประสงค์ เพื่อ (1) ศึกษาสภาพการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษา (2) เปรียบเทียบสภาพการใช้เทคโนโลยี ดิจิทัลเพื่อการศึกษา จำแนกตามสถานภาพและขนาดของโรงเรียน (3) หาแนวทางในการพัฒนา การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษา ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 22 โดยการวิจัยแบ่งออกเป็น 2 ระยะ ดังนี้ ระยะที่ 1 การศึกษาสภาพการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อการศึกษา กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา และครูผู้สอน กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 408 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบแบ่งชั้น ระยะที่ 2 การหาแนวทางในการพัฒนาการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษา โดยการสัมภาษณ์ ผู้ทรงคุณวุฒิที่มีประสบการณ์ เป็นที่ยอมรับและมีวิธีปฏิบัติที่ดี (Best Practice) กลุ่มผู้ให้ข้อมูล ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 3 คน และครูผู้สอน จำนวน 3 คน รวม 6 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง จากนั้นประเมินความเหมาะสม และความเป็นไปได้ จากผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 5 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการ วิจัย ได้แก่ แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง แบบประเมินความเหมาะสม และความ เป็นไปได้ มีค่าอำนาจจำแนก รายข้อระหว่าง 0.32 – 0.85 ค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถาม เท่ากับ 0.95 สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที (t-test แบบ independent) และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว ผลการวิจัย พบว่า (1) การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษา ของโรงเรียนตามความคิดเห็น ของผู้บริหารและครูผู้สอนโดยรวมและรายด้าน อยู่ในระดับมากทุกด้าน เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด คือ ด้านการรายงานข้อมูลทางการศึกษาออนไลน์ อยู่ในระดับมาก และ ด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่า ที่สุด คือ ด้านระบบเครือข่ายเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษา อยู่ในระดับมาก (2) เปรียบเทียบสภาพการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษา ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 22 จา แนกตามสถานภาพ โดยรวมไม่แตกต่างกัน และเปรียบเทียบสภาพการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษา จำแนกตามขนาดของโรงเรียน โดยรวมแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 (3) แนวทางการพัฒนาการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษา ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 22 ระดับความเหมาะสม โดยรวม อยู่ในระดับมากที่สุด และระดับความเป็นไปได้ โดยรวมอยู่ในระดับมาก

Abstract: Digital technology had been used in education both in teaching and learning management, communication, implementation, and work systems development to be modern and efficient. The purposes of this research were (1) to study the situations of using digital technology for education, (2) to compare the situations of using digital technology for education classified by status and school-size, and (3) to find out the guidelines for developing the usage of digital technology for education of schools under the Secondary Educational Service Area Office 22. The research was divided into 2 phases: Phase 1, the study of situations of using digital technology for education, the samples were 408 school administrators and teachers who were selected by Stratified Random Sampling; Phase 2, finding guidelines for developing digital technology for education by interviewing experienced, accepted experts and known for the best practice. The informants were 6 people including 3 school administrators and 3 teachers who were selected by Purposive Sampling. Then the suitability and the possibility were assessed by 5 experts who were selected by Purposive Sampling. The instruments use in the research were a questionnaire, a structured interview form, a suitability and possibility form with the discrimination between 0.32-0.85 and the reliability of 0.95. The statistics employed in the research were mean, standard deviation, t-test (Independent Samples), and One-way ANOVA. The results were found that (1) using digital technology for education of schools in the opinions of school administrators and teachers were at the high level in overall and in individual aspects. Considering in an individual aspect, it was found that the highest average aspect was online education information reporting which revealed at the high level; whereas the lowest average aspect was digital technology network for education which revealed at the high level. (2) In comparison, the overall situations of using digital technology for education of schools under the Secondary Educational Service Area Office 22 classified by status were not different. The comparison of the overall situations of using digital technology for education classified by school-size were statistically significant different at the .01 level. (3) The guidelines for developing the usage of digital technology for education of schools under the Secondary Educational Service Area Office 22. The levels of the suitability were at the highest level in all aspects, and the overall levels of the possibility were at the high level.

มหาวิทยาลัยนครพนม

Address: นครพนม

Name: ดร.รชฏ สุวรรณกูฏ

Role: อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์หลัก

Name: ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ทัศนา ประสานตรี

Role: อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ร่วม

Created: 2563

Modified: 2564-03-29

Issued: 2564-02-15

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

DegreeName: ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: การบริหารการศึกษา

Grantor: มหาวิทยาลัยนครพนม

©copyrights มหาวิทยาลัยนครพนม

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	thesis.pdf	23.68 MB	562	2025-10-20 22:41:27

ใช้เวลา

0.021749 วินาที