การตรวจสอบชิ้นงานที่มีความหนาแตกต่างกันโดยการทดสอบด้วยภาพถ่ายรังสี

Inspection of Varying Thickness in Specimens for Radiographic Testing

Name: พัฒนพงษ์ ปัญญาแก้ว

keyword: การทดสอบด้วยภาพถ่ายรังสี

; Radiographic Testing

Abstract: โครงงานวิจัยอุตสาหกรรมนี้เป็นการตรวจสอบชิ้นงานที่มีความหนาแตกต่างกันโดยการทดสอบด้วย ภาพถ่ายรังสี เพื่อหาเทคนิคที่เหมาะสมในการตรวจสอบชิ้นงานที่มีความหนาแตกต่างกัน โดยชิ้นงาน ที่ใช้ทดสอบเป็นอลูมิเนียมแบบขั้นบันไดมีความหนาตั้งแต่ 4- 32 มิลลิเมตร จากผลการทดลองค่า พลังงานที่ใช้ในการถ่ายภาพด้วยรังสีในแต่ละเทคนิคที่ค่าพลังงานที่ 90 kV จะมีช่วงความเข้มฟิล์มที่ใช้ แปลผลได้กว้างที่สุด ซึ่งใช้เทคนิคในการทดสอบดังนี้เทคนิคที่หนึ่งคือการถ่ายภาพด้วยรังสีแบบฟิล์ม เดียวโดยใช้ฟิล์มความไวแสงปานกลางจะได้ค่าความเข้มที่สามารถแปลผลได้ตั้งแต่ความหนา 10-22 มิลลิเมตร เทคนิคที่สองคือการถ่ายภาพด้วยรังสีแบบฟิล์มเดียวโดยใช้ฟิล์มความไวแสงต่ำจะได้ค่า ความเข้มที่สามารถแปลผลได้ตั้งแต่ความหนา 11-21 มิลลิเมตร เทคนิคที่สามคือการถ่ายภาพด้วยรังสี แบบซ้อนฟิล์ม โดยใช้ความไวแสงของฟิล์มเท่ากันด้วยฟิล์มความไวแสงปานกลาง จะได้ค่าความเข้มที่ สามารถแปลผลได้ตั้งแต่ความหนา 11-27 มิลลิเมตรเทคนิคที่สี่คือการถ่ายภาพด้วยรังสีแบบซ้อนฟิล์ม โดยใช้ความไวแสงของฟิล์มต่างกัน โดยกรณีที่ควบคุมเอกซ์โพเซอร์ที่ฟิล์มความไวแสงต่ำจะได้ค่า ความเข้มที่สามารถแปลผลได้ตั้งแต่ความหนา 11-21 มิลลิเมตรและ 23-32 มิลลิเมตร และในส่วน ควยคุมค่าเอกซ์โพเซอร์ที่ฟิล์มความไวแสงปานกลาง จะได้ค่าความเข้มที่สามารถแปลผลได้ตั้งแต่ ความหนา 4-8 มิลลิเมตร และ 10-21 มิลลิเมตร จากผลการทดลองรจะพบว่าเทคนิคการถ่ายภาพด้วย รังสีแบบซ้อนฟิล์ม โดยใช้ความไวแสงของฟิล์มต่างกันที่ควบคุมค่าเอกซ์โพเซอร์ที่ฟิล์มความไวแสง ต่ำ จะได้ช่วงค่าความเข้มที่สามารถแปลผลได้มากที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับเทคนิคอื่นๆที่ใช้ในการ ทดลองแต่ค่าความเข้มที่ยอมรับได้จะไม่ต่อเนื่องในบางช่วงความหนา

Abstract: This research shows the inspection of varying thickness of specimens using radiographic test. The purpose is to find the proper method to test the specimen which has the different thickness. The aluminum stepped wedge thickness between 4-32 mm is used in experiment. The energy level at 90 kV shows the best result. The single film, medium speed, is used for the first technique. It shows the result of the density which is varied from the thickness of 10-22 mm. The single film, low speed, is used for the second technique. It shows the result of the density which is vary from the thickness of 11-21 mm. The double, medium speed films show the result of the density which is varied from the thickness of 11-27 mm in the third technique. The fourth technique used double films consist of medium speed and low speed with the low speed exposure show the. result of 11-22 mm and 23-32 mm. The last technique, the same materials like the fourth technique but medium speed exposure, shows the density which is varied from the thickness of 4-8 mm and 10-22 mm. In conclusion, the fourth technique is in effect because it shows the best density. However, the density at some points is not acceptable.

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี. สำนักหอสมุด.

Address: กรุงเทพมหานคร

Email: info.lib@mail.kmutt.ac.th

Name: อาษา ประทีปเสน

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Name: นิธิ บุรณจันทร์

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Created: 2553-04-21

Modified: 2553-04-21

Issued: 2553-04-21

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: PRE2035

tha

DegreeName: วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: วิศวกรรมอุตสาหการ

Grantor: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

©copyrights มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	PRE2035.pdf	3.34 MB	102	2025-01-20 20:24:28
2	PRE2035ab.pdf	91.87 KB	33	2024-01-28 15:06:15

ใช้เวลา

0.035054 วินาที