The Relevance of Beliefs in Learning and Innovation : An Empirical Study

ความสัมพันธ์ระหว่างความเชื่อที่มีต่อการเรียนรู้และนวัตกรรม : การศึกษาเชิงประจักษ์

Name: Sunanchai Ontakhrai

Name: สุนันชัย ออนตะไคร้

keyword: Beliefs

Abstract: Cognitive theories describe learners as goal-orientated individuals who actively seek to expand their knowledge. These individuals bring a vast of prior knowledge, attitudes, values and belief when coming into formal education. It was these previously acquired attributes and beliefs that significantly influence how the learners will organize and interpret newly presented information, and in effect, how they will remember, reason, solve problems using this newly acquired knowledge. A person's beliefs, by far, play the biggest role in their interpretation and understanding as they were the personalised subjective understandings, and investigate how a person will react or behave. They acquired from their socio-cultural context, including peers, family, school, community, and disciplines, all of which transmit cultural attributes that include dispositions, norms, attitudes, values, expectations, and modes of communication. Beliefs that cluster around an object or situation and were predisposed to action were called attitudes and beliefs. Evaluative, comparative, and judgmental functions were called values (Pajares 1992). Cognitive theorists have suggested that learning involves the cultivation of positive beliefs (Schunk, Pintrich, & Meece, 2007). This dissertation will look at these theorists' findings and summarize the results of a survey design investigation on students beliefs towards environment. The survey was carried out on 1000 students, 340 males and 660 females, undertaking undergraduate studies across the fields of science, math, and arts (both liberal and applied arts), at two different universities one in Bangkok and one in Chiangmai, Thailand. The survey questionnaire consisted of items translated into Thai from previous surveys (Kaiser, Wolfing, & Fuhrer, 1999; Althauser, 1990; Altemeyer & Hunsberger, 1992; Koul, 2006). The questionnaire was divided into three parts. Part I of the survey measured religious outlook (See Altemeyer & Hunsberger, 1992; Koul, 2006). Part II of the survey measured students' environmental knowledge, environmental values and environmental. Part III of the survey measured demographic information such as gender, socio-economic status, father's education, and mother's education. The results of factor analysis and the analysis of variance find these case studies underline the educational signifinicance of general epistemological stances of students in learning and innovation and change as well.

Abstract: ทฤษฎีปริชานอธิบายว่าผู้เรียนเป็นบุคคลผู้มีเป้าหมาย ซึ่งพยายามขยายความรู้ของตนเองอย่าง กระตือรือร้น บุคคลเหล่านี้นำความรู้เดิม ทัศนคติ ค่านิยมและความเชื่อมาใช้ เมื่อเข้ามาเรียนในระบบ การศึกษา คุณลักษณะและความเชื่อเดิมที่มีอยู่แล้วนี้เองที่ส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อวิธีที่ผู้เรียนจะจัด ระเบียบรวมถึงตีความข้อมูลที่นำเสนอเข้าใหม่ และยังส่งผลต่อวิธีการจดจำ ใช้เหตุผล แก้ปัญหาโดย ใช้ความรู้ที่ได้มาใหม่นี้ ความเชื่อของบุคคลจึงมีบทบาทสำคัญที่สุดในการตีความหมายและความ เข้าใจ เพราะความเชื่อเป็นความเข้าใจ ในเชิงอัตวิสัยเฉพาะบุคคล และส่งเสริมวิ่ธีที่บุคคลจะมีปฎิกิริยา หรือประพฤติ บุคคลได้รับจากบริบททางสังคมและวัฒนธรรม อัน ได้แก่ เพื่อน ครอบครัว โรงเรียน ชุมชน และระเบียบวินัย ซึ่งทั้งหมดได้ถ่ายทอดคุณลักษณะทางวัฒนธรรมที่รวมเอาอุปนิสัย บรรทัด ฐาน ทัศนคติ ค่านิยม ความคาดหวังและวิธีการสื่อสารมาเกี่ยวข้อง ความเชื่อที่เกี่ยวข้องกับวัตถุหรือ สถานการณ์หนึ่งๆ จนออกมาเป็นการกระทำ เรียกว่า ทัศนคติ และความเชื่อ ส่วนหน้าที่ในการ ประเมิน เปรียบเทียบ หรือตัดสิน เรียกว่า ค่านิยม (Pajares, 1992) นักทฤษฎีปริชานแนะนำให้การ เรียนรู้ควรปลูกฝังความเชื่อเชิงบวกเข้าไปด้วย (schunk, Pintrich, & Meece, 2007) งานวิจัยนี้ได้ศึกษาข้อมูลของนักทฤษฎีเหล่านี้และสรุปผลจากการสำรวจความเชื่อของนักศึกษาที่มีต่อ สิ่งแวดล้อม โดยสำรวจกับนักศึกษาจำนวน 1,000 คน แบ่งเป็น เพศชาย 340 คน เพศหญิง 660 คน ที่ กำลังศึกษาระดับปริญญาตรีในสาขาวิชาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศิลป์(ทั้งศิลปศาสตร์ และ ศิลปะประยุกต์) ในมหาวิทยาลัยสองแห่งในกรุงเทพฯ และเชียงใหม่ประเทศไทย (Nsberger, 1992; Koul, 2006) แบบสอบถามแบ่งออกเป็น 3 ส่วนได้แก่ ส่วนแรกเป็นการวัดแนวคิดทางศาสนา (ดู Altemeyer & Hunsberger, 1992; Koul, 2006) ส่วนที่สองวัดความรู้ทางสิ่งแวดล้อม ค่านิยมทาง สิ่งแวดล้อม และทางสิ่งแวดล้อม ส่วนที่สามวัดข้อมูลเชิงประชากรศาสตร์ เช่น เพศ สถานะ ทางเศรษฐกิจและสังคม การศึกษาของบิดา และการศึกษาของมารดา ผลจากการวิเคราะห์ปัจจัยและ การวิเคราะห์ความแปรปรวน ทำให้พบว่า กรณีศึกษาเหล่านี้ เน้นความสำคัญของการศึกษาความ คิดเห็นในเชิงญาณวิทยาทั่วไปของนักศึกษาเกี่ยวกับการเรียนรู้และนวัตกรรมและการเปลี่ยนแปลง

King Mongkut's University of Technology Thonburi. KMUTT Library.

Address: BANGKOK

Email: info.lib@mail.kmutt.ac.th

Name: Jariya Neanchaleay

Role: Advisors

Created: 2010

Modified: 2011-03-20

Issued: 2011-03-13

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: FIDT3

eng

DegreeName: Doctor of Philosophy

Level: Doctoral Degree

Descipline: Learning Innovation and Technology

Grantor: King Mongkut's University of Technology Thonburi

©copyrights King Mongkut's University of Technology Thonburi

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	FIDT3ab.pdf	35.85 KB	173	2025-05-11 13:16:51
2	FIDT3.pdf	2.46 MB	308	2025-05-11 13:16:20

ใช้เวลา

0.034069 วินาที