แจ้งเอกสารไม่ครบถ้วน, ไม่ตรงกับชื่อเรื่อง หรือมีข้อผิดพลาดเกี่ยวกับเอกสาร ติดต่อที่นี่ ==>
หากไม่มีอีเมลผู้รับให้กรอก thailis-noc@uni.net.th ติดต่อเจ้าหน้าที่เจ้าของเอกสาร กรณีเอกสารไม่ครบหรือไม่ตรง

แนวทางการปรับตัวของผู้สูงอายุในจังหวัดกาฬสินธุ์ กรณีศึกษา กลุ่มผู้สูงอายุในอำเภอนามน จังหวัดกาฬสินธุ์
Guidelines for Adjusting of the Elderly in Kalasin Province : A Case Study of the Elderly in Na Mon District, Kalasin Province

Organization : มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์
keyword: ผู้สูงอายุ
ThaSH: ผู้สูงอายุ -- การดูแล -- กาฬสินธุ์
Abstract: การทำการวิจัย เรื่อง แนวทางการปรับตัวของผู้สูงอายุในจังหวัดกาฬสินธุ์ กรณีศึกษา กลุ่มผู้สูงอายุในอำเภอนามน จังหวัดกาฬสินธุ์ มีวัตถุประสงค์ในการวิจัย ๑.เพื่อสำรวจจำนวนผู้สูงอายุในเขต อำเภอนามน จังหวัดกาฬสินธุ์ ๒.เพื่อศึกษารูปแบบความสัมพันธ์ของผู้สูงอายุในการดำเนินชีวิตในปัจจุบันต่ออาชีพ รายได้ การศึกษา กิจกรรมและอื่นๆ ๓. เพื่อหาแนวทางในการปรับตัวของกลุ่มผู้สูงอายุและรูปแบบการบริหารจัดการให้สามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับสังคมและชุมชนได้อย่างมีความสุข ประชากร คือ ผู้สูงอายุในเขตอำเภอนามน จังหวัดกาฬสินธุ์ ที่มีอายุตั้ง 60 ขึ้นไป กลุ่มตัวอย่างโดยวิธีการคัดเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) จากเทศบาลสงเปลือย หมู่ที่ 1 บ้านสงเปลือย ผู้สูงอายุ 64 คน หมู่ที่ 3 บ้านคำงิ้ว 67 คน จากตำบลหลักเหลี่ยม หมู่ที่ 5 บ้านสังคมพัฒนา ผู้สูงอายุ 58 คน หมู่ที่ 8 บ้านสังคมพัฒนา ผู้สูงอายุ 64 คน จากองค์การบริหารส่วนตำบลยอดแกง หมู่ที่ 4 บ้านพัฒนาอนามัย ผู้สูงอายุ 97 คน และหมู่ที่ 10 บ้านห้วยแกง ผู้สูงอายุ 50 คน วิธีดำเนินการวิจัย ๑.สำรวจข้อมูลของผู้สูงอายุในเขตอำเภอนามน จังหวัดกาฬสินธุ์ เก็บข้อมูลโดยการสอบถาม สัมภาษณ์ และจากเอกสารจากผู้นำหมู่บ้าน ผู้นำชุมชน ๒. เก็บข้อมูลโดยจัดทำแบบสอบถามรูปแบบความสัมพันธ์ของผู้สูงอายุ ในการดำเนินชีวิตในปัจจุบันต่ออาชีพ รายได้ การศึกษา กิจกรรมและอื่นๆ ๓. จัดเวทีเพื่อหาแนวทางในการปรับตัวของกลุ่มผู้สูงอายุและรูปแบบการบริหารจัดการ ให้สามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับสังคมและชุมชนได้อย่างมีความสุข ร่วมแสดงความคิดเห็น ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม สรุปภาพรวม การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) โดยการบรรยายเชิงพรรณนา สรุปข้อมูลที่ได้จากการดำเนินการวิจัย ผลการวิจัยพบว่า ประชากรในเขตอำเภอนามน จังหวัดกาฬสินธุ์ มีทั้งสิ้น ๓๓,๐๕๗ คน แบ่งเป็น เพศหญิง ๑๖,๕๘๒ คน คิดเป็นร้อยละ ๕๐.๑๖ เพศชาย ๑๖,๔๗๕ คน คิดเป็นร้อยละ ๔๙.๘๔ และสำรวจตามพื้นที่การปกครอง ๕ เขต ๖๖ หมู่บ้านมีผู้สูงอายุ ๒,๘๔๓ คน อายุระหว่าง ๖๐-๖๙ ปีมี ๑,๘๗๘ คนคิดเป็นร้อยละ ๖๖.๐๖ อายุระหว่าง ๗๐-๗๙ ปี มี ๗๔๐ คน คิดเป็นร้อยละ ๒๖.๐๓ อายุระหว่าง ๘๐-๘๙ ปี มี ๒๐๓ คน คิดเป็นร้อยละ ๗.๑๔ อายุ ๙๐ ปี ขึ้นไปมี ๒๒ คน คิดเป็นร้อยละ ๐.๗๗ รูปแบบความสัมพันธ์ของผู้สูงอายุในการดำเนินชีวิตในปัจจุบันต่ออาชีพ รายได้ การศึกษา กิจกรรมและอื่นๆ รูปแบบความสัมพันธ์ของผู้สูงอายุในการดำเนินชีวิตและแนวทางการการปรับตัว พบว่า ด้านการประกอบอาชีพและการศึกษาและรายได้ ผู้สูงอายุจบการศึกษาระดับชั้นปฐมศึกษาตอนต้น ประกอบอาชีพการเกษตร การค้าขาย และรับจ้างทั่วไป ต้องการให้หน่วยงานของรัฐเข้ามาช่วยเหลือการประกันราคาสินค้าทางการเกษตร ต้องการให้มีการอบรมความรู้ใหม่ๆ เทคนิคทางด้านการเกษตร ให้รัฐบาลจัดการศึกษาให้มีคุณภาพทุกคน ให้มีแหล่งจำหน่ายสินค้าที่ได้มาตรฐาน จะต้องปรับตัวในด้านความสามารถในการทำงานเพราะความเสื่อมถอยของร่างกายกำลังการผลิตก็ลดน้อยลงไม่มีความสามารถในการแข่งขันโดยให้ภาครัฐเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือด้านอาชีพเสริมให้เหมาะสม ควรให้ บุตรหลานเป็นผู้ทำหน้าที่แทนในการประกอบอาชีพด้านการเกษตร รายได้ มาจากการอุดหนุนจากรัฐบาล (เบี้ยยังชีพ) ขายผลิตผลทางการเกษตร การเลี้ยงดูของบุตรหลาน จากการค้าขาย ต้องการให้ ๑.เพิ่มเบี้ยยังชีพให้มากขึ้น ๒.มีรายได้ที่แน่นอนจากการประกอบอาชีพทางการเกษตร ๓.ให้รัฐช่วยเหลือคนที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน เป็นรายเดือนเหมือนกับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ๔.ให้จัดงบประมาณเพื่อส่งเสริมให้มีอาชีพเสริมเพื่อเพิ่มรายได้ให้เหมาะสมให้ครบทุกหมู่บ้าน ควรมอบภาระในการหารายได้ให้เป็นภาระของบุตรหลาน การมีส่วนร่วมกับสังคม ผู้สูงอายุเป็นสมาชิกของชมรม เป็นผู้นำชุมชนทำกิจกรรมทั้งด้านการศึกษา ศิลปวัฒนธรรมประเพณี เป็นปราชญ์ชาวบ้าน ควรจัดกิจกรรมเสริมทั้งทางด้านศิลปวัฒนธรรมประเพณี ฮีต ๑๒ คอง ๑๔ ให้มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมร่วมกันทั้งวัด บ้าน โรงเรียน จัดตั้งกลุ่ม ชมรม สมาคม ให้มีความยั่งยืนต่อเนื่อง ด้านเศรษฐกิจ การจำหน่ายสินค้าทางการเกษตรได้ราคาต่ำไม่สามารถกำหนดราคาเองได้ สินค้าอุปโภคบริโภคมีราคาสูงขึ้นมาก ต้องการให้ภาครัฐประกันราคาสินค้าทางการเกษตรอย่างชัดเจนและกำกับราคาสินค้าให้เหมาะสมกับรายได้และค่าครองชีพ จัดหาแหล่งจำหน่ายสินค้า ผลิตผลทางการเกษตรให้มีราคาสูงขึ้นทำให้มีรายได้ในครัวเรือนเพิ่มขึ้นลดภาระค่าใช้จ่ายในการผลิตให้ต่ำลงลดภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือน สิ่งแวดล้อมและอนามัย มีการกำจัดขยะมูลฝอยตามสภาพปลูกต้นไม้ภายในหมู่บ้านหรือในบ้านซื้ออาหารสำเร็จรูปซื้อน้ำดื่มผู้สูงอายุเป็นโรคเบาหวานอันดับหนึ่ง โรคความดันโลหิต โรคกระดูกโรคไขข้อและโรคเกี่ยวกับสายตา ไม่มีการตรวจสุขภาพประจำปีเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลในเบื้องต้น ควรจัดหาถังขยะและจัดเก็บขยะให้ทั่วถึงมีแหล่งกำจัดขยะที่ถูกสุขะลักษณะ ให้โรงพยาบาลประจำอำเภอหรือจังหวัดรับการรักษาไม่ปล่อยให้คนไข้ต้องเดินทางไกลๆเพื่อรักษาที่จังหวัดอื่น ควร ๑.ดูแลสุขภาพอนามัยของตัวเอง บ้านเรือนและชุมชนให้ถูกสุขลัษณะสะอาดมีความร่มรื่น ๒.ต้องปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารเลือกอาหารที่มีประโยชน์หลีกเลี่ยงอาหารที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อตัวเองมีการตรวจสุขภาพสม่ำเสมอ ปฏิบัติตนตามคำแนะนำของแพทย์และไปพบแพทย์ให้ตรงเวลาออกกำลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอ โดยชุมชนและสังคมร่วมกับหน่วยงานของรัฐให้ความสำคัญกับอนามัยและสิ่งแวดล้อมของชุมชนอย่างแท้จริงมีงบประมาณสนับสนุนการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมและอนามัยชัดเจน ด้านกีฬาและนันทนาการ ไม่มีกิจกรรมด้านกีฬา ผู้ดูแลและงบประมาณที่ชัดเจน ควรจัดให้มีกิจกรรมการออกกำลังกายให้กับผู้สูงอายุให้ทั่วถึงมีหน่วยงานที่รับผิดชอบ บุตรหลานควรดูแลผู้สูงอายุในครอบครัวอย่างใกล้ชิดไม่ปล่อยให้เป็นภาระของสังคม และการพักผ่อนหย่อนใจ ไม่มีแหล่งหรือสถานที่พักผ่อนหย่อนใจในเขตชุมชน จัดให้มีสถานที่ที่เหมาะสมในแต่ละท้องถิ่น ชุมชนเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลผู้สูงอายุ บุตรหลาน ควรเอาใจใส่ในเรื่องการพักผ่อนอย่างถูกวิธีจัดกิจกรรมสันทนาการภายในครอบครัวพบปะพูดคุยกับผู้สูงอายุให้มากขึ้นเพราะจะทำให้ผู้สูงอายุลดความเครียด ทำให้ไม่คิดฟุ้งซ่านไม่รู้สึกถูกทอดทิ้งไม่ว้าเหว่เดียวดายเกิดความสัมพันธ์อันดีภายในครอบครัว มีเพื่อนบ้านเป็นเพื่อนมีการแลกเปลี่ยนพูดคุยปรึกษาหารือรับประทานอาหารร่วมกันทำกิจกรรมร่วมกันจะช่วยผ่อนคลายความทุกข์สอบถามความเป็นอยู่ระหว่างกันและให้คำแนะนำแก่กันได้ มีสัตว์เลี้ยง การได้พูดคุยสื่อสารกับบุตรหลานที่ไปประกอบอาชีพที่อื่นจะทำให้ผ่อนคลายความทุกข์ใจได้ช่วยคลายความเหงาลดความเครียดได้ รูปแบบการบริหารจัดการ ภาครัฐหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเข้ามาเป็นผู้ดำเนินการจัดตั้งชมรม สมาคมต่างๆ (ให้เป็นทางการ/ไม่เป็นทางการ) ให้ความช่วยเหลือสนับสนุนด้านต่างๆ ทั้งนโยบาย การปฏิบัติ การพัฒนา ตลอดจนยึดหลักผลประโยชน์ของชุมชนความพอเพียงสามารถดำรงอยู่ได้อย่างยั่งยืน
Abstract: The research “Guidelines for Self-Adjusting of the Elderly in Kalasin Province : A Case Study of the Elderly in Na Mon District, Kalasin Province” aimed (1) to explore the number of elderly in the area of Na Mon district, Kalasin province, (2) to study patterns of relationship between the elderly conducting their lives at present and incomes, education, activities, and others, and (3) to investigate guidelines for adjusting of the elderly and management model for enabling the elderly to live with society and community happily. The population was elderly, aged 60 years up, in the area of Na Mon district, Kalasin province. The samples were obtained by purposive sampling from the area of Song Plueai Municipality and Yot Kaeng Sub-District Administrative Organization. They included 64 elderly from Village No. 1 of Song Plueai Village, 67 elderly from Village No. 3 of Kham Ngio Village, 58 elderly from Village No. 5 of Sangkhom Phatthana Village, 64 elderly from Village No. 8 of Sangkhom Patthana Village, 97 elderly from Village No. 4 of Patthana Anamai Village, and 50 elderly from Village No. 10 of Huai Kaeng Village. To conduct this research, the researcher (1) explored information of elderly in the area of Na Mon district, Kalasin province by inquiring, interviewing, and studying documents from leaders of villages and communities, (2) collected data using a questionnaire on patterns of relationship between the elderly conducting their lives at present and incomes, education, activities, and others, and (3) organized a forum for investigating guidelines for adjusting of the elderly and management model for enabling the elderly to live with society and community happily in order for all sectors to express ideas, participate, and summarize the whole picture of this research. The qualitative analysis was used to analyze and summarize data which were presented descriptively. The results indicated that the population in the area of Na Mon district, Kalasin province was 33,057 people, consisting of 16,582 females (50.16%) and 16,475 males (49.84%). After exploring five administrative areas including 66 villages, there were 2,843 elderly. Among these elderly, 1,878 elderly (66.06%) were 60-69 years of age. 740 elderly (26.03%) were 70-79. 203 elderly (7.14%) were 80-89. 22 elderly (0.77%) were 90 up. With regards to patterns of relationship between the elderly conducting their lives at present and incomes, education, activities, and others, it was found that the elderly with lower primary level of education were agriculturists, traders, and general employees. They needed assistance from a government organization in terms of product’s price guarantee, workshops for new knowledge, and agricultural techniques. They wanted the government to provide them with the quality education and a standard marketplace. The elderly needed to adjust to their low ability to work due to ageing, lessening productivity and ability to compete with others. They wanted the government sector to assist about appropriate additional careers. The children should carry out the elderly’s duty in agriculture. Regarding elderly’s incomes, the elderly received incomes from the allowance given by the government, selling agricultural products, and money given by their children. The elderly wanted the government to (1) increase allowance, (2) help them have a certain income from agriculture, (3) give monthly allowance to the patients with diabetes, like elderly’s allowance, and (4) allocate budget to promote additional careers to all villages. The duty to earn incomes should be provided to elderly’s children. In social participation, the elderly were members of a club, led the community to perform activities related to education, arts and culture, and customs, and were local scholars. Additional activities related to arts and culture and customs including 12 local customs (Hit 12) and 14 rules (Khong 14) should be organized. Villages, temples, and schools (government organizations) should collaboratively organize an activity. A club or association should be founded sustainably. In economics, the price of agricultural products was low. The agriculturists could not determine the price and the price of consumer products increased very much. The elderly wanted the government sector to guarantee the price of agricultural products and control the price of products in accordance with incomes and cost of living. They also wanted the government sector to seek out a marketplace for selling agricultural products with a higher price, increasing family’s incomes and reducing the cost of production and expenses of family. In the environment and health, get rid of solid waste, plant trees within villages or area of house, and buy ready-made food and drinking water. The elderly had diabetes the most. Besides, they got blood-pressure, bone diseases, arthritis, and eye diseases. They did not get an annual health check and received a primary medical treatment at a sub-district health promoting hospital. More trash cans should be provided and the trash should be collected thoroughly. There should be a healthy place for getting rid of the trash. The hospital of district or province, where the patients live, should admit the patients so that they would not go far to a hospital of other provinces. The elderly should (1) take care of their own health and keep their own house and community clean and shady, (2) adjust eating behavior to selecting healthy food, avoiding damaged food, always get a health check, follow suggestions of doctors and see the doctors according to the appointment, exercise, and have enough sleep. The community and society together with government organizations should seriously put priority on environment and health of community. There should be a certain budget allocated for supporting environment and health. In sports and recreation, there were no sport activities, persons taking responsibility, and certain budget. There should be an exercise activity for elderly with a certain organization taking responsibility. The children should closely take care of the elderly in family, not let them as social problems. In relaxation, there was no a place for relaxing in the area of community. There should be an appropriate place for relaxing in locality. The community should take part in taking care of elderly. Children should care about the right way of relaxation, organize activities for recreation within family, and talk to the elderly more to reduce their stress, not to make them feel distracted, abandoned, and alone, and to create a good relationship in family. Neighbors could be friends sharing ideas, talking together, eating together, performing activities together to make the elderly relax, asking each other how everything is going, and giving advices to each other. Having pets and chatting with children working in other provinces could help the elderly feel relaxed and reduce their loneliness and stress. Regarding management model, the government sector or related organizations should take action in establishing a club or association (formal/informal), provide assistance and support in terms of policy, practice, and development, as well as maintain the advantages of community, sufficiency, and sustainability.
มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์. งานวิทยบริการและเทคโนโลยีการศึกษา
Address: มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์
Email: aret.ksu@ksu.ac.th, awoot.so@ksu.ac.th
Role: แหล่งทุน
Created: 2556
Modified: 2020-05-18
Issued: 2563-05-18
งานวิจัย/Research report
application/pdf
tha
©copyrights มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์
RightsAccess:
ลำดับที่.ชื่อแฟ้มข้อมูล ขนาดแฟ้มข้อมูลจำนวนเข้าถึง วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1 รวมเล่ม.pdf 3.48 MB49 2025-07-04 17:03:38
ใช้เวลา
0.018765 วินาที

สิรินดา กมลเขต
Title Contributor Type
แนวทางการปรับตัวของผู้สูงอายุในจังหวัดกาฬสินธุ์ กรณีศึกษา กลุ่มผู้สูงอายุในอำเภอนามน จังหวัดกาฬสินธุ์
มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์
สิรินดา กมลเขต
สำนักงานบริหารโครงการวิจัยในอุดมศึกษา และพัฒนามหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ
งานวิจัย/Research report
รัฐบาลดิจิทัลกับกลไกการสร้างนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่ : นโยบายและการนาไปปฏิบัติ
มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์
พิมพ์ลิขิต แก้วหานาม;อาริยา ป้องศิริ;จริยา อินทนิล;กตัญญู แก้วหานาม;สิรินดา กมลเขต
มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์
งานวิจัย/Research report
กลไกการขับเคลื่อนการสร้างนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่ตามนโยบาย รัฐบาลดิจิทัลไปสู่การปฏิบัติ กรณีศึกษาพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ : นโยบายและการนาไปปฏิบัติ
มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์
พิมพ์ลิขิต แก้วหานาม;อาริยา ป้องศิริ;จริยา อินทนิล;กตัญญู แก้วหานาม;สิรินดา กมลเขต
มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์
งานวิจัย/Research report
สำนักงานบริหารโครงการวิจัยในอุดมศึกษา และพัฒนามหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ
Title Creator Type and Date Create
โครงการผลของความหลากหลายทางชนิดของศัตรูธรรมชาติของแมลงศัตรูข้าวต่อผลผลิตในระบบการปลูกข้าวที่ใช้สารเคมีและอินทรีย์: กรณีศึกษาในพื้นที่ภาคเหนือ; จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย และพะเยา
มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
สำนักงานบริหารโครงการวิจัยในอุดมศึกษา และพัฒนามหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา
รุ่งเกียรติ แก้วเพชร
ศมาพร แสงยศ
งานวิจัย/Research report
ทักษะการแสวงหาความรู้ของเด็กปฐมวัยโดยการใช้กิจกรรม ศิลปะสร้างสรรค์จากเปลือกข้าวโพด ในเขตอำเภอนามน จังหวัดกาฬสินธุ์
มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์
สำนักงานบริหารโครงการวิจัยในอุดมศึกษา และพัฒนามหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ
นาตยา หกพันนา
งานวิจัย/Research report
โครงการวิจัยผลิตภัณฑ์ธัญพืชกึ่งสำเร็จรูปจากข้าวและข้าวโพดอินทรีย์เพื่อการถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ชุมชน
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล อีสาน
สำนักงานบริหารโครงการวิจัยในอุดมศึกษา และพัฒนามหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ)
วิภาวดี พันธ์หนองหว้า
สาคร แสงสุวอ
ภูวิพัฒน์ เกียรติ์สาคเรศ
อนุชิตา มุ่งงาม
เกรียงศักดิ์ มั่นเสถียรสิน
งานวิจัย/Research report
ผลของความหลากหลายทางชนิดของศัตรูธรรมชาติของแมลงศัตรูข้าวต่อผลผลิตในระบบการปลูกข้าวที่ใช้สารเคมีและอินทรีย์ : กรณีศึกษาในพื้นที่ภาคเหนือ: จังหวัดเชียงใหม่ เชียงรายและพะเยา
มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
สนับสนุนโดยสำนักงานบริหารโครงการวิจัยในอุดมศึกษา และพัฒนามหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา
รุ่งเกียรติ แก้วเพชร
ศมาพร แสงยศ
งานวิจัย/Research report
การศึกษาบริบทชุมชนแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ เพื่อเป็นแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์
มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์
สำนักงานบริหารโครงการวิจัยในอุดมศึกษา และพัฒนามหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ
กานต์ชนก ดาบสมเด็จ
งานวิจัย/Research report
กระบวนการพัฒนาทักษะการจัดการเรียนรู้ในห้องเรียนแบบเรียนรวมเด็กพิเศษ และเด็กปกติ ของนักศึกษาสาขาวิชาวิทยาศาสตร์ทั่วไป และสาขาวิชาการศึกษาปฐมวัย คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์
มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์
สำนักงานบริหารโครงการวิจัยในอุดมศึกษา และพัฒนามหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ
รัชดาพรรณ อินทรสุขสันติ
เยาวเรศ รัตนธารทอง
ศักดิ์ชัย มหาอุตร
ภัทรพร ผลดี
งานวิจัย/Research report
การศึกษาพัฒนาและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเสมือนจริงบนสมาร์ทโฟน เพื่อนำเสนอข้อมูลทางด้านศิลปและวัฒนธรรมในจังหวัดกาฬสินธุ์
มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์
สำนักงานบริหารโครงการวิจัยในอุดมศึกษา และพัฒนามหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ
ทรงกรด พิมพิศาล
งานวิจัย/Research report
โครงการการสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นการทอผ้าชาวไทญ้อสู่เยาวชนด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ ในตำบลแซงบาดาล อำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์
มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์
สำนักงานบริหารโครงการวิจัยในอุดมศึกษา และพัฒนามหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ
อัครเจตน์ ชัยภูมิ
งานวิจัย/Research report
ห่วงโซ่อุปทานมันสำปะหลังในเขตจังหวัดกาฬสินธุ์
มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์
สำนักงานบริหารโครงการวิจัยในอุดมศึกษา และพัฒนามหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ
สุพรรษา ผาสุข
งานวิจัย/Research report
การศึกษาความหลากหลายทางชีวภาพของเห็ดกับวิถีชีวิตชุมชนแวดล้อมป่าห้วยสังเคียบเพื่อการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน
มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์
สำนักงานบริหารโครงการวิจัยในอุดมศึกษา และพัฒนามหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ
คมสัน นามตะคุ
งานวิจัย/Research report
รูปแบบการจัดการความรู้กลุ่มอาชีพของชุมชนบ้านเหล่าใหญ่ อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์
มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์
สำนักงานบริหารโครงการวิจัยในอุดมศึกษา และพัฒนามหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ
ชัยยนต์ เพาพาน
ศักดิ์สิธิ์ ฤทธิลัน
ปิยนุช เกี๋ยนมา
งานวิจัย/Research report
คุณค่าทางนิเวศและวัฒนธรรมของความหลากหลายทางชีวภาพของไม้พื้นถิ่นในป่าศักดิ์สิทธิ์ของชนเผ่าไทญ้อ ในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ประเทศไทย
มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์
สำนักงานบริหารโครงการวิจัยในอุดมศึกษา และพัฒนามหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ
ธันวา ใจเที่ยง
งานวิจัย/Research report
แนวทางการปรับตัวของผู้สูงอายุในจังหวัดกาฬสินธุ์ กรณีศึกษา กลุ่มผู้สูงอายุในอำเภอนามน จังหวัดกาฬสินธุ์
มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์
สำนักงานบริหารโครงการวิจัยในอุดมศึกษา และพัฒนามหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ
สิรินดา กมลเขต
งานวิจัย/Research report
Copyright 2000 - 2025 ThaiLIS Digital Collection Working Group. All rights reserved.
ThaiLIS is Thailand Library Integrated System
สนับสนุนโดย สำนักงานบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อพัฒนาการศึกษา
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
328 ถ.ศรีอยุธยา แขวง ทุ่งพญาไท เขต ราชเทวี กรุงเทพ 10400 โทร. โทร. 02-232-4000
กำลัง ออน์ไลน์
ภายในเครือข่าย ThaiLIS จำนวน 0
ภายนอกเครือข่าย ThaiLIS จำนวน 3,389
รวม 3,389 คน

More info..
นอก ThaiLIS = 51,646 ครั้ง
มหาวิทยาลัยสังกัดทบวงเดิม = 861 ครั้ง
มหาวิทยาลัยราชภัฏ = 2 ครั้ง
มหาวิทยาลัยเอกชน = 1 ครั้ง
รวม 52,510 ครั้ง
Database server :
Version 2.5 Last update 1-06-2018
Power By SUSE PHP MySQL IndexData Mambo Bootstrap
มีปัญหาในการใช้งานติดต่อผ่านระบบ UniNetHelp


Server : 8.199.134
Client : Not ThaiLIS Member
From IP : 216.73.216.46