ประวัติศาสตร์ชุมชนบ้านตะคร้อ พ.ศ. 2469-2559

Historical community of settlement in 1923 - 2016 of Ban Ta - Kraor

Name: กัญทิมา ทองหล่อ

Address: 102 ม.3 บ้านตะคร้อ ต.ช่างปี่ อ.ศรีขรภูมิ จ.สุรินทร์ 32110

keyword: ประวัติศาสตร์ไทย

Classification :.DDC: 959.377

; ประวัติศาสตร์บ้านตะคร้อ

Abstract: การศึกษาประวัติศาสตร์ชุมชนบ้านตะคร้อ พ.ศ. 2469 – 2559 มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประวัติศาสตร์ตั้งถิ่นฐานชุมชนบ้านตะคร้อ พ.ศ. 2469 – 2559 และเพื่อศึกษาความเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจสังคม วัฒนธรรมชุมชนบ้านตะคร้อ โดยใช้วิธีทางประวัติศาสตร์ในการศึกษาจากเอกสารชั้นต้นบันทึกหมู่บ้าน วัด โรงเรียน คำสัมภาษณ์ ภาพถ่าย เอกสารชั้นรอง ตำนานผลงานทางการศึกษาค้นคว้าของนักวิชาการ การสนทนากลุ่มการสัมภาษณ์เชิงลึกผู้ให้ข้อมูลหลัก คือ ผู้นำชุมชน ปราชญ์ชาวบ้าน ผู้ทรงคุณวุฒิและชาวชุมชนรวมทั้งหมดจำนวน 28 คน แล้วนำข้อมูลมาเรียบเรียงเชิงพรรณนาวิเคราะห์ (Descriptive Analysis) ผลการศึกษา พบว่าชุมชนบ้านตะคร้อ เริ่มจากครอบครัวญี่ปุ่น เผ่าพันธุ์ ครอบครัวปู่เมา และตานิ่มย้ายจากบ้านตากูก อำเภอเขวาสินรินทร์ มาตั้งถิ่นฐานอยู่บ้านตะคร้อเป็นครอบครัวแรกๆ มีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ชาวบ้านเรียกเป็นภาษาท้องถิ่นว่า “ตระเปียงทมอ” (หนองหิน) ที่มาของชื่อบ้านตะคร้อ เนื่องจากบริเวณที่มาก่อตั้งหมู่บ้านเป็นป่าและมีต้นตะคร้อขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก ชาวบ้านประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก อาชีพรับจ้าง และอาชีพเสริมเป็นการทอผ้า ด้านสังคมมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกัน มีลักษณะเป็นครอบครัวใหญ่ ชาวบ้านอยู่ตามธรรมชาติ กระจายอยู่ห่างกันไม่หนาแน่น มีอัตราการแข่งขันไม่สมบูรณ์ ค่าครองชีพต่ำ ชาวบ้านทำงานเป็นฤดูกาล ยึดมั่นขนบธรรมเนียมประเพณีอย่างเคร่งครัด การขยายตัวของชุมชนบ้านตะคร้อ เกิดจากการอพยพย้ายถิ่นฐานของคนจากพื้นที่อื่น ความเจริญของชุมชนบ้านตะคร้อเพิ่มขึ้นหลัง พ.ศ. 2450 ภายหลังการสร้างเส้นทางรถไฟจากสุรินทร์ พ.ศ. 2468 สร้างวัดปทุมสว่าง (วักบ้านตะคร้อ) พ.ศ. 2503 สร้างโรงเรียนบ้านตะคร้อ พ.ศ. 2525 มีไฟฟ้า พ.ศ. 2539 ถนนลาดยางสายแรกบานพม่า-ช่างปี่ จากเศรษฐกิจที่กำลังเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว พ.ศ. 2539 อัตราการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจไทยเริ่มชะลอตัว พ.ศ. 2540 วิกฤตเศรษฐกิจฟองสบู่แตกทำให้มีคนตกงาน ธุรกิจปิดตัวลงจำนวนมาก พ.ศ. 2543 เศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัวและมีการนำเอาปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ ท่ามกลางกระแสโลกา ภิวัตน์ชาวชุมชนบ้านตะคร้อสามารถรักษาสังคมเกษตรแบบดั้งเดิมบางด้านไว้โดยเฉพาะประเพณีทำบุญ การประกอบพิธีกรรมตามความเชื่อเป็นสังคมแบบพึ่งพาเครือญาติชาติพันธุ์ในชุมชนเดียวกัน ชุมชนบ้านตะคร้อปัจจุบันเป็นสังคมที่ผสมผสานระหว่างความเป็นสมัยใหม่และการพึ่งพาแบบเครือญาติ The research aimed to 1) study the historical community settlement in 1936 – 2016 of Ban Ta – Kroar 2) study the changes of the economy, society and culture of Ban Ta – Kroar. Methods of historical research were studied from primary sources : the record of the village, the record of the temple, the record of the school, interviewa and the historical pictures; the second any sources were previous academic papers, focus group discussion, and interviews. Twenty eight key informants were interviewed and discussed by the leaders of the villages, local scholar, community experts and local villagers. Data were compiled by descriptive analysis. The results of the study were revealed as follows: Initially, Ban Ta – Kroar was settled down by the family of grandfather Nun Phaophan, grandfather ‘Mao’ and grandfather ‘Nim’, who moved from Ban Takook, Khawaosinrin district, Surin province as beginners. TraPiangTamor (Surin-Khmer Language) or the rock swamp is regarded as the shine of the village for people to pay respect to. Previously, this area was the forest and there many of Ton Ban Ta – Kroar or the Ceylon oaktree (Schhleicheraoleosa (Lour.) Merr.). In Surin – Khmer Languages, Ta – Kroar is called ‘Pun-Rua.’ As occupation aspect, it is found that most of villagers are farmers. Some of them do odd jobs. And their supplementary work is silk weaving. As social aspect, it is found that social relationships are quite close from each one. Most of them are extended family. The villagers enjoy living with the nature. The accommodations spread apart, not densely located. The average of competition is complete. The cost of living is low. Folk work is seasonal. The villagers strictly adhere to the traditions. The expansion of Ban Ta – Kroar was due to the migration of people from other areas. The development of Ban Ta – Kroar had increased from 1907 due to the fact that the raiway line was introduced to Surin province in 1925. Wat Pathhumsawang or Wat Ban Ta – Kroar School was established in 1982. Ban Ta – Kroar had electricity in 1996. The macafamized road was first introduced from Ban Chang – Pi due to the rapidly growing economy in 1996. The growth rate of Thai economy had slowed down since 1997. Economic crisis bubble burst made people unemployed and massive business closed down in 1998. Subsequently, in 2000, the Thai economy began to recover and the philosophy of sufficiency economy was introduced. In the midst of globalization, Ban Ta – Kroar can preserve some of the traditional farming societies, especially the tradition of philanthropy, making rituals based on beliefs as a society dependent on ethnic groups in the same community. At the present, it is found that Ban Ta – Kroar combines modernity and dependent relationship relatives.

มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์. สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ

Address: สุรินทร์

Email: arit@srru.ac.th

Name: ดำเกิง โถทอง

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Name: วิลาศ โพธิสาร

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Created: 2561

Modified: 2020-08-24

Issued: 2563-08-24

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: 959.377 ก213ป

tha

DegreeName: ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: สังคมศึกษา

Grantor: มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์

©copyrights มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	KANTHIMA THONGLOR.pdf	51.17 MB	15	2024-11-02 12:35:57

ใช้เวลา

0.035357 วินาที