สัมประสิทธิ์การยึดเกาะของเสาเข็มเจาะระบบแห้งกับดินในกรุงเทพฯ

Adhesion Factor of Bored Pile Dry Process in Bangkok Clay

Name: ธเนศ วีระศิริ

keyword: สัมประสิทธิ์การยึดเกาะของเสาเข็มเจาะ

; Adhesion Factor of Bored Pile Dry

Abstract: การศึกษาในครั้งนี้เป็นการศึกษาเพื่อหาค่าสัมประสิทธิ์การยึดเกาะของเสาเข็มเจาะ ระบบแห้งที่มีต่อดินในกรุงเทพฯ เสาเข็มเจาะที่ทำการศึกษามีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 35 50 และ 60 เซนติเมตร โดยรวบรวมข้อมูลการทดสอบเสาเข็มเจาะและข้อมูลสำรวจดินตรงบริเวณ ที่ทำการทดสอบเสาเข็มนั้น นำค่ากำลังรับน้ำหนักสูงสุดของเสาเข็มและค่าความแข็งแรงเฉือนของ ดินมาจัดเป็นสมการเพื่อแก้สมการหาค่าสัมประสิทธิ์การยึดเกาะ จำนวนข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้ทั้ง หมดมี 56 ชุด เป็นข้อมูลที่ทดสสอบเสาเข็มจนถึงจุดวิบัติจำนวน 15 ชุด และทดสอบไม่ถึงจุดวิบัติ จำนวน 41 ชุด ข้อมูลที่ทดสอบไม่ถึงจุดวิบัติจะทำการคาดคะเนน้ำหนักสูงสุดโดยวิธีของ Chin และวิธีของ De Beer จากนั้นทำการแก้สมการหาค่าสัมประสิทธิ์การยึดเกาะโดยวิธีวิเคราะห์ การถดถอย ซึ่งได้ผลว่าค่าสัมประสิทธิ์การยึดเกาะที่หาจากน้ำหนักสูงสุดที่คาดคะเนโดยวิธีของ Chin จะสูงกว่าสัมประสิทธิ์การยึดเกาะที่หาจากน้ำหนักวิบัติและค่าสัมประสิทธิ์การยึดเกาะที่หา จากน้ำหนักสูงสุดที่คาดคะเนโดยวิธีของ De Beer จะมีค่าต่ำที่สุด น้ำหนักสูงสุดที่คาดคะเนโดย วิธีของ Chin มีความสัมพันธ์กับน้ำหนักวิบัติของเสาเข็ม คือ Chin Load = 18.58254 + 1.299848 * Fail Load มีค่า R2 = 97.61946 % SE = 6.1925782 ตัน น้ำหนักวิบัติของเสาเข็มมีค่าประมาณร้อยละ 77 ของ Chin Load น้ำหนักสูงสุดที่คาด คะเนโดยวิธีของ Chin จะใกล้น้ำหนักวิบัติจริงของเสาเข็มก็ต่อเมื่อผลการทดสอบเสาเข็มใกล้ ถึงจุดวิบัติหรือมีค่าการทรุดตัว 6 มิลลิเมตรขึ้นไป ค่าสัมประสิทธิ์การยึดเกาะที่คำนวณได้เมื่อปรับค่าน้ำหนักบรรทุกสูงสุดของ Chin Load ตามสมการข้างบนแล้ว มารวมกับค่าสัมประสิทธิ์การยึดเกาะที่หาจากน้ำหนักที่ทดสอบถึงจุดวิบัติ แลัวพล๊อตกราฟความสัมพันธ์ระหว่างกำลังแรงเฉือนของดิน (Su) กับค่าสัมประสิทธิ์การยึดเกาะ จะได้เส้นโค้งซึ่งสามารถเขียนในรูปของสมการได้ดังนี้ X = 10(-0.0217969 + (-7.862567-02) Su) + 0.26065 มีค่า R2 = 86.13249% SE =0.18999 เมื่อนำค่าสัมประสิทธิ์การยึดเกาะที่ได้จากการศึกษาครั้งนี้มาเปรียบเทียบค่าสัมประสิทธิ์ การยึดเกาะที่ได้จากการศึกษาของ Holmberg และวิธีของ Ng kin cheng พบว่าค่าสัมประสิทธิ์ การยึดเกาะที่หาได้จากการศึกษาครั้งนี้จะมีค่าสูงกว่าวิธีของ Holmberg ในช่วงดินอ่อนมาก (very soft) จนถึงช่วงดินแข็ง (stiff) สำหรับในชั้นดินแข็งมาก (very stiff to hard) ค่าสัมประสิทธิ์ การยึดเกาะจากการศึกษาครั้งนี้จะน้อยกว่าวิธีของ Holmverg ประมาณร้อยละ 25 ถึง 30 และน้อย กว่าวิธีของ Ng kim cheng ประมาณร้อยละ 15

Abstract: This study is to speculate the adhesion factor of bored pile dry process in Bangkok Clay. The size of the bored pile employed in this study is of 35 50 and 60 centimetres in diameter respectively. The study is accomplished by collecting pile load test and soil investigation data at the same area. The ultimate bearing capacity of pile and undrained shear strength of soil are arranged in equation in order to solve the adhesion factor by regression analysis method. First,The total of 56 data set have been collected: 15 data set for bored pile at failure load and 41 data set for bored pile not reaching failure load. The latter will be predicted ultimate load by Chin's method and De Beer's method. The predicted ultimate load and soil shear strength are formulated into equations. Then the said equation will be solved by regression analysis method to figure out the adhesion factor. The result of this study shows that the adhesion factor obtained from ultimate load predicted by Chin's method and adhesion factor obtained from the failure load are higher than that obtained from ultimate load predicted by De Beer's. The value of adhesion factor obtained from ultimate load predicted by Chin's method is the highest The ultimate load predicted by Chin 's method is related to failure load of pile as shown by the following equation. Chin Load = 19.59254 + 1.299848 * Fail Load which R2 = 97.61946 % SE = 6.1925782 tons The value of failure of pile is 77 X of Chin's load. The ultimate load predicted by Chin approaches to the faiure load when the settlement of pile is over 6 millimetres. The adhesion factor gained by the corrected Chin's load from the above equation when combined with the adhesion factor from failure load are taken for graph plotting related to undrained shear strength of soil. The curve between adhesion factor and undrained shear strength is illustrated by the following equation. ? = 10(-0.0217353 + (-7.B&2567.-02)Su) + 0.26065 which R2 = 86.13249 % SE = 0.18999 The result of this study will be compared with that of Holmberg and of Ng Kim Cheng. It is found that the value of adhesioan factor from this study is higher than Holmberg's invery soft to stiff clay, while about 25 - 30 percent lower in very stiff to hard clay, and about 15 percent lower than Ng Kim Cheng's. When the adhesion factor from this study is to be reverse calculated to find out the ultimate load of bored piles, which are previously known ,it turns out that the value of ultimate load obtained is very close to the actual result.

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี. สำนักหอสมุด.

Address: กรุงเทพมหานคร

Email: info.lib@mail.kmutt.ac.th

Name: เกษม เพชรเกตุ

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Created: 2531

Modified: 2553-12-03

Issued: 2553-11-06

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: CVE212

tha

DegreeName: วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: วิศวกรรมโยธา

Grantor: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

©copyrights มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	CVE212.pdf	8.77 MB	105	2025-06-19 10:19:53
2	CVE212ab.pdf	38.43 KB	35	2025-06-19 10:24:25

ใช้เวลา

0.038071 วินาที