อิทธิพลของขนาดกลุ่มตัวอย่างที่มีต่อการตรวจสอบการทำหน้าที่ต่างกันของข้อสอบ O-Net ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

การเปรียบเทียบระหว่างวิธี Hglm กับวิธี Sibtest =The effect of samplesize on the detection of differential item functioning using grade 6 o-net results and two methods : hgml and sibtest

Name: ธนัญญา มานะคิด

ThaSH: มหาวิทยาลัยบูรพา.สาขาวิชาการวิจัยและสถิติทางวิทยาการปัญญา

ThaSH: ข้อสอบ

ThaSH: การวัดผลทางการศึกษา

ThaSH: นักเรียนประถมศึกษา -- การสอบ

ThaSH: การศึกษา -- แบบทดสอบ

ThaSH: แบบทดสอบ

Abstract: การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ1) วิเคราะห์คุณภาพของข้อสอบ O-NET ทั้ง 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ 2) ตรวจสอบการทำหน้าที่ต่างกันของข้อสอบ O-NET ด้วยวิธี HGLM กับวิธี SIBTEST และ 3) เปรียบเทียบประสิทธิภาพของผลการตรวจสอบการทำหน้าที่ต่างกันของข้อสอบ O-NET ภายใต้เงื่อนไขขนาดกลุ่มตัวอย่าง 3 ขนาด คือ ขนาดเล็ก (300 คน) ขนาดกลาง (1,000 คน) และขนาดใหญ่ (2,000 คน) ระหว่างวิธี HGLM กับวิธี SIBTEST ใช้ข้อมูลทุติยภูมิ ซึ่งเป็นผลการตอบข้อสอบ O-NET ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2556 จำนวน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ประกอบด้วย 1) ภาษาไทย 2) สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม 3) ภาษาต่างประเทศ 4) คณิตศาสตร์ 5) วิทยาศาสตร์ 6) สุขศึกษา และพลศึกษา 7) ศิลปะ และ 8) การงานอาชีพและเทคโนโลยี จากสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) วิเคราะห์คุณภาพของข้อสอบโดยใช้ทฤษฎีการตอบสนองข้อสอบ แบบ 3 พารามิเตอร์ ด้วยโปรแกรม Xcalibre Version 4.2.2 ผลการวิจัยปรากฏว่า 1. ข้อสอบ O-NET ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ทั้ง 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ มีค่าอำนาจจำแนกของข้อสอบ (a) อยู่ในระดับที่สามารถจำแนกผู้เข้าสอบได้ดี มีค่าความยากของข้อสอบ (b) อยู่ในระดับค่อนข้างยาก โดยข้อสอบกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และศิลปะ มีค่าความยากของข้อสอบ (b) อยู่ในระดับยาก และค่าโอกาสการเดาของข้อสอบ (c) ไม่เกิน 0.30 2. การตรวจสอบการทำหน้าที่ต่างกันของข้อสอบ O-NET ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ทั้ง 8 กลุ่มสาระ การเรียนรู้ ด้วยวิธี HGLM กับวิธี SIBTEST ภายใต้เงื่อนไขขนาดกลุ่มตัวอย่าง 3 ขนาด คือ ขนาดเล็ก (300 คน) ขนาดกลาง (1,000 คน) และขนาดใหญ่ (2,000 คน) ปรากฏว่า ขนาดกลุ่มตัวอย่างมีอิทธิพลต่อการตรวจสอบการทำหน้าที่ต่างกันของข้อสอบ เมื่อกลุ่มตัวอย่างขนาดใหญ่ ตรวจพบ DIF มากกว่า กลุ่มตัวอย่างขนาดกลาง และกลุ่มตัวอย่างขนาดเล็ก วิธี HGLM ตรวจพบ DIF ได้มากกว่าวิธี SIBTEST 3. ประสิทธิภาพของผลการตรวจสอบการทำหน้าที่ต่างกันของข้อสอบ O-NET ระหว่าง วิธี HGLM กับวิธี SIBTEST เมื่อพิจารณาจากอัตราความคลาดเคลื่อนประเภทที่ 1 (Type I error) ปรากฏว่า กลุ่มตัวอย่างขนาดเล็กมีอัตราความคลาดเคลื่อนน้อยและจะสูงขึ้นเมื่อกลุ่มตัวอย่างมีขนาดเพิ่มขึ้น ทั้ง 2 วิธีมีประสิทธิภาพการตรวจสอบการทำหน้าที่ต่างกันของข้อสอบไม่แตกต่างกัน

Abstract: The objectives of this research were to analyze the item quality of the O-NET examination across eight groups of curriculum implementation, to examine the differential functions of O-NET items by using HGLM and SIBTEST methods, and to compare the performance of the functions of the O-NET items under the condition of three different sample sizes, that is, small (n = 300), medium (n = 1,000), and large (n = 2,000) and also between HGLM and SIBTEST methods. Secondary data, O-NET examination results, were obtained from the National Institute of Educational Testing Service, involving Grade 6 students in the academic year 2556, and were examined for all eight groups of curriculum implementation: 1) Thai, 2) social studies, religion and culture, 3) foreign languages, 4) mathematics, 5) science, 6) health and physical education, 7) art, and 8) work, career, and technology. The three-parameter logistic model of item response theory was used to examine item quality. Statistical analysis was performed using Xcalibre Version 4.2.2. The results showed that: 1. The O-NET items of grade six across eight groups of curriculum implementation had good discrimination levels, and quite a high difficulty level. The science and art curriculum implementation had the highest levels of item difficulty, with item guessing parameters below 0.30. 2. Examination of differential item function of O-NET for grade six across eight curriculum implementation with HGLM and SIBTEST methods under the three different sample sizes (small, medium, and large) indicated that sample size affected differential item functioning (DIF). The larger sample size had a better examination of DIF than the medium and small sample sizes. The HGLM method outperformed SIBTEST method in terms of DIF detection. 3. The effectiveness of the performance results of differential item function of O-NET items between HGLM and SIBTEST methods, when considering the rate of type I error, demonstrated that small sample size had a lower rate. Furthermore, both HGLM and SIBTEST were comparable in the effectiveness of the examination results differential item functioning.

มหาวิทยาลัยบูรพา. สำนักหอสมุด

Address: ชลบุรี

Email: buulibrary@buu.ac.th

Name: ปิยะทิพย์ ประดุจพรม

Role: อาจารย์ที่ปรึกษาหลัก

Created: 2561

Modified: 2563-06-09

Issued: 2563-06-09

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: ว 372.126 ธ211อ

tha

DegreeName: วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: การวิจัยและสถิติทางวิทยาการปัญญา

Grantor: มหาวิทยาลัยบูรพา

©copyrights มหาวิทยาลัยบูรพา

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	56910389.pdf	4.31 MB	26	2024-02-07 18:12:33

ใช้เวลา

0.019941 วินาที