การพัฒนารูปแบบการบริหารงานบุคคลที่มีประสิทธิผล ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาในเขตกรุงเทพมหานคร

A Development on An Effective Personnel Management Model of Bangkok Secondary Educational Service Area Office

Name: สุมณฑา สาธุกานนท์

keyword: สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาในเขตกรุงเทพมหานคร

ThaSH: โรงเรียนมัธยมศึกษา -- บุคลากรทางการศึกษา -- การบริหาร

ThaSH: โรงเรียนมัธยมศึกษา -- การบริหารการศึกษา

Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพการบริหารงานบุคคลของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาในเขตกรุงเทพมหานคร 2) พัฒนารูปแบบการบริหารงานบุคคลที่มีประสิทธิผลของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาในเขตกรุงเทพมหานคร และ 3) ประเมินรูปแบบการบริหาร งานบุคคลที่มีประสิทธิผลที่พัฒนาขึ้น กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ บุคคลากรที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานบุคคลของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 375 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามที่เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) แบบสัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth Interview) และแบบสนทนากลุ่ม (Focus Group Discussion) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา (Content Analysis) ผลการวิจัยพบว่า 1. สภาพการบริหารงานบุคคลของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาในเขตกรุงเทพ-มหานคร โดยภาพรวมและรายด้าน มีการปฏิบัติอยู่ในระดับน้อย เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ด้านที่มีการปฏิบัติสูงสุด คือ ด้านการวางแผนกำลังคน รองลงมาคือ ด้านการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา ส่วนด้านที่มีการปฏิบัติต่ำสุด คือ การประเมินผลการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการศึกษา 2. รูปแบบการบริหารงานบุคคลที่มีประสิทธิผลของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาในเขตกรุงเทพมหานคร ได้แก่ ด้านการวางแผนกำลังคน ซึ่งมีลำดับขั้นกระบวนการของรูปแบบ คือ 1) ศึกษาความต้องการกำลังคน 2) ประเมินกำลังคนที่มีอยู่ในปัจจุบัน 3) คาดการกำลังคนที่ต้องการในอนาคต 4) วางแผนกำลังคนโดยเน้นการมีส่วนร่วมของบุคลากรทุกฝ่าย 5) จัดทำแผนกำลังคนที่มีคุณภาพ 6) ประเมินแผนกำลังคนและปรับปรุงก่อนนำไปใช้ 7) นำแผนกำลังคนไปใช้อย่างต่อเนื่อง และ 8) ประเมินและปรับปรุงการใช้แผนกำลังคน ด้านการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งมีลำดับขั้นกระบวนการของรูปแบบ คือ 1) ศึกษาความต้องการจำเป็นที่ต้องมีการพัฒนาบุคลากร 2) สร้างหลักสูตรการพัฒนาบุคลากรที่มีคุณภาพ 3) กำหนดวิธีการพัฒนาบุคลากรที่มีความหลากหลาย 4) ดำเนินการพัฒนาตามหลักสูตรและแผนที่กำหนดขึ้นอย่างเคร่งครัด 5) ประเมินการพัฒนาบุคลากรระหว่างการพัฒนาและหลังการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง 6) กำกับติดตามการนำความรู้และทักษะที่ได้จากการพัฒนาไปใช้ในการปฏิบัติงานของบุคลากรเป็นรายบุคคล และ 7) ปรับปรุงรูปแบบและวิธีการพัฒนาบุคลากรให้ทันสมัยอยู่เสมอ ด้านการประเมินผลการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งมีลำดับขั้นกระบวนการของรูปแบบ คือ 1) ศึกษาข้อดีและข้อจำกัดในการปฏิบัติงานของบุคลากรเป็นรายบุคคล 2) กำหนดความมุ่งหมาย มาตรฐาน และเกณฑ์ การประเมิน 3) กำหนดวิธีการพัฒนาที่หลากหลายเพื่อให้บุคลากรได้เลือกวิธีที่เหมาะสมกับตนเอง 4) กำหนดแผนการพัฒนาบุคลากรโดยเน้นการมีส่วนร่วมของบุคลากรทุกฝ่าย 5) กำหนดผู้ประเมินที่มีศักยภาพและมีความบริสุทธิ์ยุติธรรม 6) ดำเนินการประเมินโดยองค์คณะบุคคล 7) ตัดสินผลการประเมินด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม 8) แจ้งผลการประเมินโดยเปิดโอกาสให้ผู้รับการประเมินได้ทักท้วงและชี้แจงเพิ่มเติม และ 9) แก้ไขหรือยืนยันผลการประเมินโดยคณะกรรมการประเมิน ด้านการเสริมสร้างวินัยและจรรยาบรรณ ซึ่งมีลำดับขั้นกระบวนการของรูปแบบ คือ 1) ศึกษาและวิเคราะห์ระดับการมีวินัยและจรรยาบรรณของบุคลากร ทั้งรายบุคคลและภาพรวม 2) กำหนดประเด็นด้านวินัยและจรรยาบรรพที่ต้องทำการพัฒนา 3) กำหนดหลักสูตร คู่มือและแผนการพัฒนาที่มีคุณภาพ 4) ดำเนินการพัฒนาตามแผนที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด 5) ประเมินผลการพัฒนาทั้งระหว่างการพัฒนาและหลังการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และ 6) นำผลการพัฒนามาปรับปรุงกระบวนการพัฒนาในปีต่อไป ด้านการพัฒนาวิชาชีพบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งมีลำดับขั้นกระบวนการของรูปแบบ คือ 1) ศึกษาความต้องการจำเป็นที่ต้องมีการพัฒนาวิชาชีพของบุคลากร 2) พัฒนาหลักสูตรการพัฒนาวิชาชีพของบุคลากรทางการศึกษาที่มีคุณภาพ 3) กำหนดแผนการพัฒนาวิชาชีพของบุคลากรทางการศึกษาที่เหมาะสมและมีคุณภาพ 4) ดำเนินการพัฒนาตามหลักสูตรและแผนที่กำหนดขึ้นอย่างเคร่งครัด 5) ประเมินผลการพัฒนาด้านความรู้ ทักษะและเจตคติต่อวิชาชีพของบุคลากรทุกปีการศึกษา และ 6) ปรับปรุงรูปแบบและวิธีการพัฒนาวิชาชีพของบุคลากรทางการศึกษาให้มีประสิทธิภาพอยู่เสมอ 3. ผลการประเมินรูปแบบการบริหารงานบุคคลที่มีประสิทธิผลที่พัฒนาขึ้น ในภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ทุกด้านอยู่ในระดับเหมาะสมมากที่สุด โดยด้านที่มีค่าเฉลี่ยความเหมาะสมสูงสุด คือ ด้านการวางแผนกำลังคน รองลงมาคือ ด้านการประเมินผลการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการศึกษา และด้านการพัฒนาวิชาชีพบุคลากรทางการศึกษา ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยความเหมาะสมต่ำสุด คือ ด้านการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา และด้านการเสริมสร้างวินัยและจรรยาบรรณ

Abstract: This research aimed to 1) study condition of personnel administration of Secondary Educational Service Area Office in Bangkok, 2) develop a model of an Effective personnel management of Bangkok Secondary Educational Service Area Office, and 3) evaluate the developed model. Representative sample used in this research is the personnel involved to personnel administration of Bangkok Secondary Educational Service Area Office total 375 persons. The research instruments used to collect the data were a rating scale questionnaire, in-depth interview, and focus group discussion. The statistics used in analyzing the data are percentage, average, Standard Deviation, and content analysis. The research results reveal as follows: 1. Personnel administration of Secondary Educational Service Area Office in Bangkok area, the level of performance by overall and each aspect is at a low level. Considering each aspect found that the aspect with the highest mean of performance is manpower planning, followed by the development of teachers and education personnel. The aspect with the lowest mean of performance is the evaluation of educational personnel performance. 2. The model of an effective personnel management of Secondary Educational Service Area Office in Bangkok such as Manpower Planning aspect which has a model sequence of procedure: 1) Study manpower needs; 2) Estimates current manpower; 3) Forecast future manpower needs; 4) Manpower planning with an emphasis on the participation of personnel at all divisions; 5) Planning quality manpower; 6) Evaluate manpower plan and modify before applied; 7) Apply manpower plan continuously; and 8) Evaluate and modify the use of manpower plan. Development of Teachers and Education Personnel aspect which have the sequence of process models: 1) Study necessary needs for personnel development; 2) Create curriculum of quality personnel development; 3) Determine method of personnel development diversified; 4) Developing curriculum and plan strictly; 5) Evaluate personnel administration development between and after the development continuously; 6) Monitoring the knowledge and skills acquire from the development for operational personnel individually and 7) Improve the model and personnel administration development method to be modern. The evaluation of the performance of education personnel aspect which have the sequence of process models: 1) Study the advantages and limitations in the performance of individual personnel; 2) Specify purpose, standard and evaluation criteria; 3) Determine method of personnel development diversified to suits each personal; 4) Determine Personnel Development plan with an emphasis on the participation of personnel at all divisions; 5) Determine potential and honest assessor; 6) Evaluation by the committee; 7) Judging the results of evaluation with honest; 8) Report evaluation results by allowing the evaluation recipient to remonstrate and clarification; and 9) Rectify or confirm the results of the evaluation by the evaluation committee. The Strengthening of Discipline and Ethics aspect which have the sequence of process models: 1) Study and analyze the level of discipline and ethics of personnel, both individually and overall; 2) Determining disciplinary and ethical issues which need to develop; 3) Determining curriculum, manuals and quality development plan; 4) Developing curriculum and plan strictly; 5) Evaluate Personnel Administration Development between and after the development continuously; 6) Bring the results of development to improve the development process next year. The Professional Development of Education Personnel aspect which have the sequence of process models: 1) Study the need for professional development of personnel; 2) Develop the professional curriculum development of educational personnel quality; 3) Determining professional development plan of education personnel which is appropriate and quality; 4) Developing curriculum and plan strictly; 5) Evaluate the development of knowledge, skills and professional attitude of all personnel in every semester; and 6) improve the model and the methods of professional development plan of education personnel to be always effective. 3. The results of an evaluation of the developed model found that the model is most appropriate. Considering each aspect also found every aspect is at the most appropriate. The aspect with most appropriate average is manpower planning, followed by evaluation of educational personnel performance, and professional development of educational personnel aspect. For the aspects with lowest average are the development of teachers and education personnel aspect and the strengthening of discipline and ethics.

มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ. สำนักหอสมุดและสารสนเทศ

Address: กรุงเทพมหานคร

Email: library@northbkk.ac.th

Name: เฉลิมชัย วิโรจน์วรรณ

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Name: พีระพงษ์ สิทธิอมร

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Modified: 2563-03-08

Issued: 2563-03-07

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

Spatial: กรุงเทพมหานคร

DegreeName: ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต

Level: ปริญญาเอก

Descipline: การบริหารการศึกษา

Grantor: มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ

©copyrights มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	SUMONTHA SATUKANON.pdf	2.12 MB	240	2025-10-21 10:15:08

ใช้เวลา

0.051049 วินาที