การศึกษาวิธีการสกัดสารปรุงแต่งกลิ่นรสแมลงดานาจากต้นทำมัง (Litsea petiolata)

Study of Extraction Methods for 'Malangdana' Flavoring Agent from Tham-mang tree (Litsea petiolata)

Name: ณภัทร พิมพ์ผะกา

keyword: สารปรุงแต่งกลิ่นรสแมลงดานา

Abstract: การศึกษาวิธีการสกัดสารปรุงแต่งกลิ่นและรสแมลงดานาจากต้นทำมัง (Litsea petiolata) โดยใช้ส่วนของ ใบและกิ่ง ทั้งแบบสดและแห้ง โดยวิธีการทำแห้งใช้ 2 วิธี คืออบแห้งที่ 50 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 24 ชั่วโมงและตากแห้งในที่ร่มเป็น 7 วัน นำทุกตัวอย่างมาสกัด 3 วิธีได้แก่ การต้มกลั่น กลั่นพร้อม สกัด (simultaneous distillation extraction) และสกัดด้วยตัวทำละลาย 3 ชนิด (เอทานอล ปิโตรเลียม อีเทอร์ และไดเอทิลอีเทอร์) พบว่าน้ำมันหอมระเหยทำมังทั้ง 30 ทรีตเมนท์ มีสารหอมระเหย(volatile compounds) 11 ชนิด มีสารสำคัญ (major volatile compounds) 5 ชนิด ได้แก่ undec-1O-en-2-one, 2- undecanone, tridec-12-en-2-onc, undecanal และ 2-tridecanone มี odor description เป็น citrus, fresh green, wood, spice และ sweet แต่ % relative peak ของน้ำมันหอมระเหยใบทำมังอบแห้งสกัดด้วยการ ต้มกลั่นมีสารสำคัญ 5 ชนิดสูงที่สุดเท่ากับ 48.9, 21.0, 10.2, 6.1 และ 2.5 ตามลำดับ และไม่แตกต่าง จากน้ำมันหอมระเหยใบทำมังอบแห้งจากการกลั่นพร้อมสกัด ถึงแม้ว่าน้ำมันหอมระเหยจาก ใบทำมังอบแห้งที่สกัดด้วยการกลั่นพร้อมสกัด และจากการต้มกลั่นให้ปริมาณของน้ำมันหอมระเหย สูงร้อยละ 3.7 และ 3.3 (w/w น้ำหนักแห้ง) แต่ปริมาณสารโพลีฟีนอลต่ำเท่ากับ 0.76 mg gallic acid/g extract อย่างไรก็ตามปริมาณแทนนินในน้ำมันหอมระเหยทำมังจากส่วนกิ่งและใบ ในทุกวิธีสกัดมี ปริมาณแทนนินส฿ง 11.36 - 36.2 mg catechin/g extract สำหรับความสามารถในการจับสารอนุมูล อิสระ พบว่าน้ำมันหอมระเหยจากใบอบแห้งจากการต้มกลั่น มีค่า % scavenging effect ต่ำกว่าน้ำมัน หอมระเหยที่ได้จากทำมังส่วนใบและกิ่ง และการสกัดทุกวิธี เมื่อนำน้ำมันหอมระเหยทำมังทั้ง 30 ทรีตเมนท์มาทำการทดสอบการยับยั้งการเจริญของเชื้อ Leuconostoc mesenteroides และ Escherichia coli โดยวิธี disc diffusion agar method พบว่าน้ำมันหอมระเหยจากส่วนของใบทำมังจาก ทุกวิธีการสกัด ยกเว้นการสกัดโดยปิโตรเลียมอีเทอร์ สามารถยับยั้งเชื้อ L. mesenteroides ได้โดยมี clear zone เท่ากับ 6.00 - 10.00 มิลลิเมตร วโดยการยับยั้งเชื้อ E. coli น้ำมันหอมระเหยใบทำมังอบแห้ง สกัดด้วยการต้มกลั่นมี clear zone เท่ากับ 6.00 - 7.87 มิลลิเมตร เมื่อเปรียบเทียบความแตกต่างทางประสาทสัมผัสทางด้านกลิ่นของน้ำมันหอมระเหยทำมังที่ได้จาก วิธีการต้มกลั่นทั้งส่วนของใบและกิ่ง ชนิดสด ชนิดอบแห้ง และชนิดตากแห้ง กับกลิ่นแมลงดานา สังเคราะห์ และแมลงดานา พบว่า น้ำมันหอมระเหยจากส่วนของใบทำมังอบแห้งจากการต้มกลั่น มี กลิ่นไม่แตกต่างกับกลิ่นของแมลงดานา เมื่อนำน้ำมันหอมระเหยทำมังส่วนใบอบแห้งมาประยุกต์ใช้ เป็นสารปรุงแต่งกลิ่นรสแมลงดานาในน้ำพริก พบว่าความเข้มข้นน้อยกว่าร้อยละ 0.5 น้ำพริกไม่มี รสขม ไม่ฝาด มีกลิ่นของแมลงดานาชัดเจน มีความชอบโดยรวมไม่แตกต่างกับน้ำพริกที่ใส่แมลงดา นา ส่วนค่าความเข้มข้นต่ำสุดของน้ำมันหอมระเหยทำมังส่วนของใบทำมังอบแห้ง จากการต้มกลั่นที่ ใส่ในน้ำพริกและได้คะแนนทางด้านรสชาติ กลิ่น (น้ำพริก) กลิ่นแมลงดานา (กลิ่น) และความชอบ โดยรวมไม่แตกต่างกับน้ำพริกแมลงดานา ที่ความเข้มข้นร้อยละ 0.14

Abstract: A study of extraction of essential oil (EO) from Tham-mang (Litsea petiolata) was conducted. Different of plant parts in terms of fresh and dried leaves and stem was extracted. Dried plants were done under hot air oven at 50c for 24 hr. and shade dry for 7 days. Extraction methods applied in this study hydro-distillation, simultaneous distillation extraction (SDE), and extraction using solvent such as ethanol, petroleum ether and diethyl ether. It was found that all thirty oil samples from L. petiolata consisted of 11 volatile compounds and among which five compounds; undec-1O-en-2-one, 2-undecanone, tridec-12-en-2-onc, undecanal and 2-tridecanone, were the major components. Odor description of the five major compounds was citrus, fresh green, wood, spice and sweet. The percent relative peak of five major compounds in oil extracted from oven-dried leaves using hydro-distillation was highest at 48.9%, 21.0%, 10.2%, 6.1 %, and 2.5%, respectively. However, oils extracted from oven-dried leaves by SDE also gave a greater relative peak area. Although oils from oven-dried leaves extracted by SDE and hydro-distillation had the greatest yield at 3.7% and 3.3% (w/w of dry weight), its total phenolic compounds was lowest at 0.76 mg gallic acidlg extract. Results also showed that tannin contents from EOs by all extraction procedures were relatively high at 11.36 - 36.27 mg catechinlg extract. When antioxidant activity was measured, percent scavenging effect of EOs from oven dried leaves extracted by hydro-distillation was less than EOs by other methods. Moreover, all thirty oil samples extracted from L. petiolata were tested for their antibacterial against Leuconostoc mesenteroides and Escherichia coli by disc diffusion agar method. Results indicated that EOs extracted from oven-dried leaves by all extraction method, except from petroleum extract could inhibit the growth of L. mesenteroides which clear zone of 6.00 - 10.00 mm. was observed. EOs extracted from oven-dried leave using hydro-distillation shows the highest efficiency in inhibition the growth of E. coli with clear zone of 6.00 - 7.87 mm. was detected. Sensory analysis of EOs from leaves and stems (fresh, oven-dry and shade-dry) and L. petiolata extracted by hydro-distillation were evaluated and compared with synthetic compound and giant water bug. It was found that the odor of EOs did not differ from the natural and synthetic ones. EOs extracted from oven-dried leaves by hydro-distillation was added in chilli paste (numprick) for replacing the usage of natural giant water bug. Panelists preferred the sample added EOs at concentration less than 0.5% due to the taste was not bitter and pungent and the odor was strong. Overall acceptance of this sample did not differ from that chilli paste with giant water bug. Addition of extraction EOs from oven-dried leaves by hydro-distillation was possible at the minimum concentration of 0.14% whose sensory scores for taste, chilli paste odor, giant water bug odor and overall acceptance did not differ from those added natural giant water bug.

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี. สำนักหอสมุด.

Address: กรุงเทพมหานคร

Email: info.lib@mail.kmutt.ac.th

Name: ณัฎฐา เลาหกุลจิตต์

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Created: 2552-12-13

Modified: 2552-12-13

Issued: 2552-12-13

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: BCT209

tha

DegreeName: วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: เทคโนโลยีชีวเคมี

Grantor: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

©copyrights มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	BCT209.pdf	3.84 MB	257	2022-12-10 11:40:30
2	BCT209ab.pdf	145.12 KB	125	2023-11-27 13:55:54

ใช้เวลา

0.029585 วินาที