รูปแบบการพัฒนาการถ่ายทอดความรู้การเพาะเห็ดอินทรีย์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของฟาร์มเห็ดในภาคตะวันออก
Model of development of wisdom transfer for environmentally friendly organic mushroom cultivation in the Eastern Region Mushroom Farms
Abstract:
การวิจัยมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพการถ่ายทอดความรู้การเพาะเห็ดอินทรีย์ ปัญหาและความต้องการพัฒนาการถ่ายทอดความรู้การเพาะเห็ดอินทรีย์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของฟาร์มเห็ดในภาคตะวันออก 2) ศึกษาความรู้และความตระหนักในการเพาะเห็ดอินทรีย์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของผู้เพาะเห็ดรายย่อยในภาคตะวันออก 3) สร้างและประเมินรูปแบบการพัฒนาการถ่ายทอดความรู้การเพาะเห็ดอินทรีย์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และ 4) เปรียบเทียบความรู้และความตระหนักของผู้ประกอบการเพาะเห็ดรายย่อย ก่อนกับหลังเข้าร่วมกิจกรรมตามรูปแบบการถ่ายทอดความรู้ และประเมินคุณภาพกิจกรรมของรูปแบบ ประเมินความพึงพอใจต่อการถ่ายทอดและคุณภาพของรูปแบบการถ่ายทอด การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา พื้นที่วิจัยเป็นภาคตะวันออก โดยเลือกฟาร์มเห็ดที่ประสบความสำเร็จเป็นแหล่งเรียนรู้ของจังหวัด จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ 1) สวนเห็ดจันทบุรี อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี 2) สมจิตรฟาร์ม อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี และ 3) วิสาหกิจชุมชนฟาร์มเห็ด อำเภอเมือง จังหวัดสระแก้ว การวิจัยแบ่งเป็น 4 ขั้นตอน ขั้นตอนที่ 1 ศึกษาสภาพการถ่ายทอดความรู้ปัญหาและความต้องการพัฒนาการถ่ายทอดความรู้ เลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง เป็นเจ้าของฟาร์ม และผู้ดูแลฟาร์ม แห่งละ 3 คน รวม 9 คน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสัมภาษณ์ที่มีค่าดัชนีความสอดคล้องอยู่ระหว่าง 0.80-1.00 ขั้นตอนที่ 2 ศึกษาระดับความรู้และความตระหนัก เลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง เป็นผู้เพาะเห็ดรายย่อยที่เข้ามาเรียนรู้ในฟาร์มเห็ดทั้ง 3 แห่ง ในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2556 ซึ่งเป็นช่วงที่เห็ดผลิตดอกมากที่สุดในฟาร์ม 3 แห่ง แห่งละ 40 คน รวม 120 คน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบทดสอบความรู้ที่มีค่าความยากง่ายระหว่าง 0.75 ค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.70-0.80 ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.84 และแบบสอบถามความตระหนักที่มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.77 ขั้นตอนที่ 3 การพัฒนาและประเมินรูปแบบ มี 3 ขั้น คือ 1) ร่างรูปแบบด้วยการจัดสนทนากลุ่ม เลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง เป็นผู้ดูแลฟาร์มเห็ด 3 แห่ง แห่งละ 3 คน จำนวน 9 คน ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมศึกษา ด้านการเพาะเห็ดและด้านศูนย์เรียนรู้ จำนวน 3 คน รวม 12 คน 2) ประเมินรูปแบบ โดยผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 5 คน ได้แก่ นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมศึกษาและด้านการเพาะเห็ด 3) ปฏิบัติการตามรูปแบบที่ฟาร์มเห็ดมั่นศรี จังหวัดสระแก้ว ซึ่งเป็นฟาร์มที่มีผู้มาเรียนรู้มากที่สุด กลุ่มตัวอย่างผู้เพาะเห็ดรายย่อยที่เป็นอาสาสมัครเข้าร่วมปฏิบัติการ จำนวน 50 คน ขั้นตอนที่ 4 เปรียบเทียบความรู้และความตระหนักของผู้ประกอบการเพาะเห็ดรายย่อย ก่อนกับหลังการปฏิบัติการตามรูปแบบประเมินความพึงพอใจ และประเมินคุณภาพกิจกรรมของรูปแบบ กลุ่มตัวอย่างเป็นกลุ่มเดียวกับขั้นตอนที่ 3 เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบทดสอบความรู้และแบบสอบถามความตระหนัก ชุดเดียวกับขั้นตอนที่ 2 ประเมินความพึงพอใจและประเมินคุณภาพกิจกรรมของรูปแบบ ที่มีความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.85 และ 0.87 ตามลำดับ งานวิจัยนี้ใช้การวิเคราะห์เนื้อหา การใช้สถิติค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที ผลการวิจัยพบว่า 1) สภาพการถ่ายทอดความรู้การเพาะเห็ดอินทรีย์ โดยการบอกเล่าและตอบคำถามจากเจ้าของฟาร์ม จัดให้ศึกษาดูงานโดยความร่วมมือของหน่วยงานราชการ ปัญหาการถ่ายทอดความรู้ ได้แก่ ขั้นตอนการถ่ายทอดไม่เป็นระบบ ขาดสื่อและการให้ความรู้การจัดการสิ่งแวดล้อมและของเหลือใช้ตลอดกระบวนการผลิต จึงมีความต้องการพัฒนาวิธีการถ่ายทอดและสื่อที่เป็นระบบและเข้าใจง่าย โดยเพิ่มสาระความรู้การเพาะเห็ดอินทรีย์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 2) ก่อนได้รับการถ่ายทอดความรู้ ผู้เพาะเห็ดรายย่อยในภาคตะวันออก มีความรู้ในการเพาะเห็ดอินทรีย์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง คิดเป็นร้อยละ 61.39 และมีความตระหนักโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง ( = 3.30, S.D. = 1.15) โดยข้อที่มีความรู้ต่ำที่สุด คือ การบ่มก้อนเห็ดต้องใช้เวลา 30-40 วันก่อนเปิดดอก คิดเป็นร้อยละ 12.00 และข้อที่มีความตระหนักต่ำที่สุด คือ ความเข้าใจในการจัดการโรงเรือนให้โปร่งระบายอากาศได้ดีและมีการพักโรงเพื่อฆ่าเชื้อและป้องกันมลพิษทางอากาศ ( = 2.68, S.D. = 1.16) 3) รูปแบบการพัฒนาการถ่ายทอดความรู้การเพาะเห็ดอินทรีย์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของฟาร์มเห็ดในภาคตะวันออกมีแนวคิดหลักต้องบูรณาการความรู้ในการเพาะเห็ดกับการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมควบคู่กันไปอย่างได้ผลใช้หลักการถ่ายทอดความรู้การเพาะเห็ดอินทรีย์เพื่อสร้างอาชีพควบคู่กับการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม โดยจัดการสิ่งเหลือใช้จากการเพาะเห็ดอินทรีย์อย่างมีประสิทธิภาพโดยมุ่งสร้างความรู้ความตระหนักเพื่อนำปฏิบัติในการเพาะเห็ดอินทรีย์ที่ส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมด้วยกระบวนการถ่ายทอดความรู้ 4 ขั้นตอน (1) บรรยายโดยผู้รู้ประกอบสื่อและสาธิต (2) ฝึกปฏิบัติการในฐานการเรียนรู้ (3) ปฏิบัติการเพื่อสิ่งแวดล้อมในพื้นที่จริง (4) ประเมินผล โดยใช้ฐานการเรียนรู้ในการฝึกปฏิบัติการ 4 ฐาน ได้แก่ ฐานการผลิตก้อนเห็ดอินทรีย์ ฐานการเปิดดอกและการเก็บดอกที่ปลอดภัย ฐานการแปรรูปเพิ่มคุณค่า และฐานจัดการสิ่งแวดล้อมจากวัสดุเหลือใช้ โดยมีสื่อที่สร้างขึ้นเป็นชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องวิธีการเพาะเห็ดอินทรีย์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผลการประเมินพบว่า รูปแบบมีความสอดคล้องเหมาะสมทุกรายการ โดยมีค่าดัชนีความสอดคล้องอยู่ระหว่าง 0.80-0.10 4) ผลการเปรียบเทียบความรู้และความตระหนักของผู้ประกอบการเพาะเห็ดรายย่อย ก่อนกับหลังเข้าร่วมกิจกรรมตามรูปแบบ พบว่า ผู้เข้ารับการถ่ายทอดมีความรู้และความตระหนักหลังการถ่ายทอดสูงกว่าก่อนการถ่ายทอดอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และหลังได้รับการถ่ายทอด มีความพึงพอใจต่อรูปแบบในระดับมากที่สุด ( = 4.78, S.D. = 0.45) ผลการประเมินคุณภาพกิจกรรมของรูปแบบ พบว่า มีคุณภาพอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.77, S.D. = 0.47)
มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์. สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ
Role:
ประธานที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์.
CallNumber:
วพ 333.72 อ231ร 2561
©copyrights มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ฯ