การพัฒนาความตระหนักรู้ในวัฒนธรรมที่แตกต่างของผู้เรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาต่างประเทศผ่านการใช้รูปแบบการสอนวรรณคดี

Fostering Intercultural Awareness of EFL Learners Through the use of Literature Instructional Model

Name: ปองเอก เพ็งลุน

Address: 53/2823 Baan Preuksa Village 20, Moo 2 Kukot, Lam Lukka, Pathumthani

keyword: ความตระหนักรู้ในวัฒนธรรมที่แตกต่าง

; ผู้เรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาต่างประเทศ

; รูปแบบการสอนวรรณคดี

; Intercultural awareness

; EFL Learners

; Literature Instructional Model

Abstract: งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาระดับการตระหนักรู้วัฒนธรรมที่แตกต่างของนักศึกษาสาขาวิชาภาษาอังกฤษ ชั้นปีที่ 3 2) เพื่อศึกษาหาประสิทธิภาพของรูปแบบการสอนวรรณคดีในการเสริมสร้างการตระหนักรู้วัฒนธรรมที่แตกต่างของนักศึกษาสาขาวิชาภาษาอังกฤษ ชั้นปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 และ 3) เพื่อศึกษาทัศนคติของนักศึกษาต่อการใช้รูปแบบการสอนวรรณคดี ประชากร คือ นักศึกษาสาขาวิชาภาษาอังกฤษ ชั้นปีที่ 3 จำนวน 47 คน คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ที่ลงทะเบียนเรียนในรายวิชา เรื่องสั้น ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 กลุ่มตัวอย่าง คือ นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาวิชาภาษาอังกฤษ จำนวน 24 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบสุ่มอย่างง่าย (Simple random sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ บทเรียนเรื่องสั้น 9 แผน แบบทดสอบการตระหนักรู้วัฒนธรรมที่แตกต่าง แบบสอบถามแบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง แบบเขียนสะท้อนคิด และแบบสังเกตการณ์ในชั้นเรียน ข้อมูลเชิงปริมาณใช้การวิเคราะห์ทางสถิติโดยการหาค่า paired sample t-test ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และขณะที่ข้อมูลเชิงคุณภาพ ใช้การวิเคราะห์เนื้อหา (Content analysis) ผลการศึกษาพบว่า 1) มีความแตกต่างระหว่างคะแนนเฉลี่ยจากแบบทดสอบการตระหนักรู้วัฒนธรรมที่แตกต่างก่อนและหลังเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 มีค่าอิทธิพลเฉลี่ย 1.350 ซึ่งหมายถึงค่าอิทธิพลมาก และมีการตระหนักรู้วัฒนธรรมที่แตกต่าง 2) การใช้รูปแบบการสอนวรรณคดีเพื่อเสริมสร้างการตระหนักรู้วัฒนธรรมที่แตกต่าง มีประสิทธิภาพมีค่าเท่ากับ 81.57/81.13 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่ตั้งไว้ 80/80 3) แบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง แบบเขียนสะท้อนคิด แบบสังเกตในชั้นเรียน นำมาช่วยเสริมผลของแบบสอบถามว่า นักศึกษามีทัศนคติในแง่บวกต่อการสอนนี้โดยใช้รูปแบบการสอนวรรณคดี ในภาพรวมอยู่ในระดับ “เห็นด้วย” (x̄ = 4.26 and S.D. = 0.33) นอกจากนี้ผลการศึกษาของแบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง พบว่า รูปแบบการสอนวรรณคดีส่งเสริม การตระหนักรู้วัฒนธรรมที่แตกต่างและเปลี่ยนแปลงทัศนคติที่ดีของนักศึกษาต่อวัฒนธรรมที่เหมือนกันและแตกต่างกันในประเทศกลุ่มประชาคมอาเซียน เช่นเดียวกันกับกิจกรรมของรูปแบบการสอนวรรณคดีในแต่ละบทเรียนสามารถส่งเสริมการอภิปรายกลุ่มและการมีส่วนร่วมในชั้นเรียน"

Abstract: The purposes of this research were 1) to investigate the intercultural awareness levels of third-year English major students towards the literature instructional model 2) to examine the effectiveness of the literature instructional model to enhance intercultural awareness of third-year English major students with the set criteria of 80/80 and 3) to investigate the opinions of third-year English major students towards the literature instructional model. The population was 47 third-year English major students enrolling in the Short Story Course of the First Semester of Academic Year 2019, from the Faculty of Education, Buriram Rajabhat University. The 24 subjects were selected by simple random sampling. The research instruments were 9 ASEAN short story lessons, an intercultural awareness test, a questionnaire, a semi-structured interview, a reflective writing, and a classroom observation. The paired sample t-test, mean, and standard deviation were used to analyse the quantitative data whereas content analysis was used for the qualitative data. The study revealed three results: First, a significant difference was seen between the mean scores of pre-and post-intercultural awareness test at a significant level of.05 with the effect size at 1.350, which showed a large effect and students’ intercultural awareness was at intercultural awareness level. Second, the effectiveness of the literature instructional model to enhance EFL students’ intercultural awareness at 81.57/81.13, which was higher than the expected criteria 80/80. Finally, an open-ended questionnaire, a semi-structured interview, a reflective writing, and a classroom observation were used to supplement the results of the questionnaire that students expressed positive opinions towards the literature instructional model overall at “agree” level ( x̄ = 4.26 and S.D. = 0.33). In addition, the results of a semistructured interview revealed that the literature instructional model could promote students’ intercultural awareness and change their positive attitudes towards the similarities and differences of culture in the member states of the ASEAN community as well as the literature instructional model activities of each lesson could enhance students’ group discussion and participation in classroom.

มหาวิทยาลัยพะเยา.ศูนย์บรรณสารและสื่อการศึกษา

Address: พะเยา

Email: clm@up.ac.th

Name: สุกัญญา เกาะวิวัฒนากุล

Role: ประธานที่ปรึกษา

Name: คมกฤช ตาชม

Role: กรรมการที่ปรึกษา

Name: สิงห์คำ รักป่า

Role: กรรมการที่ปรึกษา

Created: 2563

Modified: 2021-04-08

Issued: 2563-08-05

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

Descipline: English

Grantor: University of Phayao

DegreeName: การศึกษาดุษฎีบัณฑิต

Level: ปริญญาเอก

Descipline: ภาษาอังกฤษ

©copyrights มหาวิทยาลัยพะเยา

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	Pong-ek Pengloon.pdf	4.57 MB	20	2023-06-19 13:50:05

ใช้เวลา

0.084833 วินาที