ความสัมพันธ์ระหว่างแรงจูงใจในการปฏิบัติงานกับความผูกพันต่อองค์การของพนักงานสายสนับสนุนมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
Relationship between work motivation and organizational commitment of supporting staff in Thammasat University
Abstract:
การศึกษาค้นคว้าวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาความผูกพันต่อองค์การของพนักงานสายสนับสนุนมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 2) ศึกษาแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของพนักงาน สายสนับสนุนมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 3) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างแรงจูงใจในการปฏิบัติงานกับความผูกพันต่อองค์การของพนักงานสายสนับสนุนมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ประชากรและกลุ่มตัวอย่างคือ พนักงานมหาวิทยาลัยสายสนับสนุนที่ปฏิบัติงานในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จำนวนทั้งสิ้น 339 คน โดยใช้การสุ่มแบบแบ่งชั้นตามสัดส่วนและการสุ่มอย่างง่าย จากจำนวนประชากร 2,219 คน คำนวณขนาดกลุ่มตัวอย่างตามสูตรของทาโร่ ยามาเน่ การเก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม ที่มีระดับความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.86 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน ผลการวิจัยพบว่า 1) พนักงานสายสนับสนุนที่เป็นกลุ่มตัวอย่างมีความผูกพันต่อองค์การโดยรวมอยู่ในระดับมาก ( = 3.90, S.D. = 0.86) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านความเต็มใจและทุ่มเทความพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่เพื่อองค์การ ( = 4.09, S.D. = 0.79) และมีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ ด้านความเชื่อมั่นที่จะยอมรับเป้าหมายและค่านิยมขององค์การ ( = 3.73, S.D. = 0.85) 2) พนักงานสายสนับสนุนที่เป็นกลุ่มตัวอย่างมีแรงจูงใจในการปฏิบัติงานโดยรวมอยู่ในระดับมาก ( = 3.73, S.D. = 0.80) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านมีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด คือ ด้านความรับผิดชอบ ( = 4.11, S.D. = 0.71) และมีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือด้านความก้าวหน้า ( = 3.20, S.D. = 0.92) 3) ผลการทดสอบสมมุติฐานพบว่าแรงจูงใจในการปฏิบัติงานโดยรวมมีความสัมพันธ์กับความผูกพันต่อองค์การของพนักงานสายสนับสนุน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เชิงบวกในระดับสูง มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า แรงจูงใจในการปฏิบัติงานทุกด้าน ทั้งด้านความสำเร็จในการทำงาน ด้านการได้รับการยอมรับนับถือ ด้านลักษณะงานที่ปฏิบัติด้านความรับผิดชอบ และด้านความก้าวหน้า มีความสัมพันธ์กับความผูกพันต่อองค์การทุกด้าน ได้แก่ ด้านความเชื่อมั่นที่จะยอมรับเป้าหมายและค่านิยมขององค์การด้านความเต็มใจและทุ่มเทความพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่เพื่อองค์การ และด้านความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะคงความเป็นสมาชิก 4) ข้อเสนอแนะจากการวิจัย คือ ผู้บริหารองค์การตลอดจนผู้บังคับบัญชาในแต่ละลำดับชั้น ควรให้ความสำคัญกับการกำหนดแนวทางและกระบวนการบริหารงานที่เป็นธรรม พร้อมที่จะส่งเสริมและให้ความเท่าเทียมกันของพนักงาน ในการเพิ่มโอกาสด้านความก้าวหน้าของพนักงานสายสนับสนุนให้ มากขึ้น เพื่อพนักงานสายสนับสนุนจะได้มีแรงจูงใจในการปฏิบัติงานซึ่งจะส่งให้พนักงานมีความผูกพันกับองค์การเพิ่มมากขึ้นในด้านความเชื่อมั่นที่จะยอมรับเป้าหมายและค่านิยมขององค์การด้านความเต็มใจและทุ่มเทความพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่เพื่อองค์การและด้านความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะคงความเป็นสมาชิกภาพในองค์การส่งผลดีกับองค์การต่อไป
มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์. สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ
Role:
ประธานที่ปรึกษาการค้นคว้าอิสระ.
CallNumber:
วพ 352.39 พ247ค 2560
©copyrights มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ฯ